เมื่อวานได้อ่านคำอธิบายของคุณหมออุดม คชินทร หนึ่งในปรึกษาของ ศบค. เรื่องแผนการรับมอบและฉีดวัคซีน
วันนี้มาฟังด้าน “ชมรมแพทย์ชนบท” ที่คุณหมอสุภัทร ฮาสุวรรณกิจ นำมาเล่าขานในเฟซบุ๊กของท่านเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
ล่าสุดเมื่อวานนี้ คุณหมอแจ้งว่ากรมควบคุมโรคได้แจ้งยอดการส่งวัคซีน AstraZeneca มาแล้ว
รอบแรก จำนวน 2.4 แสนโดส
โดยเมื่อวานนี้ได้เริ่มส่งไป 58 จังหวัด จังหวัดละ 3,600 โดส
ส่วนอีก 19 จังหวัดในภาคกลางและภาคตะวันออกจะได้รับ AstraZeneca ตามมาภายในวันที่ 6 มิถุนายน ก่อนวัน Kickoff หนึ่งวัน
ที่แน่ๆ คือทุกโรงพยาบาลมี Sinovac ไปร่วมขัดตาทัพก่อนเป็นอย่างน้อย
เป็นจังหวะเดียวกับที่ WHO เพิ่งประกาศอนุมัติการใช้ในกรณีฉุกเฉินให้กับ Sinovac พอดีเช่นกัน
ก่อนหน้านี้สองสามวัน คุณหมอสุภัทรได้ขึ้นข้อความด้วยพาดหัวว่า
“แอสตร้าฯ มิถุนายน ความปั่นป่วนที่ ศบค.ไม่กล้าบอกความจริง”
เนื้อหาบางตอนบอกว่า
วันที่ 7 มิถุนายน 2564 วันแรกที่ kick off ฉีดวัคซีนตามที่ลงทะเบียนไว้ แล้วจะได้ฉีดวัคซีนแอสตร้าฯ ไหม
แล้ววันต่อๆ ไปด้วย จะได้ฉีดแอสตร้าฯ จริงไหม
หรือจะกลายมาเป็นซิโนแวค นี่คือคำถามที่ปั่นป่วนมาก
วัคซีนแอสตร้าฯ จากสยามไบโอไซเอนซ์นั้น เป็นความหวังสำคัญยิ่ง
แต่เพราะเป็นวัคซีน lot แรก การผลิตย่อมมีอุปสรรค ความชำนาญก็ยังมีไม่มาก ผลิตแล้วก็ต้องนำไปตรวจรับรองโดยบริษัทแม่ด้วย เมื่อพบความเบี่ยงเบนของค่าต่างๆ ก็ต้องนำกลับมาแก้ไขให้ได้ตามมาตรฐาน
แม้ทำเต็มที่แต่ก็ยังล่าช้าและมีจำนวนน้อยกว่าที่คาดการณ์
ในสัญญาการส่งมอบวัคซีนแอสตร้าฯ นั้น ตกลงไว้ว่า จะมีส่งมอบวัคซีนในสิ้นไตรมาส 3 คือมิถุนายน ซึ่งแปลว่าส่งมอบใน 1-30 มิถุนายน ก็ไม่ได้ผิดสัญญา
ส่วน 7 มิถุนายนนั้น เป็นเรื่องที่ ศบค.กำหนดเอง เพื่อลดเสียงก่นด่าเรื่องทำไมไม่มีวัคซีนให้ฉีด
เมื่อผลิตวัคซีนได้น้อยและช้ากว่าที่ตั้งธงไว้ การระบาดก็รุนแรง ความต้องการฉีดพุ่งสูง
จึงเป็นมิถุนา.แห่งความโกลาหล
แผนการกระจายวัคซีนตอนนี้สร้างความปวดหัวแก่ รพ.อย่างมาก เพราะเปลี่ยนโผแทบทุกวัน
ด้วยข้อมูลที่จำกัด เข้าใจว่า วัคซีน lot แรกในเดือนมิถุนายนนี้ จะสามารถส่งมอบล็อตแรกได้ที่ 1.8 ล้านโดส จากความต้องการใช้แอสตร้าฯ 5 ล้านโดส
โจทย์ที่สำคัญคือวัคซีนจำนวนนี้ควรจัดสรรไปฉีดให้ใคร แล้ววัคซีนที่ขาดไปจะทำอย่างไร
ต้องขอบอกก่อนว่า วัคซีนนั้นเป็นของหายาก กำลังการผลิตทั้งโลกมีจำกัด บริษัทต้องส่งตามยอดการจองที่สั่งไว้ก่อน การซื้อด่วนๆ นั้นก็มีได้บ้าง แต่ได้ราคาแพงและจำนวนน้อย
