เดินหน้าไปอีกขั้นสำหรับพรรคแนวร่วมคนเสื้อแดง ตามที่ สิระ พิมพ์กลาง หนึ่งในแนวร่วมคนเสื้อแดงสกลนครออกมาจุดพลุเดินหน้าตั้งพรรคการเมือง จากวันนั้นมีเสียงติติงจากคนกันเองโยนเข้าใส่ ทั้งในรูปแบบวาจากระแทกกระทั้นโดยตรง หรือไม่ก็มาในรูปแบบ ลีลา น้ำเสียง เหน็บแนมด้วยท่าทีเย้ยหยัน ให้ค่าตีราคา ทำไม่ได้ มือไม่ถึง 

      แม้จะมีเสียงสนับสนุนตอบรับบ้าง แต่ไม่แรงเท่าคลื่นใต้น้ำที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นจริง ซึ่งเจ้าตัวก็รับตรงๆ ว่า เจ็บ แต่ขอเอามาเป็นแรงผลักดัน เร่งเดินหน้า อยากดูถูกก็เชิญ แต่จะต้องตั้งพรรคให้ได้ ล่าสุดแนวร่วมเสื้อแดงผู้นี้บอกว่า

        "ในวันที่ 8 มิ.ย.จะเดินทางไปที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อยื่นจดแจ้งตั้ง พรรคเพื่อนไทย มีวัตถุประสงค์ทำให้คนไทยเกิดความสามัคคี แก้ไขความขัดแย้ง ไม่ว่าจะเป็นคนหนุ่ม แก่ อาชีพอะไร เมื่อทุกฝ่ายมารวมกันจะเป็นเหมือนเพื่อนกัน แล้วเรามาจับมือเดินไปด้วยกันเพื่อพัฒนาประเทศ สีสัญลักษณ์เพื่อความปรองดองมีทั้งสีแดง สีเหลือง"

      พอทำให้เสียงที่เคยกระแทกกระทั้นเริ่มลดโทนลงบ้าง หันกลับมามอง ประเมินท่าที การตั้งพรรคได้ ย่อมไม่ธรรมดา เพียงแค่เงินทุนตั้งต้น การหาสมาชิก การชักชวนแนวร่วมให้คล้อยตามแนวทาง การทำนโยบายล้วนเป็นเรื่องยาก ยิ่งกฎกติกาในปัจจุบันที่แม้การทำพรรคใหม่ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ถ้าหากวันใด ก้าวพลาด ศรทางกฎหมาย กฎระเบียบจะย้อนมาทิ่มแทง ทำให้หมดอนาคตทั้งคนทั้งพรรคการเมืองได้เหมือนกัน

      แม้นาทีนี้ สิระ มั่นใจงานธุรการ การตั้งพรรคไม่มีปัญหา แถมยังโวเล็กๆ แนวร่วมอุดมการณ์พร้อมเข้าร่วมมีเป็นจำนวนมาก ยืนยันจะส่งผู้สมัครครบทุกเขตเลือกตั้ง แถมยังประกาศ

        "พรรคเพื่อนไทยจะไม่เป็นศัตรูกับใคร นำพาประเทศออกจากความขัดแย้ง"

      พลันถูกถามแนวคิดจุดยืนจะเลือกยืนฝั่งทหาร หรือกลุ่มอำนาจเก่า แกนนำเสื้อแดงสกลนครผู้นี้ บอกทันที

