ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา กำชับตำรวจหน่วยในสังกัดให้เข้มงวด สกัดต่างด้าวที่อาจจะแอบหลบหนีเข้าประเทศ รวมทั้งการเข้มงวดรถบรรทุกสินค้าที่ผ่านพรมแดนให้มีการตรวจตราเข้มงวดมากยิ่งขึ้น หลังมาเลเซียประกาศล็อกดาวน์ประเทศ 14 วัน
จากกรณีที่ประเทศมาเลเซียได้มีประกาศล็อกดาวน์ประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน-14 มิถุนายน 2564 และมีการคาดการณ์ว่าจะมีการผลักดันกลุ่มแรงงานต่างด้าวออกตามบริเวณแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย รวมไปถึงประชาชนคนไทยที่มีความต้องการจะกลับเข้าประเทศไทยทั้งที่ถูกกฎหมาย และตามช่องทางธรรมชาติที่ผิดกฎหมาย โดยเฉพาะในพื้นอำเภอเบตงและอำเภอกาบัง จังหวัดยะลา ถือว่าเป็นจุดสุ่มเสี่ยงต่อการที่จะมีผู้ลักลอบเข้าประเทศข้ามฝั่งเข้ามาสู่ประเทศไทยได้
พลตำรวจตรีทินกร รังมาตย์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่ตรวจคุมเข้มแนวชายแดนไทย-มาเลเซียที่อำเภอเบตง จังหวัดยะลา ได้มีการกำชับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ให้เข้มงวดเพื่อป้องกันคนต่างด้าวลอบเข้าประเทศ รวมทั้งการเข้มงวดรถบรรทุกสินค้าที่ผ่านพรมแดนให้มีการตรวจตราเข้มงวดมากยิ่งขึ้น โดยที่ด่านหลัก ตรวจรถขนสินค้า คนประจำรถเข้มทั้งใบผ่านการตรวจโควิด ต้องมีแสดง กำหนดพื้นที่จอดลงของ ลงรถ ที่พัก เป็นสัดส่วนไม่ให้ปะปนกับคนไทย ขยะให้ใส่ถุงดำ นำกลับประเทศมาเลเซียไปด้วย
การไปจอดจุดใด จะมีการรายงานกันทางไลน์ออกมา จนกระทั่งออกไป ตามลำดับ เข้มงวดจริงจัง ไม่ปล่อยให้หลุดในทุกขั้นตอนของศุลกากร อสม.บริษัทที่เกี่ยวข้องกับสินค้า ซึ่งมาตรการต่างๆ ทางผู้บัญชาการตำรวจได้กำชับมายังตำรวจภูธรจังหวัดยะลาให้ทุกหน่วยประสานการปฏิบัติโดยใกล้ชิด
และหากมีการลักลอบเข้ามาถึงพื้นที่ตอนในแล้ว ทุกภาคส่วนในพื้นที่ทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น ตลอดจนพี่น้องประชาชนก็จะเป็นหูเป็นตาในการที่จะช่วยสอดส่องว่ามีคนแปลกหน้าเข้ามาอาศัยอยู่ในพื้นที่หรือไม่ ซึ่งทั้งหมดตนเองได้กำชับทุกหน่วยปฏิบัติในพื้นที่ของตำรวจภูธรจังหวัดยะลาให้ถือปฏิบัติตามข้อสั่งการอย่างเคร่งครัด ตั้งแต่เรื่องแนวชายแดนการประสานงานกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ท้องที่ ท้องถิ่น การประสานความร่วมมือกับพี่น้องประชาชน
ทั้งนี้ จากสถิติที่ผ่านมาการลักลอบเดินทางเข้าเมืองผิดกฎหมายจากประเทศมาเลเซียนั้นมีจำนวนน้อยมาก โดยเฉพาะด่านฝั่งของ อ.เบตง จะมีความเข้มแข็งของพี่น้องประชาชนในการช่วยกันดูแล ส่วนฝั่งของอำเภอกาบัง ก็จะเป็นพื้นที่ป่าเขาสูงชันซึ่งไม่เป็นที่นิยมที่หลบหนีเข้ามา
แต่อย่างไรก็ตาม ด้วยสภาพพื้นที่ของชายแดนจังหวัดยะลาค่อนข้างจะได้เปรียบกว่าจังหวัดอื่น และการตั้งด่านที่เข้มงวดของทุกหน่วย รวมทั้งพี่น้องประชาชนที่ช่วยกันดูในพื้นที่ โอกาสที่จะมีผู้ที่ลักลอบเดินทางเข้ามาก็จะมีน้อย ประกอบกับประชาชนช่วยกันเป็นหูเป็นตาในการแจ้งเบาะแสและให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อย่างมาก ซึ่งถือว่าเป็นปัญหาร่วมกันของทุกคนที่จะต้องช่วยกัน
