สงสัยจะโชว์ผลงานจับกุมเป็นรายวัน ออกทีวี ออกหนังสือพิมพ์บ่อยจนหลายคนนึกว่าเป็น "ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว" สำหรับ บิ๊กโจ๊ก-พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว(รองผบช.ทท.) เพราะกลางเดือนพฤษภา.ที่ผ่านมา เพจกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว(บช.ทท.) แนะนำผู้บังคับบัญชาในสังกัด โดยประเดิม บิ๊กหลวง-พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว(ผบช.ทท.) ซึ่งถือเป็น ผู้บัญชาการตำรวท่องเที่ยว คนแรกของหน่วยนี้ ที่ยกระดับจากกองบังคับการ(บก.) ขึ้นมาเป็น กองบัญชาการ(บช.) แต่มีอยู่คอมเมนต์หนึ่งที่มาแสดงความคิดเห็นบอก.."นึกว่า บิ๊กโจ๊ก เป็น ผู้บัญชาการ" เล่นเอาหลายคนได้อ่านอดอมยิ้มไม่ได้ แหม...ก็เพจกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว เกือบทุกโพสต์ที่ปรากฎส่วนใหญ่จะเป็นข่าว บิ๊กโจ๊ก แถลงข่าวคดีโน้นคดีนี้ ก็ไม่แปลกอะไรที่จะมีคนเข้าใจผิดนึกว่าเป็น ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยวไปแล้ว(ฮาฮา) ๐

ต้องบอกว่า "อดสู" ข่าวตำรวจจังหวัดเลย 192 นาย ร้องเรียนถูกพล.ต.ต.สุทิพย์ ผลิตกุศลธัช อดีตผู้บังคับการจังหวัดเลย หลอกให้ลงทุนโครงการกู้รวมหนี้ของสหกรณ์ จนเป็นหนี้เป็นสินกันจำนวนมาก แม้ บิ๊กแป๊ะ-พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา แม่ทัพใหญ่สีกากี จะโดดลงมาช่วยเหลือในการหาเงินกูเแกเฉินช่วยเรียบร้อยแล้ว แต่พอได้อ่านบทสัมภาษณ์   ด.ต.จราจร สภ.เมืองเลย รายหนึ่งบอก "เมื่อทางธนาคารได้ทวงถาม ผมกลัวเสียเครดิต จึงได้ไปหยิบยืมเงินจากญาติพี่น้องเพื่อไปจ่ายธนาคาร จนกระทั้งหลายเดือนเข้า จึงตัดสินใจนำปืนส่วนตัวไปจำนำ 2 กระบอก เพื่อเอาเงินไปจ่ายธนาคาร แต่ตอนนี้หมดหนทางยืนเงินญาติพี่น้องจนครบทุกคนแล้วยังไม่มีเงินจ่ายคืนให้เขา ปืนที่เคยพกติดตัวก็ไม่มีด้วยซ้ำจำนำหมด" ยิ่งอ่าน ยิ่งต้องถอนหายใจ...โถ พวกเดียวกันเองไม่น่าจะทำกันได้ "บิ๊กแป๊ะ"ต้องสอบข้อเท็จจริงนำคนผิดที่หากินบนหลังพวกเดียวกันมาดำเนินการให้ได้ ๐

ต้องบอกเหน็บกันเห็นๆ โอ๊ค-พานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร ทวิตข้อความพาดพิงไปถึง บิ๊กปู-พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. ที่ออกมาบอกถึงเรื่องสำนักข่าวต่างประเทศรายงานอังกฤษออกวีซ่า 10 ปี ให้ "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" อดีตนายกรัฐมนตรีว่า "ข้อมูลเบื้องต้นจากกองการต่างประเทศจนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับการยืนยันจากหน่วยงานใดว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้วีซ่าอยู่อังกฤษ 10 ปี ตามที่ปรากฏเป็นข่าว ต้องรอตรวจสอบก่อน พร้อมกับสั่งให้กองการต่างประเทศทำหนังสือถึงสถานทูตอังกฤษประจำประเทศไทยเพิ่มเติมเพื่อยืนยันข้อมูลด้วย" แต่ "โอ๊ค" โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว ระบุ “ผมยืนให้เอาไหมครับท่าน ผบ ? เอ้ย ท่านรองสิ” ไม่รู้ "บิ๊กปู" เห็นโพสต์อันนี้หรือยัง ๐

