"ศักดิ์สยาม" ย้ำ ภท.ไม่มีปัญหากับนายกฯ ให้ไปถามคนปล่อยข่าวปรับ "อนุทิน" พ้น รมว.สธ.ต้องการอะไร กมธ.งบฯ ถกแรงชิงเก้าอี้รองประธานต้องสั่งพักประชุม 30 นาที สุดท้ายเคาะฝั่งรัฐบาลกินรวบ 5 อันดับแรก “เรืองไกร” ได้นั่งโฆษก กมธ. "พิธา" อัดจัดงบฯ ไร้สามัญสำนึก ลั่นรีดไขมันนำงบอภิสิทธิ์ชน-งบทหารมาเป็นกองกลาง "ศรัณย์วุฒิ” รับถูก พปชร.ทาบทาม ยืนยันไม่ย้ายขั้ว

    เมื่อวันศุกร์ที่ 4 มิ.ย. นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ในฐานะเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลกับนายกรัฐมนตรีและพรรคภูมิใจไทย ภายหลังจากที่ ส.ส.พรรคภูมิใจไทยอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 65 อย่างดุเดือด รวมถึงการแก้ไขปัญหาโควิด-19 ที่นายกฯ รวบอำนาจการแก้ไขปัญหาว่า ยืนยันไม่มีปัญหาอะไร ซึ่งความสัมพันธ์ทุกอย่างยังเหมือนเดิม ในส่วนที่ ส.ส.พรรคภูมิใจไทยอภิปรายนั้น เป็นการชี้ให้เห็นถึงการทำงาน พรรคอื่นก็พูดกันทุกพรรค ที่ผ่านมาทุกเรื่อง ส.ส.ก็มีการอภิปรายแสดงความคิดเห็นต่างๆ เป็นเรื่องปกติ แต่เมื่อมติพรรคเป็นอย่างไร ส.ส.ก็ปฏิบัติตามมติของพรรคทุกคน ส่วนกรณีที่ไม่มีชื่อ น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทยร่วมโหวตนั้น เพราะเขาไม่สบายและได้แจ้งขอลาป่วยเรียบร้อยแล้ว
     “ภูมิใจไทยเป็นพรรคที่เปิดกว้างให้ ส.ส.ทุกคนได้แสดงความคิดเห็น เพื่อชี้ให้เห็นว่าปัญหาแต่ละเรื่องคืออะไร แต่การโหวตก็เป็นไปตามมติพรรค เห็นได้ว่าไม่มีแตกแถว” นายศักดิ์สยามกล่าว
    ส่วนที่มีกระแสข่าวว่านายกฯ จะปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ใหม่ โดยให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีพ้นออกจากตำแหน่ง รมว.สาธารณสุขนั้น นายศักดิ์สยามกล่าวว่า ตนก็ได้ยินมาจากข่าว แต่เรื่องจริงนายกฯ กับพรรคภูมิใจไทยไม่มีปัญหาอะไรกันเลย ต้องไปถามคนปล่อยข่าวว่าเขาต้องการอะไร
     ที่รัฐสภา น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ว่า รู้สึกดีใจมากที่ได้กลับมาทำงาน 16 ปีที่ทำงานไม่เคยต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ เมื่อหยุดไปก็คิดถึงสภา ที่ประชุมสภาพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 65 ตนก็ติดตามการอภิปราย รู้สึกอยากจะขออภิปรายด้วยและอยากประท้วงบ้าง แต่ก็ได้แค่รับชม อย่างไรก็ตามตนคาดหวังมากที่จะกลับมาทำหน้าที่ ส.ส. เพราะเมื่อเรื่องไปถึงศาลก็มั่นใจในระบบยุติธรรม ทำให้มีความหวัง และศาลก็เปิดให้ต่อสู้คดีอย่างเต็มที่             
    เมื่อถามถึงการทำหน้าที่ กมธ.งบประมาณครั้งนี้ น.ส.ปารีณากล่าวว่า ตนจะทำหน้าที่ตามปกติ ที่ผ่านมาเป็น ส.ส.มาหลายปี อยู่มาหลายคณะ กมธ. แต่มีเพียงคณะ กมธ.เดียวที่ไม่ปกติ มีการใช้อำนาจเกินขอบเขต ซึ่งตนเคยร้องคณะ กมธ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบไปหลายเรื่องแล้ว แต่เรื่องก็ยังเงียบอยู่
    เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ห้องประชุมงบประมาณ ชั้น 4  รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 สภาผู้แทนราษฎร นัดแรก โดยมีวาระสำคัญในการเลือกตำแหน่งต่างๆ อาทิ ประธาน, รองประธาน, เลขานุการ  และโฆษกกรรมาธิการ โดยมีนายอุบลศักดิ์ บัวหลวงงาม  ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย เป็นประธานชั่วคราว ซึ่งที่ประชุมมีมติเสียงข้างมากให้นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ  รมว.การคลัง ในฐานะกรรมาธิการ ดำรงตำแหน่งประธานกรรมาธิการ
     สำหรับตำแหน่งรองประธานกรรมาธิการ ที่ประชุมมีมติให้นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.การคลัง เป็นรองประธานคนที่ 1 ส่วนตำแหน่งรองประธานคนที่ 2 ที่ประชุมไม่สามารถตกลงกันได้ โดยพรรคเพื่อไทยเสนอชื่อนาย ประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา ในฐานะเลขาธิการพรรค แต่ฝ่ายรัฐบาลไม่ยินยอมเนื่องจากต้องการให้นางนาที รัชกิจประการ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ  พรรคภูมิใจไทย ดำรงตำแหน่งดังกล่าว จนต้องพักการประชุม 30 นาทีเพื่อหารือถึงแนวทางของแต่ละฝ่าย ก่อนกลับเข้ามาประชุมอีกครั้ง
