ควันหลงวันเด็ก...กับนรกของเด็กๆ ในเยเมน


เพิ่มเพื่อน    

เพิ่งผ่านพ้น วันเด็ก ไปหมาดๆ...สำหรับเด็กบ้านเราจะปลาบปลื้ม ยินดี กับ วันเด็กที่ผู้ใหญ่จัดให้ มากน้อย ขนาดไหน จะรู้สึกสุข สบาย อบอุ่น มั่นคง ปลอดภัย ขณะได้ถ่ายรูปเซลฟีคู่กับ หุ่นของบิ๊กตู่ หรือไม่ ประการใด อันนั้น...คงต้องไปถามเด็กๆ กันเอาเอง แต่ที่แน่ๆ ก็คือ...อย่างน้อยเด็กในบ้านเราก็น่าจะโชคดีกว่าเด็กในหลายต่อหลายประเทศ โดยเฉพาะประเทศเยเมน ประมาณหมื่นเท่า แสนเท่า เป็นอย่างน้อย...

-------------------

            เพราะสำหรับประเทศเยเมนนั้น...เพิ่งได้รับการจัดอันดับโดยตัวแทนหน่วยงานยูนิเซฟ ให้เป็น หนึ่งในสถานที่ที่เลวร้ายที่สุดสำหรับเด็กๆ ตามรายงานข่าวซึ่งได้รับการเผยแพร่โดยสำนักข่าวต่างประเทศหลายสำนักเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา คือหลังจากที่ยูเอ็นเขาได้ประกาศให้ปีค.ศ.2017 เป็น ปีแห่งฝันร้ายของเด็กๆ ผู้ซึ่งต้องติดอยู่ในกับดักความขัดแย้งของสงครามในแต่ละพื้นที่ ไม่ว่าในพม่า ไนจีเรีย สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก ซีเรีย ฯลฯ แต่ที่ออกจะร้ายแรงสุดๆ เห็นจะหนีไม่พ้นไปจากประเทศเยเมนนี่เอง ที่ตลอดช่วง 3 ปีที่ผ่านมา หรือหลังจากที่รัฐบาลซาอุฯ และประเทศพันธมิตรในกลุ่มอาหรับ ตัดสินใจส่งกองทัพเข้าบุกรุกแทรกแซงความขัดแย้งทางการเมืองในเยเมน จนทำให้เกิด สงครามที่ไม่มีวันจบ อยู่จนบัดนี้ ประเทศเยเมนอันได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่จนแสนจนอยู่แล้ว จึงตกอยู่ในสภาพไม่ต่างอะไรไปจาก ขุมนรกที่ลึกที่สุด ของบรรดาเด็กๆ ทั้งหลายเท่าที่มีอยู่บนโลกใบนี้...

  -------------------

            ดร. Meritxell Relano ตัวแทนหน่วยงานยูนิเซฟ ประจำเยเมน เป็นผู้ออกมายืนยันถึงสถานะดังกล่าวเพื่อให้บรรดาชาวโลกทั้งหลายพอได้เห็นภาพกันชัดๆ โดยการแสดงหลักฐาน ข้อพิสูจน์ ที่ว่า บรรดาเด็กๆ ชาวเยเมนไม่ต่ำกว่า 2 ล้านคนเป็นอย่างน้อย กำลังกลายเป็นเด็กที่หัวโต ก้นลีบ เป็นรายๆ ด้วยเหตุเพราะสภาวะขาดปัจจัยพื้นฐาน เพียงแค่อาหารธรรมดาๆ และน้ำดื่มบริสุทธิ์ ซึ่งเป็นอะไรซึ่งหายาก หาเย็น เต็มที ในจำนวนนี้ไม่ต่ำกว่า 385,000 ราย ที่ตกอยู่ในขั้นหนักหนา สาหัส คือไม่มีอะไรเข้าปาก เข้าท้อง ต้องนอนทนความหิวโหยอยู่บนเตียง ไม่มีแม้แต่เรี่ยวแรงพอที่จะลุกขึ้นมาหาอะไรใส่ปากได้เลยแม้แต่น้อย...

-------------------

            ถึงพยายามอาศัย น้ำลูบท้อง ไปวันๆ แต่บรรดาน้ำทั้งหลายในประเทศเยเมนแต่ละพื้นที่ มักไม่ใช่เป็นน้ำดื่มน้ำสะอาดบริสุทธิ์ ส่วนใหญ่ต้องปนเปื้อนไปกับบรรดาเชื้อโรคทั้งหลาย อันส่งผลให้ไม่ว่าเด็ก หรือผู้ใหญ่ คนแก่ คนชรา ต้องกลายเป็นเหยื่อ อหิวาตกโรค ที่แพร่สะพัดลุกลามไปทั่วทั้งประเทศ ผู้คนนับล้านๆ ต่างโดนโรคห่าเล่นงาน ชนิดไม่มีหยูกยาช่วยรักษา ช่วยป้องกัน ใดๆ ได้เลย เพราะไม่ว่าอาหาร น้ำดื่ม ยารักษาโรครูปแบบต่างๆ ล้วนถูกบล็อก ถูกห้าม ถูกสกัดไม่ให้ส่งถึงมือผู้ที่กำลังทุกข์ระทม ทั้งหลาย ด้วย เหตุผลทางทหาร ที่แต่ละฝ่ายหยิบยกมาเป็นข้ออ้างเพื่อช่วงชิงความได้เปรียบเสียเปรียบระหว่างกันและกันนั่นเอง โดยเฉพาะฝ่ายกองทัพผู้บุกรุก อย่างซาอุฯ และพันธมิตรอาหรับ ที่งัดเอามาตรการทางทหารมาปิดล้อมเมืองท่าต่างๆ จนบรรดาความช่วยเหลือจากประชาคมโลกแทบไม่มีโอกาสเข้าถึงบรรดาผู้ซึ่งต้องตกอยู่ในขุมนรกได้เลยแม้แต่น้อย...

