‘ลุงพล’โล่งให้ประกันตัว สำนวนฟ้องชี้ชัดจงใจทิ้ง


เพิ่มเพื่อน    

  ลุงพลได้ประกันตัว! ศาลขีดเส้น 5 เงื่อนไข พร้อมตั้งผู้ใหญ่บ้านกกกอกดูแลใกล้ชิด เปิดคำร้องตำรวจชี้ชัดตั้งใจทอดทิ้งน้องชมพู่ไว้เพียงลำพังบนเขาภูเหล็กไฟจนสุดท้ายเสียชีวิต

    เมื่อวันศุกร์ ที่ศาลจังหวัดมุกดาหาร  พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรนำตัวนายไชย์พล วิภา หรือลุงพล ผู้ต้องหาหมายจับของศาลจังหวัดมุกดาหาร ในความผิดฐานพรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดาโดยปราศจากเหตุอันสมควร, ทอดทิ้งเด็กอายุยังไม่เกินเก้าปีเพื่อให้เด็กนั้นพ้นไปเสียจากตนโดยประการที่ทำให้เด็กนั้นปราศจากผู้ดูแลเป็นเหตุให้เด็กถึงแก่ความตายและกระทำการใดๆ แก่ศพหรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้นในประการที่น่าจะทำให้การชันสูตรพลิกศพหรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป”
โดยคำร้องฝากขังระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 63 ช่วงเวลา 09.00-09.45 น. ผู้ต้องหาได้พาตัวเด็กหญิงอรวรรณ หรือน้องชมพู วงศ์ศรีชาอายุ 3 ปี 2 เดือน ซึ่งเป็นลูกสาวของนางสาวิตรี วงศ์ศรีชา มารดาและ นายอนามัย วงศ์ศรีชา บิดาไปในขณะเล่นอยู่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 73 หมู่ 2 ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหารของตนติดกับบ้านเลขที่ 73 หมู่ 2 ต.กกตูม อ. ดงหลวง จ.มุกดาหาร โดยปราศจากเหตุอันสมควร จากนั้นได้นำตัวเด็กหญิงอรวรรณ หรือน้องชมพู่ ไปซุกซ่อนและทอดทิ้งไว้ที่บริเวณป่าท้ายหมู่บ้านอยู่ทางทิศเหนือของหมู่บ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ทางขึ้นเขาภูเหล็กไฟเพียงลำพังโดยปราศจากผู้ดูแล แล้วไปทำธุระรับ-ส่งพระ หลังเกิดเหตุชาวบ้านได้ช่วยกันออกติดตามหาตัวเด็กหญิงอรวรรณ หรือน้องชมพู่ แต่ไม่พบตัวภายหลังเมื่อผู้ต้องหาเสร็จธุระส่งพระจึงย้อนกลับมานำตัวเด็กหญิงอรวรรณ หรือน้องชมพู่ ซึ่งยังไม่เสียชีวิตและพยายามเดินหาทางกลับบ้านขึ้นไปซุกซ่อนและปล่อยทอดทิ้งไว้บนเขาภูเหล็กไฟเพียงลำพังอีกครั้งให้พ้นไปเสียจากตนโดยปราศจากผู้ดูแล เป็นเหตุให้เด็กหญิงอรวรรณซึ่งไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ เพราะเป็นเด็กมีอายุเพียง 3 ปี 2 เดือนไม่สามารถออกจากบริเวณเขาภูเหล็กไฟที่ถูกปล่อยทอดทิ้งไว้ได้จนกระทั่งหมดแรงและเสียชีวิตบนเขาภูเหล็กไฟในเวลาต่อมาจากนั้นผู้ต้องหาได้เข้าไปกระทำการแก่ศพของเด็กหญิงอรวรรณ
     และสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพโดยถอดเสื้อผ้าจัดท่าทางของศพเพื่อให้เข้าใจว่ามีการประทุษร้ายทางเพศต่อเด็กหญิงอรวรรณ และใช้ของแข็งมีคมตัดสับฟันไปที่เส้นผมของเด็กหญิงอรวรรณ เพื่อนำไปประกอบพิธีกรรม ตามความเชื่อทางไสยศาสตร์อันเป็นการกระทำการแก่ศพและสภาพแวดล้อมบริเวณที่พบศพก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้นในประการที่น่าจะทำให้การชันสูตรพลิกศพหรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไปโดยได้พบศพเด็กหญิงอรวรรณนอนเสียชีวิตอยู่บนเขาภูเหล็กไฟชั้นที่ 5 ซึ่งอยู่ทางทิศเหนือของหมู่บ้านกกกอกไปประมาณ 1.3 กิโลเมตรในวันที่ 14 พ.ค.63 เวลาประมาณ 19.00 น.
    ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดมุกดาหาร ลงวันที่ 1 มิ.ย.64 นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาและพฤติการณ์แห่งการกระทำความผิดให้ผู้ต้องหาทราบในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาการกระทำของผู้ต้องหาเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 306มาตรา 308 และมาตรา 317 และประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 150 ทวิ มีอายุความดำเนินคดี 15 ปี
    โดยพนักงานสอบสวนได้รับตัวผู้ต้องหาไว้ดำเนินคดีเมื่อวันที่ 2 มิ.ย.64 เวลา 16.33 น. ซึ่งได้ทำการสอบสวนและควบคุมตัวผู้ต้องหามาโดยตลอดจะครบ 48 ชั่วโมงในวันที่ 4 มิ.ย. เวลา 16.33 น.หากแต่การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น เนื่องจากต้องทำการสอบสวนพยานเพิ่มเติมในคดีอีก 15 ปาก รอผลการตรวจลายพิมพ์นิ้วมือผู้ต้องหา ด้วยความจำเป็นดังกล่าวจึงขออนุญาตฝากขังผู้ต้องหาครั้งเเรกเป็นเวลา 12 วัน เนื่องจากคดีนี้มีอัตราโทษสูงหากปล่อยตัวไปเกรงผู้ต้องหาจะหลบหนีและไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน หรือก่อเหตุร้ายประการอื่น จึงขอคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหา
พนักงานสอบสวนมีความประสงค์ขอดำเนินการยื่นคำร้องฝากขัง โดยขอให้ศาลสอบถามผู้ต้องหาหรือทำการไต่สวนพยานหลักฐานในการออกหมายขังผู้ต้องหาผ่านระบบการประชุมทางจอภาพในการฝากขังครั้งต่อๆ ไปทุกครั้งโดยมีรายงานว่าคดีนี้มีผู้คัดค้านการปล่อยชั่วคราว โดยศาลไต่สวนผู้เสียหาย 3 ปากที่คัดค้านการประกัน เเละนัดฟังคำสั่งประกันวันนี้ 15.00 น.
    ทั้งนี้ วันเดียวกัน นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ซึ่งเป็นทนายความของนายไชย์พล เดินทางมาที่ศาลเพื่อนำเอกสารเข้ายื่นขอประกันตัว เป็นหลักทรัพย์เป็นโฉนดที่ดิน 2 แปลง โดยโฉนดที่ดินของจากแฟนคลับ ตีมูลค่าประมาณ 1.7 ล้านบาท และได้เตรียมเงินสด 500,000 บาท โดยในช่วงเย็นเวลา 17.00 น. วันเดียวกัน ศาลพิเคราะห์คำร้องขอเห็นควรอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาระหว่างสอบสวน หากผิดสัญญาปรับ 180,000 บาท และกำหนดเงื่อนไขและกำหนดเงื่อนไข 5 ข้อ คือ 1.ห้ามผู้ต้องหาหลบหนี 2.ห้ามข่มขู่พยาน
    3.ห้ามยุ่งเหยิงกับพยานหรือห้ามก่อเหตุอันตรายประการอื่น 4.ห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักรเว้นแต่ได้รับอนุญาตจากศาล และ 5.ให้แต่งตั้งให้ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 บ้านกกตูม ตำบลกกตูม อำเภอดงหลวง จังหวัดมุกดาหาร เป็นผู้กำกับดูแลผู้ต้องหาเพื่อให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ศาลกำหนดโดยเคร่งครัด หากผู้ต้องหาผิดข้อกำหนดเงื่อนไขศาลจะพิจารณาสั่งเพิกถอนการปล่อยชั่วคราว หรือมีคำสั่งตามที่เห็นสมควร
    ด้านนางสาวิตรี วงศ์ศรีชา แม่ของน้องชมพู่ กล่าวว่า เคารพและน้อมรับในคำสั่งของศาล แต่ยังยืนยันที่จะสู้คดีถึงที่สุด พร้อมยอมรับว่ากังวลในความปลอดภัยทั้งของตนเองและพยาน จึงอยากร้องขอให้มีตำรวจเข้ามาดูแลความปลอดภัย.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"