นับถอยหลังเหลืออีกไม่กี่วันมหกรรมการแข่งขันฟุตบอลโลกจะเริ่มขึ้น ตอนนี้ บิ๊กอวบ-พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รองผบ.ตร.) เลยต้องเร่งลงพื้นที่รณรงค์ต่อต้านการพนันทายผลฟุตบอลฟุตบอลโลก 2018 โดยเฉพาะตามโรงเรียนต่างๆ ป้องกันเด็กและเยาวชนไม่ให้ตกไปอยู่วังวนของการพนัน โดยบอกให้ความรู้ และรณรงค์ให้เด็กนักเรียน ไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับการทายพนันผลฟุตบอล ในช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลกที่กำลังจะมาถึง และฝากผู้ปกครองค่อยเป็นหูเป็นตา ตักเตือนบุตรหลาน อย่าไปยุ่งเกี่ยว พร้อมทั้งประกาศเสียงดังฟังชัด "ในช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 ตำรวจจะระดมกวาดล้าง จับกุมการทายพนันผลฟุตบอล ในระบบออนไลน์ โดยได้ออกแผนปฏิบัติการมาตั้งแต่เดือนที่ผ่านมา และจะดำเนินคดีกับโต๊ะรับแทงพนันเฉียบขาด" ๐

จัดระเบียบวินมอเตอร์ไซด์ 2 ครั้ง กองพลที่ 1 รักษาพระองค์ (พล.1 รอ.) เป็นแม่งาน ล่าสุดมีการจัดระเบียบรอบที่ 3 ในปีนี้ย้ายมาฟากมาที่ มณฑลทหารบกที่ 11 ( มทบ.11)  มี "บิ๊กเล็ก" พล.ต.ปิยพงษ์ กลิ่นพันธ์ ผบ.มทบ.11 เป็นหัวโต๊ะแถลงแนวทาง ร่วมกับ  "สนิท พรหมวงษ์" อธิบดีกรมการขนส่งทางบก  พ.ต.อ.เศรษฐศักดิ์ ยิ้มเจริญ รอง ผบก.จร. และ"ธีรพันธ์ อภิรัฐธนาภรณ์" ผอ.สำนักเทศกิจ  พร้อมๆ กับการรณรงค์การใช้แอพพลิเคโดยมีผู้แทนจากวินรถจักรยานยนต์รับจ้างสาธารณะใน กทม. และ ผู้ให้บริการแอพพลิเคชั่น Grab Bike , Go Bike และ Banana Bike ร่วมด้วย  หลังจากมีข่าวเรื่องการแย่งลูกค้า ระหว่างการใช้บริการทั้งสองช่องทาง  ส่วนตารางการดำเนินงานออกมาแล้ว เริ่มตั้งแต่มิ.ย.เริ่มรณรงค์ให้ผู้ขับวินเข้าร่วมสมัครแอพพลิเคชั่น ตามมาด้วย เดือนกค.-สค.ทางเขต/อำเภอเปิดรับสมัครผู้ขับขี่ใหม่ในวินเดิม และวินที่จะตั้งใหม่ รวมถึง พิสูจน์สิทธิ์ผู้สมัคร โดยเจ้าหน้าที่เทศกิจแต่ละเขตดำเนินการเปิดรับสมัครในเขตของตนเอง จากนั้น สค.-ตค.พิสูจน์สิทธิ์ ปิดท้ายที่ พย.-กพ.ให้ผู้สมัครดำเนินการให้เรียบร้อยใน120วัน/ รณรงค์ทุกวินรับสมัครแอพพลิเคชั่น/ ประเมินความพึงพอใจของผู้ขับขี่ และผู้โดยสาร๐