    จากนั้นเวลา 13.00 น. นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ ส.ส.ชลบุรี พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะโฆษก กมธ.แถลงผลการประชุมว่า ที่ประชุมเลือกนายอาคมเป็นประธาน โดยมีรองประธานทั้งหมด 22 คน จากรัฐมนตรีและพรรคการ เมืองต่างๆ โดยรองประธานคนที่ 2 คือ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมช.แรงงาน รองประธานคนที่ 3 คือ นายวิรัช  รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ รองประธานคนที่ 4 คือ นางนาที รัชกิจประการ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย รองประธานคนที่ 5 คือ นายวิเชียร ชวลิต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ และรองประธานคนที่ 6 คือ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย เป็นต้น ทั้งนี้ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ กมธ.สัดส่วนพรรคพลังประชารัฐ ได้เป็นหนึ่งในทีมโฆษก กมธ.ด้วย
     นายสรวุฒิกล่าวว่า ที่ประชุมวางกรอบการพิจารณาทุกวัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. เวลา 13.00 น.เป็นต้นไป  โดยสำนักงบประมาณได้กำหนดแนวทางในการพิจารณาออกเป็นแบบที่ 1 เรียงตามมาตรา และแบบที่ 2 ตามกลุ่มภารกิจ 6 กลุ่ม 11 แผนบูรณาการ ซึ่งคาดว่าที่ประชุมจะเลือกแบบที่ 2 เหมือนการพิจารณางบประมาณปี 2564
    ขณะที่ กมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ 65 สัดส่วนฝ่ายค้าน ประกอบด้วย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล, น.ส.ธีรรัตน์  สําเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ ได้รับหนังสือจากเครือข่าย We Fair เพื่อขอให้ กมธ.วิสามัญงบประมาณฯ 65 จัดลำดับความสำคัญในนโยบายสวัสดิการสังคม ได้แก่ สุขภาพ การศึกษา ประกันสังคม ที่อยู่อาศัย เงินอุดหนุนเด็ก บำนาญประชาชน มากกว่านโยบายที่ไม่ใช่ลำดับความสำคัญ เช่น งบประมาณการจัดซื้ออาวุธ
    ด้านนายพิธากล่าวว่า งบประมาณปีนี้ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์บ้านเมืองและไร้สามัญสำนึก มีการจัดงบระหว่างอภิสิทธิ์ชนกับประชาชนในยามที่ประเทศดิ่งเหว  สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นสังคมไทยว่ายังเป็นแบบไหน  เรามีหน้าที่ปกป้องสวัสดิการของประชาชนที่ให้สัญญาไว้  คือการรีดไขมันเพื่อนำงบของอภิสิทธิ์ชนและงบของทหารมาเป็นกองกลางให้ได้มากที่สุด เพื่อนำไปจัดซื้อวัคซีนมากกว่าการจัดซื้ออาวุธ ทั้งนี้จะไปพูดคุยใน กมธ.และรัฐบาลถึงเรื่องรัฐสวัสดิการในประเทศให้เขาได้เข้าใจ
    นายคำนูณ สิทธิสมาน สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา เปิดเผยว่า  การประชุมวุฒิสภาสัปดาห์หน้าในวันจันทร์ที่ 7 มิ.ย.นี้ ที่ประชุมจัดตั้ง กมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาร่างกฎหมายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 เพื่อพิจารณาคู่ขนานไปพร้อมกับสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งกรรมาธิการจะเป็นผู้แทนจาก กมธ.สามัญของวุฒิสภาจำนวน 25 คณะ  คณะละ 1 คน รวม 25 คน  
    นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า  หลายปีที่ผ่านมาภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ ใช้งบประมาณที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชน ไม่สามารถแก้ปัญหาประเทศได้ ยังไม่ยอมรับความผิดพลาดของตัวเอง จนส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจของประเทศ คนไทยเดือดร้อนกันทั้งประเทศ หากมีความเป็นลูกผู้ชายควรยอมรับผิดและลาออกจากตำแหน่ง เปิดทางให้คนอื่นเข้ามาบริหาร เชื่อว่าประเทศไทยจะรอดพ้นจากวิกฤติอย่างแน่นอน
    พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ในประเด็นที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ย้ายมาสมัครเป็นสมาชิกพรรค พปชร.และได้เป็น กมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ 65 โดยกล่าวเพียงว่า  นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ กรรมการบริหารพรรค พปชร.และประธานวิปรัฐบาลพูดไปหมดแล้ว
     ขณะที่นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีมีกระแสข่าว ส.ส.ดาวสภาภาคเหนือของพรรคเพื่อไทยจะย้ายไปซบพรรค พปชร. ทำให้หลายคนจับจ้องมาที่ตนว่า ยอมรับว่ามีผู้ใหญ่ของพรรค พปชร.ติดต่อมาจริงและหลายครั้ง พร้อมโน้มน้าวว่าอีกไม่นานจะมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง อาจมีการยุบสภาในปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า แต่ตนยืนข้างประชาธิปไตยอย่างชัดเจน ไม่ย้ายข้างไปซบฝ่ายเผด็จการอย่างแน่นอน
    ส่วนที่ตนไม่อภิปรายในครั้งนี้ เนื่องจากการจัดสรรเวลาอภิปรายมีจำกัดไม่เพียงพอกับเนื้อหาที่จะอภิปราย จึงตัดสินใจไม่อภิปราย.