ขณะที่ทางจังหวัดกาญจนบุรี พ.ต.อ.บุญส่งวิทย์ ห้องแซง ผกก.สภ.ทองผาภูมิ พ.ต.ต.ภาวัฒน์ ธรรมวิเศษ สว.สส.สภ.ทองผาภูมิ เจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษ กองกำกับการสืบสวนกองบังคับการตำรวจภูธร (นปพ.กก.สส.ภ.จว.) กาญจนบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ทองผาภูมิ ร่วมปฏิบัติการตามแผนสกัดกั้นคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง การปราบปรามยาเสพติดและการค้ามนุษย์ โดยได้ออกตรวจพื้นที่แนวชายแดนบริเวณท่าเทียบเรือเขาสิงโต บ้านวังขยาย หมู่ 4 ต.ปรังเผล อ.สังขละบุรี ที่มีแนวเขตติดต่อกับ อ.ทองผาภูมิ ซึ่งเป็นจุดลงเรือของแรงงานต่างด้าวที่นั่งเรือจาก อ.สังขละบุรี มาขึ้นฝั่งเพื่อขึ้นรถยนต์ของผู้นำพาที่บริเวณดังกล่าว หลบหนีเข้าไปทำงานใน กทม. รวมทั้งจังหวัดพื้นที่ชั้นในและปริมณฑล ที่ผ่านมาสามารถจับกุมได้แล้วเป็นจำนวนมาก
ด้าน พ.ต.อ.สุกิจ ก้องจตุศักดิ์ ผกก.กก.ตชด.ที่ 13 (ค่ายพระพุทธยอดฟ้า) เปิดเผยว่า วันนี้เจ้าหน้าที่ ตชด.ที่ 135 ประจำฐานปฏิบัติการช้างศึก บ้านอีต่อง หมู่ 1 ต.ปิล๊อก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี โดยมอบหมายให้ ส.ต.ท.ประสพโชค สุคลชาติ ผบ.หมู่ มว.ตชด.135 เป็นหัวหน้าชุดพร้อมกำลัง 4 นาย ทำการออกลาดตระเวนสืบสวนหาข่าวเพื่อป้องกันการกระทำผิดกฎหมายทุกรูปแบบ และการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองของแรงงานต่างจากประเทศเพื่อนบ้านโดยผิดกฎหมาย และทำการตั้งจุดตรวจจุดสกัดเพื่อตรวจสอบจับกุมแรงงานต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ในพื้นที่รับผิดชอบ โดยได้ทำการเดินลาดตระเวนไปตามเส้นทางจากจุดตรวจช่องทางหินกองพิกัด MS 318229 จุดเฝ้าตรวจช่องทางมิตรภาพ พิกัด MS 318231 และเส้นทางบริเวณแนวชายแดนและพักค้างแรม 1 คืน ที่บริเวณพิกัด MS 321231 เพื่อทำการซุ่มเฝ้าตรวจใกล้จุดพัก เบื้องต้นยังไม่พบการกระทำผิดกฎหมายและการลักลอบหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยของแรงงานต่างด้าวแต่อย่างใด
นอกจากนี้ยังได้สั่งการให้ ร้อย ตชด.ที่ 137 นำโดย ร.ต.ต.สง่า เทียมสยาม ผบ.มว.ตชด.137 ส.ต.ท.อุดมทรัพย์ นิกพิมพ์ ผบ.หมู่ พร้อมเจ้าหน้าที่ ตชด.ที่ 137 รวม 6 นาย ทำการลาดตระเวนหาข่าวเพื่อพิสูจน์ทราบในพื้นที่รับผิดชอบ เพื่อป้องกันการรุกล้ำอธิปไตยและป้องกันการลักลอบหลบหนีเข้าเมือง และผ่าน เข้า-ออก ตามช่องทางธรรมชาติ ตามมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และการกระทำผิดกฎหมาย บริเวณพื้นที่ช่องทางขากระโจม พิกัด NR 190010 ท้องที่หมู่ 3 ต.สวนผึ้ง อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี และพื้นที่ใกล้เคียง ล่าสุดได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ ตชด.ที่ 137 อ.สวนผึ้ง ว่าไม่พบการกระทำผิดกฎหมายแต่อย่างใด.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |