ลุงพลโผล่ตร.ขอมอบตัว เจอ3ข้อหาหนักนอนคุก


เพิ่มเพื่อน    

 คลี่ปมน้องชมพู่! "ลุงพล" เจอ 3 ข้อหา ดอดเข้ากรุงมอบตัว สตช. ก่อนหิ้วขึ้น ฮ.ส่งกลับมุกดาหารนอนคุก  สภ.กกตูม "ผบ.ตร." มั่นใจหลักฐานนิติวิทยาศาสตร์มัดตัวแน่น ยกเป็นบทเรียนคดีฆาตกรรมเตือนสติสังคมไต่สวนบนโลกโซเชียล

    เมื่อวันพุธ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อเวลา 10.55 น. นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม นำนายไชย์พล วิภา หรือลุงพล เข้ามอบตัวกับ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน หลังถูกศาลจังหวัดมุกดาหารออกหมายจับเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของ ด.ญ.อรวรรณ วงศ์ศรีชา หรือน้องชมพู่ วัย 3 ขวบ จำนวน 3 ข้อหา 1.พรากเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปี ไปเสียจากบิดามารดาโดยปราศจากเหตุอันควร  2.ทอดทิ้งเด็กอายุไม่เกินเก้าปีเพื่อให้เด็กนั้นพ้นไปเสียจากตน โดยประการที่ทำให้เด็กนั้นปราศจากผู้ดูแล เป็นเหตุให้เด็กถึงแก่ความตาย 3.กระทำการใดๆ แก่ศพหรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น ในประการที่น่าจะทำให้การชันสูตรพลิกศพหรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจอ่านหมายจับได้สวมกุญแจมือ แต่ปรากฏว่าลุงพลไม่พอใจแสดงท่าทีคล้ายขัดขืน ก่อนจะยอมให้เจ้าหน้าที่สวมกุญแจมือแต่โดยดี ในการเข้ามอบตัวครั้งนี้ลุงพลให้การปฏิเสธทุกข้อหา จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวไปยังกองบินตำรวจกลับไปยัง สภ.กกตูม จ.มุกดาหาร โดยเฮลิคอปเตอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยพนักงานสอบสวนก็ต้องไปดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ซึ่งมีเวลาควบคุมตัวไว้ที่ตำรวจ 48 ชั่วโมง หลังจากนั้นหากจำเป็นต้องสอบสวนต่อ ก็ต้องนำตัวไปฝากขังที่ศาล
ด้าน พล.ต.อ.สุวัฒน์กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ในเรื่องของการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมนั้น หากยังไม่หมดเวลาก็มีเวลาทำ ก็จะทำไปเรื่อยๆ ทั้งนี้ตำรวจมั่นใจในพยานหลักฐาน หากคนอื่นจะคิดอย่างไรก็เป็นสิทธิของเขา เจ้าหน้าที่ทำไปตามกฎหมาย ตามพยานหลักฐาน ไม่ได้ทำตามใจใคร ณ วันนี้ยืนยันว่าออกหมายจับได้ 1 คน หากมีมากกว่านี้ก็ต้องทำอยู่แล้ว ขอฝากสังคมเป็นบทเรียนว่า คดีนี้เป็นคดีฆาตกรรม มีความซับซ้อนหรือไม่ก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่เรื่องที่แตกต่างจากคดีอื่น คือการไต่สวนบนโลกโซเชียล ซึ่งเคยเกิดปรากฏการณ์แบบนี้ในคดีเกาะเต่า แต่ครั้งนี้หนักกว่าครั้งที่แล้ว ประชาชนหลายคนติดตามคดีนี้จนเสพติดชนิดกินไม่ได้นอนไม่หลับ เกิดอาการแบบนั้น ซึ่งอาจเป็นเพราะภูมิคุ้มกันในเรื่องโซเชียลไม่เพียงพอ
        "คดีนี้เราใช้นิติวิทยาศาสตร์ประกอบกับวิชาการ ไม่มีศาสตร์ใดศาสตร์หนึ่งเพียงอย่างเดียวที่จะพิสูจน์ความผิดได้ บางคนถามว่าทำไมมันนานมันช้าขอบอกว่ามันก็มีศาสตร์ใหม่ๆ ที่เราเอามาใช้ในเรื่องนี้ ซึ่งการเอามาประยุกต์กับการสืบสวนโดยเรารวบรวมทุกอย่าง ทั้งหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ วัตถุพยาน พยานบุคคล พยานแวดล้อม หลักวิชาการต่างๆ ทั้งวิทยาศาสตร์ทั่วไป หลักพฤติกรรมศาสตร์ แม้กระทั่งไสยศาสตร์และความเชื่อต่างๆ รวบรวมเอามาวิเคราะห์ทั้งหมด" ผบ.ตร.กล่าว
    ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่าที่มีการออกหมายจับนายไชย์พลในช่วงนี้ เพื่อต้องการกลบกระแสข่าวศึกอภิปรายงบประมาณรายจ่ายประจำปี หรือไม่ พล.ต.อ.สุวัฒน์กล่าวว่า ต้องไปถามคนที่โยงเรื่องนี้ว่าไปเอาความคิดนี้มาจากไหน
    ที่ จ.มุกดาหาร ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่เวลา 06.30 น. เจ้าหน้าที่ได้เข้ากระชับพื้นที่บ้านของนายไชย์พล พร้อมควบคุมตัวนายอ๋อ ซึ่งเป็นยูทูบเบอร์คนสนิทของลุงพล ขณะที่ในเวลา 16.00 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวนายไชย์พล วิภา ซึ่งเดินทางจากกรุงเทพฯ ด้วยเฮลิคอปเตอร์มาลงที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 234 ก่อนจะนำตัวมาสอบปากคำที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร
    พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 กล่าวว่า จากการสอบปากคำเบื้องต้น นายไชย์พลให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยหลังจากนี้จะนำตัวไปฝากขังชั่วคราวที่สถานีตำรวจภูธรกกตูม ก่อนที่วันศุกร์นี้ จะนำตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดมุกดาหารต่อไป     
    ขณะที่นายอนามัย และนางสาวิตรี วงศ์ศรีชา พ่อและแม่ของน้องชมพู่ เข้าพบทนายความและพนักงานสอบสวนตำรวจภูธรกกตูม เพื่อหารือเกี่ยวกับยื่นคัดค้านการประกันตัวนายไชย์พลในวันศุกร์นี้.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"