แฟ้มภาพ

3 มิ.ย.64 - น.ส.อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า กรณีพบการลักลอบนำเข้ายาเสพติดล็อตใหญ่ใน 3 ประเทศ ได้แก่ ออสเตรเลีย ฮ่องกง และล่าสุดที่เกาหลีใต้ ซึ่งทั้งหมดถูกระบุว่าส่งมาจากประเทศไทย มูลค่ารวมราว 4,000 ล้านบาท โดยปรากฏในหลายรูปแบบการขนส่ง และหลากหลายชนิดยา แม้เจ้าหน้าที่จะออกมาปฏิเสธว่าฐานการผลิตยาอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน แต่การปล่อยให้มีการลักลอบนำเข้ามาในประเทศไทยตามชายแดนต่างๆได้ และใช้ไทยเป็นฐานการจัดส่ง นำมาซึ่งความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ  

โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวต่อว่า จึงอยากถามพลเอกประยุทธ์ ที่ประกาศให้การปราบปรามปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติวนซํ้าอยู่หลายครั้ง ได้ดำเนินการตามที่ประกาศไว้บ้างหรือไม่  เหตุใดตลอดระยะเวลาที่บริหารประเทศมายังมีการปล่อยปละละเลยให้เกิดการซื้อขายยาเสพติดในประเทศ โดยเฉพาะในชุมชนต่างๆ จนมีตัวเลขยอดคดียาเสพติดเพิ่มขึ้นทุกปี และเป็นที่เลื่องลือว่าเป็นยุคที่ยาบ้าราคาถูกที่สุด การที่พลเอกประยุทธ์ปล่อยให้ยาเสพติดระบาดหนักได้ขนาดนี้โดยไม่มีการดำเนินคดีกับผู้มีอิทธิพล หรือผู้ดำเนินการรายใหญ่ใดๆเลย คงต้องตั้งคำถามว่ามีผู้มีอำนาจใหญ่โตในประเทศมีส่วนรู้เห็น หรือเอื้อประโยชน์กันหรือไม่

“การจัดการกับปัญหายาเสพติด เป็นเรื่องผู้นำประเทศต้องจริงจังหากตั้งใจจริง เหมือนนายกฯทักษิณ และนายกฯยิ่งลักษณ์ทำมาแล้วและทำสำเร็จ พลเอกประยุทธ์ คุมความมั่นคงแท้ๆ ทำไมไม่ใช้อำนาจในมือให้เป็นประโยชน์ให้ถูกที่ถูกเวลาบ้าง ถ้าทำไม่ได้ หรือไม่กล้าทำ ก็ยุติบทบาท เปิดทางให้คนที่มีความตั้งใจ เข้ามาทำหน้าทีนี้ถือว่าสงสารประชาชนเถอะค่ะ” นางสาวอรุณีกล่าว