แต่เมื่อเจอ "บิ๊กเล็ก" พล.ต.ปิยพงษ์  ที่ทำหน้าที่เป็น ทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จะถามเฉพาะเรื่องวินมอเตอร์ไซด์ "ก็ใช่ที่" เหล่าบรรรดาผู้สื่อข่าวเลยต้องสัมภาษณ์ปมประเด็นหลังจากที่ ศาลรัฐธรรมนูญตีความว่า พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสภาผู้แทนราษฎร เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเที่ยว  ทว่า "บิ๊กเล็ก มโหฬาร" อิดออดเล็กน้อย เพราะเรื่องร้อนทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นประเด็นพรรคอนาคตใหม่ แอมนาสตี้เรียกร้องให้มีการปล่อยตัวผู้กระทำผิดฐานขัดคำสั่ง คสช. อาจจะพลาดได้  จึงขอให้ผู้สื่อข่าวเห็นใจ "เซฟไลฟ์ แอนด์ เซฟเล็ก"ไว้ก่อน   แต่ในที่สุดเมื่อยิงคำถามไป ชุดใหญ่ - ชุดเล็ก ทีมโฆษก คสช. ผู้นี้ตอบได้แบบ บัวไม่ให้ช้ำ - น้ำไม่ให้ขุ่น แต่อยู่ในร่องเสียงนาย ได้แบบไม่กระทบต่อเส้นชีวิต ๐

ศุกร์สุดสัปดาห์ ส่ง "บิ๊กอ้อม" พล.อ.วีรชัย อินทุโสภณ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก ไปประชุมยุทธศาสตร์ชาติที่ทำเนียบรัฐบาล ส่วน "บิ๊กเจี๊ยบ พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก และ รอง ผอ.รมน. เดินทางลงชายแดนใต้ ประชุมกับ หน่วยทหารในพื้นที่ และ เยี่ยม ฉก.ปัตตานี25 แบบ เงียบเชียบ และ ไปแบบ "ชุดเล็ก" เพื่อเน้นย้ำการปฏิบัติของหน่วยทหารของ ทบ. ให้สอดคล้องกับนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ ผอ.รมน. และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นายกฯ/รมว.กห. รวมทั้งให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ด้านความมั่นคง พร้อมเดินหน้าชี้แจงงานีรัฐบาลในการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ การปราบปรามผู้มีอิทธิพล การปราบปรามขบวนการยาเสพติด การรักษาความสงบเรียบร้อย การเสริมสร้างบรรยากาศแห่งความสามัคคีปรองดอง เพื่อความพร้อมสำหรับการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในต้นปี 62 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การดูแลพี่น้องเกษตรกรและประชาชนผู้มีรายได้น้อย ในขณะที่ภาคเหนือก็ส่ง "บิ๊กเล็ก" พล.อ.ณัฐพล  นาคพาณิชย์ เสธ.ทบ./เลขาธิการ กอ.รมน เดินทางไปชี้แจงในส่วนของกองทัพภาคที่ 3 ๐

หลังจากที่ กองทัพบก เอาเรื่องกับบุคคลที่ถ่านภาพหลุดรถถัง ภายในที่ตั้งทหารนำไปเผยแพร่ทางเพจอาวุธ  ล่าสุดมีเพจข่าวนำภาพ เครื่องบิน เอฟ-16 4 ลำ กำลังลงจอดที่กองบิน 23 จ.อุดรธานีมาเผยแพร่  แม้เครื่องบินดังกล่าวจะไม่ใช่เป็นเครื่องบินของกองทัพอากาศไทย แต่เป็นเครื่องบินของกองทัพอากาศสิงคโปร์ ที่มาทำการฝึกบินตามวงรอบตามเอ็มโอยู 2 ชาติที่ทำร่วมกันตามระเบียบ แต่ภาพที่"ถ่ายมุมสูง" เข้าไปในสนามบินทหารที่ตั้งด้านยุทธวิธีทางทหารมีกฎห้ามไว้  ตามขั้นตอนคงมีการแจ้งถึงการเผยแพร่ภาพดังกล่าวแล้วว่าไม่มีความเหมาะสม แต่จะให้ดี เรื่องกฎ-ระเบียบที่เป็นวงในแบบนี้  ถ้า ทอ.ประกาศเป็นข้อห้ามที่เผยแพร่ในวงกว้างมากขึ้น ก็จะดีกับทุกฝ่ายเพื่อป้องกันการ "รู้เท่าไม่ถึงการณ์" ที่คนนอกคงไม่ได้รับรู้กันทุกคน๐