      "ทุกฝ่ายต่างมีจุดดี จุดไม่ดี ไม่ว่าจะเป็นพรรคเพื่อไทย ทหาร ประชาธิปัตย์ สามารถร่วมงานได้กับทุกฝ่ายเพื่อให้บ้านเมืองสงบ การเลือกตั้งปี 2562 รัชกาลใหม่ ถ้าคนยังแตกแยก สมควรหรือไม่ อนาคตทางการเมืองจะไปร่วมงานกับใครแล้วแต่ช่วงเวลานั้น แต่สิ่งหนึ่งที่บอกได้คือไม่สนับสนุนนายกรัฐมนตรีคนนอก เว้นแต่ พล.อ.ประยุทธ์แสดงความเป็นชายชาติทหารมาลงสมัครรับเลือกตั้ง ถ้าได้รับเลือกจากประชาชนถือมีความชอบธรรม ขอเชิญชวนนักการเมืองเพื่อไทย ประชาธิปัตย์ คนเสื้อเหลือง คนเสื้อแดง  นักวิชาการ หากสนใจมาร่วมงานการเมืองยินดีต้อนรับ หากอยู่สังกัดเดิมแล้วไม่มีความสุข คนที่จะมาร่วมงานด้วยต้องมีแนวคิดพัฒนา ไม่ใช่พวกสุดโต่ง"

      ไม่เท่านั้นเขายังบอกอีกว่า ในวันที่ไปขึ้นศาลเมื่อสัปดาห์ที่แล้วและได้พบแกนนำเสื้อแดง หลายคนทราบมาก่อนว่าตนมีแนวคิดจะทำพรรคการเมือง นายจตุพร พรหมพันธุ์, นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์,  นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ โดยเฉพาะนางธิดา ถาวรเศรษฐ สอบถามว่าเอาแน่ใช่ไหม บอกไปว่าเอาแน่  เท่าที่คุยกับแกนนำเสื้อแดง ดูเหมือนนายจตุพรกับนายวีระกานต์มีความเข้าใจดี ตนยังย้ำแกนนำทุกคน

         "ที่จะทำพรรค กับพี่น้องเสื้อแดงยังรักกันเหมือนเดิม ออกมาทำพรรคไม่ได้ขัดแย้งกับใคร แต่เราต้องมีทางออกให้ประเทศเดินไปข้างหน้าได้ ถ้าเสนออะไรไม่ดี เสื้อแดง ประชาชนไม่เอาด้วยอยู่แล้ว ไอ้คำว่าทรยศหักหลังนั้นไม่มี การจะช่วยพี่น้องทำได้หลายวิธี" นายจตุพร ได้ฟังแล้วยังบอกว่า "ผมเข้าใจพี่ หากสิ่งไหนดี ช่วยพี่น้องพวกเราได้ เอาเลยพี่"

      แม้ภาพลักษณ์คนทำพรรคมีสีแดงติดตัว แถมยังมีคดีฝ่าฝืน พ.ร.ก.ตั้งแต่การชุมนุม 2552 ตอกย้ำความเป็นคนเสื้อแดงชัดเจน แต่การออกมาแสดงท่าที ปรองดอง พาประเทศออกจากความขัดแย้ง  พร้อมร่วมงานทุกฝ่าย ไม่เว้นแม้แต่ ทหาร หากมาตามกติกา แถมยังส่งเทียบเชิญไปยังเสื้อเหลือง เสื้อแดง พรรคเพื่อไทย พรรคประชาธิปัตย์ นักวิชาการไม่ว่าจะขั้วไหน

      แม้คนทำพรรคยืนฝั่งเสื้อแดง แต่ฉากหลังเบื้องลึกก็ยังคลุมเครือ สีเขียวหรือสีแดงแอบให้การสนับสนุนกันแน่ โจทย์เพื่อความปรองดอง นำประเทศไปสู่ความสงบสุข ถ้อยคำทำนองนี้ได้ยินกันบ่อยจากบิ๊ก คสช. แต่สัญญาใจที่ว่า จะไม่ทอดทิ้งคนเสื้อแดง ก็เป็นวลีอมตะจากแกนนำฝั่งคนเสื้อแดง

      ที่แน่ๆ พรรคนี้เดินสะดวกแน่สำหรับการเมืองวันข้างหน้า เพราะเล่นประกาศพร้อมเป็น พันธมิตรกับทุกขั้ว ไม่เป็นศัตรูกับใคร เหลือเพียงอย่างเดียว หากเลือกตั้งครั้งหน้าสามารถโกยผู้แทนได้เป็นกอบเป็นกำ ความเนื้อหอมคงเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว!.