การชมภาพยนตร์กับผู้สูงอายุ นอกจากความเพลิดเพลินแล้ว กิจกรรมดังกล่าวคุณปู่คุณย่ายังสามารถพลิกแพลงนำมาสอนลูกหลานได้อีกด้วย โดยเฉพาะภาพยนตร์ไทยบ้านเราที่ดูแล้วกินใจหลายเรื่อง เพราะนำเสนอด้วยแง่มุมการใช้ชีวิตจริงของคนยุคนี้ ที่สำคัญหากปลูกฝังการดูหนังดูละครร่วมกันตั้งแต่ยังเล็กๆ นั่นจึงถือเป็นจุดเริ่มต้นความสัมพันธ์กับปู่ย่าตาทวดได้แบบไม่ขัดเขิน เมื่อต้องไปไหนมาไหนกับร่มโพธิ์ร่มไทรประจำบ้านยามที่โตเป็นวัยรุ่นหนุ่มสาว
นายสมบุญ เถกิงนาม ประธานชมรมคนรักหนังเก่า ให้ข้อมูลเกี่ยวกับภาพยนตร์ไทยที่ลูกหลานควรไปหามารับชมร่วมกับคุณตาคุณยายไว้น่าสนใจ
(“แฟนฉัน” ภาพยนตร์ที่สอนสัจธรรมชีวิตผ่านการเล่นซนของเด็กไทยแต่ละยุคสมัย)
เริ่มจาก “แฟนฉัน” ภาพยนตร์ที่สะท้อนชีวิตของเด็กไทยสมัย 30-40 ปีที่ผ่านมา สิ่งที่อยากแนะนำให้ลูกหลานดูหนังเรื่องนี้กับคุณตาคุณยาย เนื่องจากเป็นการรำลึกถึงอดีตและสอนให้เด็กๆ รู้ว่า ไม่ว่าจะผ่านไปอีกกี่หลายสิบปีก็ตาม แต่การใช้ชีวิตของเด็กก็จะเป็นเหมือนเดิม แม้ว่ายุคนี้จะมีเรื่องของโซเชียลเข้ามา เช่น การเล่นซนและกลับเข้าบ้านมาถูกแม่ดุ พูดง่ายๆ ว่าต่อให้เวลาผ่านไปกี่รุ่น แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือของเล่นของเด็กซึ่งก็เป็นสัจธรรมของชีวิตนั่นเอง
รองลงมาเป็นภาพยนตร์ไทยสไตล์อีโรติกอย่างเรื่อง “จันดารา” ที่หลายคนมองว่าเนื้อหามีความวาบหวิว เกินที่เด็กจะรับชม แต่ถ้าหากผู้ใหญ่นั่งดูกับลูกหลานที่อายุต่ำกว่า 10 ปี หรือกำลังเข้าสู่วัยรุ่น โดยการควบคุมและสอนให้เด็กรู้ว่า จริงๆ แล้วฉากที่เกิดขึ้นในหนังมันสามารถเกิดขึ้นได้กับคนทั่วไป และเรื่องเพศเป็นเรื่องธรรมชาติ เพราะหากเราปิดกั้นไม่ให้เด็กรู้เรื่องเพศ เขาก็จะยิ่งไปแสวงหาและเรียนรู้เอง นั่นจะทำให้เกิดผลลบกับเด็กมากกว่าการนั่งดูกับผู้ใหญ่และคอยสอนเขา นอกจากนี้ เรื่อง “ชั่วฟ้าดินสลาย” ที่มีเนื้อหาคล้ายกันคือ ขุนนางสมัยก่อนมักจะกินไก่ในเหล้า หรือชอบมีภรรยาเป็นคนรับใช้ในบ้าน หรือการที่ผู้ชายอายุมากที่มีฐานะ มีภรรยาอายุน้อย อีกทั้งมีลูกจ้างเป็นชายหนุ่ม และภายหลังแอบมีความสัมพันธ์กัน ซึ่งเหล่านี้เมื่อเกิดขึ้นแล้ว ครอบครัวจะมีแต่ความวุ่นวายไม่จบสิ้น ผู้ใหญ่ก็สามารถนำมาเป็นข้อคิดสอนเด็กๆ ในการเติบโตมีครอบครัวที่ต้องรักเดียวใจเดียวได้
(“บุญชู” หนังไทยสะท้อนข้อคิดดีๆ เกี่ยวกับการใช้ชีวิตช่วงมหาวิทยาลัย เรื่องการคบเพื่อนต่างเพศ การท่องเที่ยว สังคมที่มีสิ่งยั่วยุ อีกทั้งการช่วยเหลือกันและกันของกลุ่มเพื่อน)
นอกจากนี้ ภาพยนตร์เรื่อง “บุญชู” ลูกหลานวัยรุ่นวัยเรียนก็ควรรับชมร่วมกับปู่ย่าตายายเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะผู้ที่กำลังเข้าศึกษาต่อในรั้วมหาวิทยาลัย ที่ถือเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ เพราะหนุ่มสาวเริ่มมีแฟนและออกไปเที่ยวร่วมกับกลุ่มเพื่อนๆ ประกอบในสังคมมีสิ่งยั่วยุมากมาย ซึ่งการศึกษาในช่วงดังกล่าวถือเป็นจุดเปลี่ยนของชีวิต เพราะคู่รักวัยเรียนบางรายอาจท้องก่อนแต่งได้ เนื่องจากเป็นช่วงวัยเจริญพันธุ์ ทั้งนี้ บทเรียนชีวิตดังกล่าว ปู่ย่าตายายสามารถที่จะสอนให้ลูกหลาบรับทราบ เพื่อให้สามารถผ่านชีวิตในวัยศึกษาดังกล่าวไปให้ได้ หรือเรียนจบมหาวิทยาลัยและไปใช้ชีวิตในวัยทำงานต่อไป
ปิดท้ายที่ภาพยนตร์เรื่อง “ฟรีแลนซ์ ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอ” ที่สะท้อนเรื่องการทำงานประจำควบคู่กับการรับงานฟรีแลนซ์อย่างหักโหมของคนเมืองวัยทำงาน ที่ไม่มีเวลาพักผ่อน ทำให้พระเอกในเรื่องมีปัญหาสุขภาพที่บังเอิญไปพบรักกับคุณหมอ ซึ่งเนื้อหาหลักของหนังเรื่องนี้สะท้อนว่าเงินทองอาจไม่สำคัญเท่ากับสุขภาพ ดังนั้นการประกอบอาชีพก็ให้ทำแต่พอดี ที่ลืมไม่ได้คือการดูแลสุขภาพควบคู่กัน
ส่วนหนังที่ผู้สูงอายุควรรับชมร่วมกับลูกหลานที่ต้องใช้เหตุผลมาอธิบายร่วมกันเป็นพิเศษ ได้แก่ “ภาพยนตร์เรตเอ็กซ์” ซึ่งถือเป็นหนังกลุ่มส่วนตัว ถ้าหากจำเป็นต้องรับชมร่วมกับลูกหลานก็ต้องอธิบายด้วยเหตุผลและต้องดูด้วยความมีสติ ควบคุมเด็กๆ ให้ได้ เช่น สอนให้เด็กๆ รู้ว่าเนื้อหาที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องธรรมชาติ และใช้โอกาสนี้เปิดใจคุยกับเด็กในเรื่องเพศ เพราะยิ่งหากผู้ใหญ่ปิดกั้นเรื่องดังกล่าว เด็กจะไปแสวงหาและเรียนรู้เอง ซึ่งจะทำให้เกิดผลลบมากกว่าผลดี นอกจากนี้ “ภาพยนตร์ฆาตกรรม” อันที่จริงเนื้อหาสไตล์ชำระแหละศพ เด็กกับผู้ใหญ่ก็สามารถรับชมร่วมกันได้ แต่ผู้ใหญ่ต้องอธิบายให้เด็กรู้ว่า เหตุใดฆาตกรจึงมีพฤติกรรมดังกล่าว หรือเขามีแรงจูงใจอะไรที่ทำให้เขาต้องทำเช่นนั้น เพราะมนุษย์ทุกคนไม่มีใครอยากทำไม่ดี ดังนั้นหลักของการชมภาพยนตร์สไตล์นี้กับลูกหลานต้องดูให้มีเกร็ดหรือสาระ และอธิบายให้เหตุผลให้เด็กๆ ทราบว่าผลเสียที่เกิดขึ้นมันเป็นอย่างไร เพื่อป้องกันการลอกเลียนแบบ หรือต้องรับชมอย่างสตินั่นเองครับ”
ส่วนประโยชน์ของการรับชมภาพยนตร์ร่วมกับผู้สูงอายุสามารถมองได้หลายมุม ประการแรก เด็กๆ อาจรู้สึกฝืนใ เมื่อต้องนั่งดูหนังกับผู้ใหญ่ แต่ถ้าหากเป็นกลุ่มเด็กที่รักและผูกพันกับปู่ย่าตายายก็อาจจะรู้สึกยินดี แต่ทั้งนี้ การปลูกฝังพฤติกรรมการทำกิจกรรมร่วมกับผู้ใหญ่ตั้งแต่เล็กๆ เช่น การดูหนังละครด้วยกัน ก็จะช่วยส่งเสริมความผูกพันในครอบครัว และลดช่องว่างระหว่างวัยได้ดี แต่สิ่งสำคัญการรับชมความบันเทิงต่างๆ ร่วมกับลูกหลาน ผู้ใหญ่ควรเป็นคนเลือกเนื้อหาที่มีสาระ เพื่อรับชมร่วมกับเด็กๆ อีกทั้งต้องเตรียมข้อมูลในการตอบคำถามให้ตรงกับกลุ่มอายุของลูกหลาน เพราะเด็กแต่ละวัยมีคำถามที่แตกต่างกัน ก็จะทำให้การดูหนังด้วยกันเป็นไปอย่างมีความรู้และสนุกมากขึ้น”.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |