คลัสเตอร์ห้างลาดพร้าวติดเชื้อ23คน!


เพิ่มเพื่อน    

  โควิด-19 ในไทยยังแรง  ติดเชื้อใหม่อีก 3,440 ราย เสียชีวิตถึง 38 ราย น่าห่วงมี 8 รายดับตั้งแต่สัปดาห์แรกหลังรู้ว่าติดเชื้อ พบคลัสเตอร์ใหม่อีกเป็นห้างสรรพสินค้าย่านลาดพร้าว ปริมณฑลก็ยอดไม่ตก ทั้ง “นนทบุรี-สมุทรปราการ” พบผู้ป่วยหลักหลายร้อย

    เมื่อวันพุธที่ 2 มิถุนายน พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์ในไทยประจำวันว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3,440 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 2,338 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 1,175 ราย มาจากการค้นหาเชิงรุก 1,163 ราย เป็นผู้ติดเชื้อในเรือนจำ 1,087 ราย เป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 15 ราย ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 165,462 ราย หายป่วยเพิ่มเติม 2,843 ราย หายป่วยสะสม 114,578 ราย อยู่ระหว่างรักษา 49,777 ราย อาการหนัก 1,247 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 381 ราย
พญ.อภิสมัยกล่าวต่อว่า มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม 38 ราย เป็นชาย 24 ราย หญิง 14 ราย อยู่ใน กทม. 18 ราย,  สมุทรปราการ 4 ราย, ชลบุรี ปทุมธานี จังหวัดละ 3 ราย, ฉะเชิงเทรา นนทบุรี สุราษฎร์ธานี จังหวัดละ 2 ราย, พระนครศรีอยุธยา ร้อยเอ็ด ราชบุรี อุดรธานี จังหวัดละ 1 ราย ผู้เสียชีวิตอายุน้อยสุด 10 เดือน อายุมากสุด 95 ปี และมีถึง 8 รายที่เสียชีวิตในสัปดาห์แรกหลังจากทราบผลว่าติดเชื้อโควิด-19 ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 1,107 ราย ขณะที่สถานการณ์โลก มีผู้ติดเชื้อสะสม 171,927,802 ราย เสียชีวิตสะสม 3,575,545 ราย
    “ผู้ติดเชื้อที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 15 ราย จำนวนนี้มี 4 ราย เป็นชาวจีน 2 ราย ไทย 1 รายมาจากเมียนมา ลักลอบเข้าเมืองผ่านช่องทางธรรมชาติ และอีก 1 รายเป็นคนไทยมาจากกัมพูชา ลักลอบเข้าเมืองผ่านช่องทางธรรมชาติ ขณะที่ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีผู้ลักลอบเข้าประเทศ 211 ราย”พญ.อภิสมัยกล่าว และว่า ในส่วนของ 5 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงสุด ได้แก่ กทม. 680 ราย, สมุทรปราการ 466 ราย, เพชรบุรี 449 ราย, ตรัง 176 ราย และสมุทรสาคร 78 ราย ส่วนภาพรวมการแพร่ระบาดในประเทศ พบคลัสเตอร์ใหม่ อาทิ โรงงานน้ำแข็ง จ.สมุทรปราการ ส่วนพื้นที่ กทม. ขณะนี้มี 48 คลัสเตอร์ โดยพบคลัสเตอร์ใหม่ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในเขตลาดพร้าว มีผู้ติดเชื้อถึง 23 ราย ซึ่ง กทม.มีการปรับแผนจะลงตรวจหาเชิงรุกในพื้นที่ลาดพร้าวเพิ่มขึ้น   
    พญ.อภิสมัยกล่าวว่า ในที่ประชุม ศบค.ชุดเล็กได้หยิบยกกรณีการติดเชื้อในโรงงานแปรรูปเนื้อไก่ที่ จ.สระบุรีมาหารือ เนื่องจากมีการกระจายเชื้อไปหลายจังหวัด โดยกรมควบคุมโรควิเคราะห์ว่า พนักงานคนไทยจะอยู่บ้านพักส่วนตัวหรือหอพักโดยรอบโรงงาน ส่วนแรงงานต่างชาติจะอยู่หอพักที่โรงงานจัดให้ บางจุดค่อนข้างแออัด อยู่กันห้องหนึ่ง 3-6 คน ใช้พื้นที่กลางร่วมรับประทานอาหาร แต่พบว่าในส่วนของแรงงานฝีมือหรือช่าง แม้จะอยู่ปะปนกับแรงงานอื่นๆ แต่ติดเชื้อน้อย เพราะแรงงานกลุ่มนี้มีมาตรการส่วนตัวเข้มข้นและระมัดระวังตัวอย่างสูงสุด ขณะที่สำนักส่งเสริมสุขภาพ กรมอนามัย ได้รายงานตัวเลขการพบผู้ติดเชื้อในโรงงานต่างๆ ว่าในรอบ 2 เดือนที่ผ่านมามีการติดเชื้อใน 10 จังหวัด ส่วนใหญ่จะติดในโรงงานขนาดใหญ่ที่มีแรงงานเกิน 200 คน และจากการวิเคราะห์พบว่าโรงงานที่มีขนาดใหญ่พบการติดเชื้อมากถึง 20% โรงงานขนาดเล็กติดเชื้อเพียง 5% ทั้งนี้ ตัวเลขโรงงานที่ขึ้นทะเบียนกับกรมโรงงานอุตสาหกรรมไว้ 63,000 แห่ง มีโรงงานที่มีผู้ติดเชื้อและเข้าสู่การประเมินตนเองในแบบประเมินตนเองด้านสาธารณสุขจำนวน 8,200 โรงงาน แต่พบว่าโรงงานขนาดใหญ่ 3,300 โรงงาน เข้าไปประเมินเพียง 650 โรงงาน ทั้งที่เป็นเป้าหมายที่มีการติดเชื้อมากกว่าโรงงานขนาดกลางและขนาดเล็ก แต่มีการเฝ้าระวังตนเองค่อนข้างน้อยเพียง 20%  
    “เน้นย้ำให้ภายในวันที่ 15 มิ.ย. โรงงานขนาดใหญ่ที่มีรายชื่ออยู่ในกระทรวงอุตสาหกรรมต้องเข้าไปประเมินตนเองให้ครบถ้วน 100% จะเลือกทำบางส่วนไม่ได้ และขอให้ตอบตามความเป็นจริง หากได้คะแนนน้อยหรือไม่ผ่านเกณฑ์ จะมีทีมพี่เลี้ยงลงพื้นที่ไปช่วยปรับปรุงแก้ไขให้ผ่าน แต่หากขอความร่วมมือแล้วเพิกเฉย ไม่ประเมินตนเอง เป็นเหตุให้มีการติดเชื้อและกระจายไปที่อื่น ตรงนี้จะมีการพิจารณาบทลงโทษ แต่หากโรงงานทำได้ดี จะมีการให้รางวัล ปรับให้เป็นสถานประกอบต้นแบบ”
    พญ.อภิสมัยยังกล่าวถึงกรณีแคมป์คนงานว่า ที่ประชุม ศบค.ชุดเล็กได้หารือกันว่าจากการวางมาตรการการ ควบคุมการแพร่ระบาดของแคมป์ที่พักคนงานไซต์ก่อสร้าง ซึ่ง พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะ ผอ.ศปก.ศบค. ได้มอบให้กรมควบคุมโรคทบทวนรายละเอียดในแง่ของการจัดการบับเบิลแอนด์ซีล พยายามที่จะทำให้การแพร่ระบาดมีวงจำกัดอยู่เฉพาะที่แคมป์คนงาน
    ส่วนที่ห้องประชุมชั้น 5 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการ นพ.พรณรงค์ ศรีม่วง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการ แถลงสถานการณ์ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ว่าพบผู้ติดเชื้อจำนวน 466 ราย เป็นผู้ป่วยในพื้นที่จำนวน 433 ราย อ.เมืองสมุทรปราการ 266 ราย, อ.พระประแดง จำนวน 28  ราย, อ.บางพลี 106 ราย, อ.บางบ่อ 8  ราย และ อ.บางเสาธง 25 ราย ทำให้มีผู้ป่วยสะสม 7,738 ราย ขณะที่มีการเสียชีวิต 4 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 82   ราย ซึ่งคลัสเตอร์ใหญ่มีตลาดสำโรง อ.เมืองสมุทรปราการ, เจริญสินคอนโด, โรงน้ำแข็งบางโฉลง อ.บางพลี, โรงงานสิ่งทอ อ.บางเสาธง และโรงงานอาหารแปรรูป อ.บางบ่อ
ขณะที่ศูนย์ปฏิบัติการโควิด-19 จ.นนทบุรี รายงานพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ จำนวน 269 ราย จากแคมป์คนงาน 3 แห่ง ในอำเภอปากเกร็ด 196 ราย ในโรงพยาบาล 73 ราย สาเหตุติดเชื้อที่สำคัญ แคมป์คนงาน สถานที่ทำงาน ตลาด และครอบครัว
    ส่วนนายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการ จ.พระนครศรีอยุธยา เผยว่า คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดมีมติให้ปิด (ชั่วคราว) บริษัทที่ อ.เสนา เป็นเวลา 7 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 3-9 มิ.ย. เนื่องจากพบผู้ติดเชื้อกระจายในหลายแผนก รวม 84 คน โดยก่อนหน้านี้บริษัทขอปิดตัวเองชั่วคราวในบางแผนก เพราะพบผู้ติดเชื้อ แต่ภายหลังการตรวจเชิงรุก พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม คณะกรรมการควบคุมโรคฯ จึงมีมติร่วมกันเห็นควรปิด (ชั่วคราว) และให้ปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขและควบคุมโรค เพื่อลดผลกระทบที่จะขยายเป็นวงกว้างกว่านี้
    นายจารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ในฐานะประธานกรรมการโรคติดต่อ จ.สงขลา เปิดเผยว่า จ.สงขลาพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 30 ราย จากคลัสเตอร์ใหม่สำนักงานที่ดิน จ.สงขลา สาขาหาดใหญ่ และคลัสเตอร์การเลี้ยงฉลองตำแหน่งสมาชิกสภาเทศบาลบางแห่ง ส่วนคลัสเตอร์เรือนจำ 10 ราย รวมผู้ติดเชื้อโควิดในเรือนจำ 246 ราย นอกจากนั้นพบผู้ติดเชื้อจากผู้สัมผัสผู้ติดเชื้อในพื้นที่ ยอดสะสมผู้ติดเชื้อตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.64 จำนวน 1,792 ราย ทั้งนี้ ได้หารือกับนายกเทศบาลนครหาดใหญ่กับนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ในเรื่องการซื้อวัคซีนเพื่อฟื้นสงขลาได้เร็วขึ้น หากส่วนกลางปลดล็อก และจะแจกจ่ายให้กับท้องถิ่นขนาดเล็กด้วย.

 

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"