-------------------

            นอกจากอหิวาตกโรคจะแพร่ระบาดไปทั่วประเทศ ยังตามมาด้วยโรคคอตีบ ที่กำลังเล่นงานพวกเด็กๆ ที่ไม่เพียงขาดอาหารขาดน้ำสะอาดบริโภค ยังขาดตัวยาแบบพื้นๆธรรมดาที่พอช่วยเยียวยา ป้องกันตัวเอง ได้บ้าง การต้องนอนรอความตายอยู่บนเตียงลูกเดียว จึงทำให้แต่ละครอบครัวพยายามหาทางออก หาทางเลือก ภายใต้ภาวะที่แทบไม่เหลือทางออก ทางเลือกใดๆ นอกซะจากการส่งเด็กๆบางรายในครอบครัว ที่ยังพอเหลือเรี่ยว เหลือแรง ยังสามารถจับปืน จับอาวุธ ขึ้นมาตอบโต้ใครต่อใครได้บ้าง ให้ไปเป็น ทหาร ของแต่ละฝ่าย เพื่อแลกกับเงินตอบแทนเล็กๆ น้อยๆ หรือพอได้มีอาหาร มีน้ำ เอาไว้ประทังชีวิตตัวเอง เด็กๆ อายุประมาณ 15 ปี หรือต่ำไปกว่านั้น จึงถูกส่งไป ฆ่ากันเอง ในแนวหน้าของแต่ละสมรภูมิ ชนิดแม้จะรอดจากการตายจากโรคอหิวาต์ คอตีบ หรือการขาดอาหาร แต่สุดท้าย...ต้องตายอยู่ในสนามรบ หรือไม่ก็ต้องกลายเป็นเด็กพิการ ไม่ต่ำไปกว่า 5,000 ราย เท่าที่ ดร. Relano พอนับหัว นับจำนวน ได้บ้าง...

-------------------

            ภายใต้สภาพเช่นนี้นี่เอง...ที่ทำให้นักหนังสือพิมพ์ชาวอิตาลี นาง Laura Silvia ที่ออกตระเวนไปทั่วแต่ละพื้นที่ในประเทศเยเมน เพื่อนำเอาข้อมูลต่างๆ มาเขียนเป็นหนังสือชื่อว่า The Yemeni Bride เมื่อไม่นานมานี้ ได้สรุปไว้แบบสั้นๆ ง่ายๆ แต่พอช่วยให้นึกภาพได้แบบชัดเจนพอสมควร คือสรุปว่า... สงครามในเยเมนไม่ได้เพียงแต่ทำให้ผู้คนต้องล้มตายกว่าหมื่นๆ ศพมาแล้วเท่านั้น แต่ยังเป็นสงครามที่จะทำลายรากฐานเจเนอเรชั่นแต่ละเจเนอเรชั่น โดยเฉพาะสำหรับเด็กๆ ที่มีอายุตั้งแต่ 15 ปี หรือต่ำกว่านั้น ที่ถูกเกณฑ์ ถูกระดม ให้ไปฆ่ากันเอง ความหวัง ความต้องการ หรือแม้แต่ความเป็นชาวเยเมนด้วยกันของพวกเขาถูกทำลายให้กลายเป็นซากปรักหักพังลงไปตั้งแต่ต้น...

-------------------

            ว่าไปแล้ว... นรกในเยเมน หรือความเป็น สถานที่ที่เลวร้ายที่สุดสำหรับเด็กๆ ในโลกนี้ ของประเทศเยเมน ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่ ผู้ใหญ่จัดให้ ไปด้วยกันทั้งสิ้น โดยความหวัง ความปรารถนา แบบผู้ใหญ่ๆ นั่นแหละ คือเพื่อที่จะให้ได้มาซึ่งอำนาจ ผลประโยชน์ หรือความต้องการที่จะสืบต่ออำนาจ ดำรงรักษาอำนาจเอาไว้ให้จงได้ มันเลยก่อให้เกิดสภาวะแวดล้อมชนิดที่ คำขวัญ ใดๆ ก็มิอาจช่วยชี้แนะ ชี้นำ ช่วยสร้างแบบอย่าง แนวทาง ให้กับเด็กๆ ชาวเยเมนได้เลย มีแต่ต้องอาศัย ความเป็นมนุษย์ ที่ยังอาจพอหลงเหลืออยู่บ้างภายในโลกใบนี้ หาทางช่วยเหลือ เยียวยา ผลกระทบจากสิ่งต่างๆ ไปตามสภาพ...

-------------------

            ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Horace... Wars are the dread of mothers.-สงครามคือความน่าหวาดหวั่นขวัญสยองสำหรับบรรดาปวงมารดาทั้งหลาย...

-------------------


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"