ซึ่งปัจจุบันเราก็ได้ด่วนมาเฉพาะซิโนแวคเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม วันที่ 7 มิถุนายน 2564 ก็ต้องมีวัคซีนแอสตร้าฯ มาฉีดให้กับคนไทย
นี่คือความอยู่รอดครั้งสำคัญของรัฐบาล
แผนสองจึงเกิดขึ้น วัคซีนแอสตร้าฯ จากเกาหลีคือคำตอบสุดท้าย
ข่าววงในบอกว่ารัฐบาลจ่ายหนัก สั่งด่วนมาจากเกาหลี 5 แสนโดสมาแก้ขัดให้ทัน 7 มิถุนายนนี้ และสั่งซิโนแวคมาอีกมากกว่า 3 ล้านโดส สำหรับใช้แทนแอสตร้าฯ ที่ขาดหายไป
คนที่ลงทะเบียนไว้ส่วนหนึ่งจะได้รับการเชิญชวนให้ฉีดซิโนแวคแทน
เมื่อแอสตร้าฯ มีน้อย ปรากฏการณ์เชิญชวนแกมบังคับให้โรงพยาบาลฉีดจากขวดละ 10 โดสให้ได้ 12 โดส จึงเกิดขึ้น เพื่อรีดวัคซีนให้เพิ่ม 20%
อย่างน้อยเสียงก่นด่าก็ลดลง 20%
และเพื่อลดแรงต้านจากบุคลากรการแพทย์ ทาง ศบค.จะสั่งซื้อ low dead space syringe ส่งมาพร้อมกับวัคซีนแอสตร้าฯ ด้วย เพื่อให้การสูญเสียที่เกิดขึ้นแน่ในเข็มฉีดยาให้มีน้อยที่สุด
ยอดการจัดสรรขวดวัคซีนแอสตร้าฯ และแบบรายงานการฉีดที่ ศบค.จะส่งมานั้น จึงคิดที่ 12 โดสต่อขวด ไม่ใช่ 10 โดส
เช่น หากมีกลุ่มเป้าหมาย 6,000 คน จะได้วัคซีน 500 ขวด ไม่ใช่ 600 ขวด นี่คือนโยบาย บ่นได้แต่ต้องทำ
ในขณะวัคซีนยังมีน้อย บรรดา ส.ส. และคนมือยาวก็ยังพยายามจะตัดวัคซีนล็อตใหญ่ไปฉีดจังหวัดหรือบริษัทตนเอง ประกันสังคมก็ตัดไป 1 ล้านโดสให้กับโรงงาน การระบาดหนักในกรุงเทพฯ และปริมณฑลที่ควรได้วัคซีนก่อนเพื่อยุติการระบาด นี่ขนาดนายกฯ ประยุทธ์ยึดอำนาจ สธ.ลงมาบัญชาการเองก็ยังไม่กล้าฟันธง
ข่าวว่ามีการชง ศบค.ให้เอาวัคซีนแอสตร้าฯ 1.8 ล้านโดสนี้ ฉีดปูพรมในกรุงเทพฯ และปริมณฑลเพื่อยุติการระบาด
เพราะเข็มแรกของแอสตร้าฯ ก็เกิดภูมิแล้วถึง 80% ในขณะที่ซิโนแวคเข็มแรกเกิดภูมิน้อยกว่า
ประดุจการระดมรถดับเพลิงมาฉีดจุดที่มีไฟไหม้ใหญ่ ไม่ใช่แยกเอารถดับเพลิงที่มีน้อยไปฉีดแถวบุรีรัมย์ ชลบุรี
แต่นายกฯ ไม่กล้าสั่งทั้งๆ ที่เป็นสิ่งที่ถูกต้อง
การระบาดในไทยจึงจะยังทรงและทรุดเช่นนี้ต่อไปอีกหลายเดือน
นี่คือข้อมูลและแนววิเคราะห์จาก “ชมรมหมอชนบท” ที่เป็นบุคลากรทางการแพทย์ที่สำคัญในการช่วยแก้วิกฤติโควิดครั้งนี้ด้วย
สถานการณ์ปรับเปลี่ยนได้ทุกวัน ความสำเร็จหรือล้มเหลวของปฏิบัติการครั้งนี้จึงอยู่ที่ความสามารถในการบริหารความผันแปรที่เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
รัฐบาลส่วนกลางจะต้องฟังเพื่อนำไปแก้ไขปรับปรุงให้สอดคล้องกับปัญหาที่แท้จริงทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดอย่างเร่งด่วน.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |