กรุงเทพฯ – บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์, เซ็นทรัลพลาซา, เซ็นทรัลเฟสติวัล, เซ็นทรัล ภูเก็ต และ เซ็นทรัล วิลเลจ ลักชูรี่เอาต์เล็ตแห่งแรกของไทย จับมือเคียงข้างพันธมิตรฝ่าวิกฤตด้วยแผนช่วยเหลือคู่ค้าและผู้ประกอบการกว่า 15,000 รายทั่วประเทศ ชูกลยุทธ์ Tenant-Centric Business Partnership ที่มอบความช่วยเหลือแบบ 360 องศา ผนึกกำลัง 7 สถาบันการเงินชั้นนำ ได้แก่ ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารกรุงไทย, ธนาคารกรุงศรีอยุธยา, ธนาคารกรุงเทพ, ธนาคารไทยพาณิชย์, ธนาคารทีเอ็มบีธนชาต และธนาคารออมสิน ช่วยเหลือคู่ค้าในการเข้าถึงสินเชื่อฟื้นฟูสะดวกรวดเร็ว  

นอกจากนี้ ยังช่วยเหลือดูแลค่าเช่าและเงินหมุนเวียนธุรกิจให้คู่ค้าอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เริ่มต้นสถานการณ์โควิด-19 จนถึงปัจจุบัน อัดกลยุทธ์การตลาดช่วยดันยอดขายร้านค้า ออกแคมเปญต่อเนื่องถึงสิ้นปี เตรียมผนึกกำลังในกลุ่มเซ็นทรัลและร้านค้าทั่วประเทศ กระตุ้นเศรษฐกิจไทยช่วยไทย พร้อมสนับสนุนภาครัฐในภารกิจระดับชาติ เปิดพื้นที่ 40,000 ตร.ม. ในศูนย์การค้าเซ็นทรัล 23 สาขา เป็นต้นแบบศูนย์การค้าปลอดภัยเพื่อฉีดวัคซีนทั่วไทย สร้างโอกาสช่วยดันยอดขายกับแคมเปญ I’M VACCINATED ชวนฉีดแล้วได้รับสิทธิพิเศษจากร้านค้าต่างๆ เพื่อกระตุ้นยอดขายร้านค้า พร้อมทั้งบุกเบิกแพลตฟอร์มและบริการใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง

นางสาววัลยา จิราธิวัฒน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่า “เซ็นทรัลพัฒนามุ่งมั่นที่จะดูแลและช่วยเหลือคู่ค้าและผู้ประกอบการ SME ให้ผ่านพ้นจากวิฤตการณ์นี้ไปด้วยกัน ตราบใดที่ยังมีโควิด เราจะจับมือเคียงข้างพันธมิตรทุกคนต่อไปอย่างถึงที่สุด ทั้งนี้แม้เราเองจะเป็นผู้ได้รับผลกระทบเช่นกัน แต่ยังคงยึดหลักการดำเนินธุรกิจด้วยความเป็นมืออาชีพ ทั้งในส่วนปรับแผนการลงทุน ลดค่าใช้จ่าย และมีแผนการบริหารงานอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ยังคงมีความแข็งแกร่ง เพื่อที่จะได้สามารถดูแลทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั้ง 33 สาขาทั่วประเทศ เปรียบเสมือนบ้านหลังใหญ่ มีคู่ค้าผู้เช่าอยู่กับเราถึง 15,000 ราย ซึ่งเราดูแลทั้งหมดมาตั้งแต่เริ่มต้นการแพร่ระบาด รวมความช่วยเหลือต่างๆ ทั้งเชิงธุรกิจและสังคม ในปี 2563 คิดเป็นมูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท และยังคงดูแลอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน”

นางสาววัลยา กล่าวต่อไปว่า “สำหรับความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนในปี 2564 นี้ เรายังคงประคับประคองทุกฝ่าย และในขณะเดียวกันก็ไม่หยุดยั้งที่จะขยายโอกาส สร้างยอดขาย บุกเบิกแพลตฟอร์มและบริการใหม่ๆ ที่จะหล่อเลี้ยงธุรกิจศูนย์การค้า พร้อมช่วยเหลือร้านค้าและพนักงานลูกจ้างต่อไปได้ โดยลงลึกอย่างครบถ้วนในทุกเรื่อง ภายใต้กลยุทธ์ Tenant-Centric Business Partnership ได้แก่

กลยุทธ์ที่ 1: เพิ่มสภาพคล่อง เข้าถึงสินเชื่อ Multi-Bank โปรแกรมสินเชื่อกับ 7 สถาบันการเงินชั้นนำ ให้คู่ค้าและผู้ประกอบการเข้าถึง ‘สินเชื่อฟื้นฟู’ หรือเงินกู้ Soft Loan และวงเงิน O/D เพื่อเสริมสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งเซ็นทรัลพัฒนามีจุดแข็งที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้คู่ค้าได้ ด้วยระบบ Grading ฐานข้อมูล Credit Score หรือความน่าเชื่อถือของคู่ค้าเซ็นทรัลพัฒนา ที่จะช่วย Tailor-Made แผนสินเชื่อให้คู่ค้าแต่ละรายได้ นอกจากนี้ ยังขยายความช่วยเหลือไปยังกลุ่ม Vendors & Suppliers ที่ทำธุรกิจกับบริษัทฯ กว่า 5,000 รายทั่วประเทศ ด้วย Supply Chain Financing Programme ในการเพิ่มกระแสหมุนเวียนเงินสด เพิ่มแหล่งเงินทุน และช่วยลดต้นทุนดอกเบี้ยธุรกิจ

กลยุทธ์ที่ 2: ดูแลค่าเช่าและเงินหมุนเวียนธุรกิจ โดยให้ส่วนลดอย่างเหมาะสมทันทีตามสถานการณ์

- รายแรกที่ประกาศลดค่าเช่า ตั้งแต่เริ่มต้นการระบาดโควิดและยังคงช่วยเหลือต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ด้วยส่วนลดค่าเช่าที่สะท้อนตามสถานการณ์จริง จนถึง 100% ในกรณีที่ต้องปิดศูนย์การค้า ตามประกาศรัฐ

- Flexible-Leasing Programme ช่วยให้ผู้เช่ายังขยายธุรกิจต่อไปได้ในสาขาโครงการใหม่ เช่น เซ็นทรัล อยุธยา และเซ็นทรัล ศรีราชา”

คุณวัลยา กล่าวเพิ่มเติมว่า “แม้จะเผชิญวิกฤตครั้งใหญ่แต่ธุรกิจยังคงต้องไปต่อ เรามีคู่ค้าต้องดูแล คู่ค้ามีพนักงานที่พวกเขาต้องดูแล ดังนั้น ในฐานะผู้บริหารศูนย์การค้าเราแสวงหาโอกาสและอัดทุกกลยุทธ์ที่จะช่วยดันยอดขายให้ร้านค้าในทุกๆ ทาง ดังนี้

กลยุทธ์ที่ 3: Tenant-Centric Marketing การตลาดเพื่อร้านค้า ถอดรหัสความสำเร็จ กลยุทธ์ดันยอดขายร้านค้าทุก Category อัดแคมเปญการตลาดต่อเนื่องถึงสิ้นปี

- Super Powerful CRM Marketing ด้วย ฐานข้อมูล The 1 เพิ่มยอดขายให้ร้านค้า

- สร้างโอกาสการขายด้วย Big Campaign & Big Promotion กระตุ้นเศรษฐกิจไทยช่วยไทย รวมพลังทั้งกลุ่มเซ็นทรัลและร้านค้าทุกสาขาทั่วประเทศ

- สร้างพลังคู่ค้าร้านอาหารเป็น Food Destination ช่วยดึง blogger กว่า 100 คน รีวิวต่อเนื่อง

- Tailor-Made Marketing จับมือพันธมิตรแต่ละราย สร้างแคมเปญการตลาด อาทิ Shopee, Major, SF, Grab, AIS และ Bank Partners ต่างๆ เป็นต้น

- ผู้นำต้นแบบศูนย์การค้าปลอดภัย เป็นพื้นที่ฉีดวัคซีน ผนึกพันธมิตรกว่า 100 ราย สนับสนุนพื้นที่ 40,000 ตร.ม. ใน 23 สาขา รายแรกริเริ่มแคมเปญ  I’m Vaccinated: ฉีดแล้วช้อป ที่เซ็นทรัล พร้อมรับสิทธิพิเศษจากร้านค้าต่างๆ

กลยุทธ์ที่ 4: รุกแพลตฟอร์มและบริการใหม่ ที่จะช่วยสร้างยอดขายและตอบรับพฤติกรรมผู้บริโภคในขณะนี้ ไม่ว่าจะเป็น

- Worry-Free Omnichannel: หลากหลายช่องทางพร้อมโปรโมชั่นสุดคุ้ม เช่น The 1 Unlimited สะสมและแลกพอยต์, Chat & Shop: ช้อปออนไลน์สะดวก, Credit Card Month: ช้อปปังทุกบัตร

- New Services: Take-Away Food Destination รวมร้านอาหาร 300 แบรนด์ดังไว้สั่งกลับบ้านสะดวกรวดเร็ว, บริการ Delivery อย่างเช่น GrabFood, บริการ Drive-Thru Pick-UP และ Live Streaming ทุกศูนย์การค้า เพื่อกระตุ้นยอดขายร้านค้า ซึ่งได้รับผลตอบรับดีอย่างต่อเนื่อง

- โปรแกรม The 1 Biz: Effective CRM เพิ่มยอดขายให้กับคู่ค้าและแผนสนับสนุนต่อเนื่องทั้งปี

- CentralPattana ‘Serve’ Application ช่วยเหลือคู่ค้าแบบครบวงจร”

#มั่นใจก้าวไปด้วยกัน เซ็นทรัลพัฒนา ในฐานะผู้นำศูนย์การค้าของไทย ขอเป็นหนึ่งในพลังบวกและกำลังสำคัญที่พร้อมร่วมมือกับทุกฝ่าย ทั้งการลดการแพร่ระบาดด้วยการเป็นผู้นำมาตรการแผนแม่บท “เซ็นทรัล สะอาด มั่นใจ” เพื่อดูแลความสะอาดและปลอดภัยในศูนย์การค้า รวมถึงการยกระดับมาตรการอย่างต่อเนื่อง อาทิ “ร้านอาหาร @เซ็นทรัล สะอาด มั่นใจ” พร้อมทั้งร่วมมือกับพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชนในการผลักดันภารกิจระดับชาติ เพื่อเร่งการกระจายวัคซีนอย่างรวดเร็วที่สุด โดยเปิดพื้นที่ 40,000 ตร.ม. ในศูนย์การค้าเซ็นทรัล 23 สาขาเป็นหน่วยบริการฉีดวัคซีน ที่ได้มาตรฐานและการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ และร่วมมือกับภาคเอกชนรวม 26 แบรนด์ในแคมเปญ “All for Heroes” ส่งมอบอุปกรณ์การแพทย์, อาหาร และของใช้จำเป็น ทั้งหมดนี้เซ็นทรัลพัฒนาต้องการอยู่เคียงข้างคนไทย ให้ประเทศชาติเดินหน้าต่อไปอย่างดีที่สุด