2 มิ.ย.64 - ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลุกขึ้นชี้แจงว่า กรณีที่ถูกกล่าวหาว่าไม่มีความรู้ความสามารถในเรื่องสาธารณสุขแต่กลับรวบอำนาจไว้ทั้งหมด โดยต้องรวบอำนาจกฎหมายทั้ง 31 ฉบับ โดยเฉพาะพ.ร.บ.โรคติดต่อ กระทรวงสาธารณสุข ไม่สามารถสั่งการกระทรวงอื่นได้ จึงได้นำกฎหมายทั้ง 31 ฉบับมาดูแลเอง เพื่อแบ่งงานให้เหมาะสมกับแต่ละหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดูแล ไม่ใช่สั่งการตามอำเภอใจ ให้เกียรติรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีทุกคน สามารถพูดคุยกันได้ทุกโอกาส หารือได้ทุกเวลา โดยเฉพาะสถานการณ์โควิด กับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปรียบเสมือนเป็นที่ปรึกษา หากเลขา สมช.มาเป็นผอ.ศบค.แล้วให้รองนายกรัฐมนตรีไปนั่งข้างๆค่อยมาว่าตนเอง
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนยืนยันทุกคำสั่งมีการรับฟังเหตุผลจากกระทรวงสาธารณสุขที่มีบุคลากรที่เชี่ยวชาญเป็นหลัก ไม่ใช่อยากสั่งอะไรก็สั่ง และก็ได้รับข้อมูลมาจากหลายส่วนเพื่อประมวลผลก่อนให้นโยบายแก่ศบค. ซึ่งใน ศบคมีหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งพลเรือน ตำรวจ และทหาร รวมถึงกระทรวงที่เกี่ยวข้อง โดยเน้นให้ความสำคัญกับบุคลากรทางการแพทย์และกรมต่างๆ ในกระทรวงสาธารณสุข
ส่วนการบริหารงบประมาณสำหรับจัดซื้อวัคซีน ที่ไม่บรรจุอยู่ในงบประมาณของกระทรวงสาธารณสุขนั้น เพราะยังไม่รู้การระบาดของโควิดจะจบเมื่อไหร่ จึงต้องแยกงบออกมา เพื่อดูว่าหางบประมาณจากส่วนไหน เช่น งบเงินกู้ หรืองบกลาง อะไรที่เร่งด่วนไม่ทันการณ์ก็ ก็จะสลับงบใช้จ่ายให้เพื่อจัดหาวัคซีน ในส่วนงบกลาง ไม่ใช่นึกจะใช้หรือเอาไปให้ใครก็ได้ จะสร้างความไม่เป็นธรรมให้กับพรรคต่างๆยืนยันให้ความสำคัญกับประชาชนเป็นหลัก ซึ่งต้องอนุมัติโครงการต้องผ่านกลไกการจัดทำและการขออนุมัติโครงการตามวงเงิน งบกลางที่ใช้เป็นจำนวนมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมามามีการจัดสรรให้จังหวัด ที่มีความจำเป็นเร่งด่วน ยืนยัน ทุกส่วนสามารถตรวจสอบได้ ไม่มีตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้ เพราะต้องระมัดระวังในการใช้จ่าย ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่การเมืองหรือไม่ก็ตาม หากประชาชนเดือดร้อน ต้องจัดสรรงบประมาณให้ในพื้นที่นั้น สามารถตรวจสอบจากผู้ว่าราชการจังหวัดได้ หากความต้องการของทุกฝ่ายมีมากเท่ากัน ก็จนใจว่า จะหางบประมาณจากส่วนใดมาจัดสรรให้ให้ แต่หากหาให้ได้ก็จะพยายามอย่างเต็มที่
วันนี้ได้ทำทุกอย่างตามที่ ส.ส. ได้เสนอแนะ อีกเรื่อง ที่บรรดาพรรคร่วมรัฐบาลเสนอโครงการมาแต่ไม่มีงบประมาณ หากแผนโครงการที่มีรายละเอียดชัดและถูกต้อง ก็พยายามจัดสรรงบให้ตามความจำเป็นเร่งด่วน ที่ผ่านมาไม่เคยขาดเรื่องการจัดสรรงบเพราะไม่ใช่เงินของตน พยายามบริหารตัวเลขให้ดีที่สุดเพื่อ ให้ทั่วถึงและเกิดความเป็นธรรม ดังนั้นอย่ากล่าวหาว่า รวบอำนาจ ขอให้เข้าใจตามที่พูดไปซึ่งได้ชี้แจงทั้งหมดแล้ว ได้ถามกับนายอนุทินตลอดว่า อยากได้อำนาจกลับคืนไปแล้วหรือยัง นายอนุทินก็ยืนยันว่า ยัง บอกว่า กระทรวงสาธารณสุข ทำไม่ไหว สั่งใครไม่ได้ เพราะไม่สามารถสั่งการใครได้ สั่งการได้แต่กระทรวงสาธารณสุข จึงอยากถามกลับไปยังส.ส.ว่าเรื่องนี้ ใช่ความจริงหรือไม่ ถ้าใช่ก็โอเค แต่ถ้าไม่ใช่ก็ว่ากันอีกที ทุกกระทรวงมีภารกิจและกฎหมายของแต่ละกระทรวง แต่พ.ร.บ.โรคติดต่อ เป็นของกระทรวงสาธารณสุข วันนี้ไปไหวหรือไม่
“อยากคืนอำนาจไปตั้งนานแล้ว แต่เค้ายังบอกว่าเอาไว้ก่อน นี่คือข้อเท็จจริง ไม่อยากสร้างความขัดแย้งกับใครทั้งสิ้น กระทรวงสาธารณสุขดูแลทุกเรื่องทุกอย่างไม่เคยขาด อนุมัติหมด โดยเฉพาะวัคซีนซึ่งให้อำนาจจัดซื้อจัดจองทุกอย่าง ขณะที่กรุงเทพมหานคร ยังมีการให้ระบาดของโควิด ไม่ได้โทษประชาชน เพราะมีหลายคลัสเตอร์ เมื่อเกิดขึ้นแล้วรัฐบาลต้องหามาตรการที่เหมาะสมในการควบคุม แต่โชคดีที่คลัสเตอร์เหล่านี้สามารถควบคุมได้ และต้องมีการบริหารจัดการทั้งเรื่องวัคซีนที่จะต้องมียอดแตกต่างกันในแต่ละจังหวัด การรับวัคซีนต้องใช้กับคนที่ยังไม่ติดโควิด ส่วนที่หลายฝ่ายต้องการให้ใช้กับคนที่ติดโควิดแล้วคิดว่ายิ่งจะตายหนักกว่าเดิม และมีการใช้สมุนไพรไทยควบคู่กันไปด้วย ซึ่งรัฐบาลก็จัดหาให้ทั้งหมดและคนที่เสนอก็คือกระทรวงสาธารณสุขทั้งสิ้น”นายกฯกล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า การทำงานอาจจะดูสับสนวุ่นวายไปหน่อย แต่การบริหารของตนรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่าย คนนอกไม่เข้าใจก็ต้องอธิบายต้องชี้แจงความสุจริต ไม่ใช่ว่าจะใช้อำนาจตลอดเพราะอำนาจอยู่ไม่นาน หลายคนต้องการอำนาจ แต่ตนไม่ต้องการอำนาจแต่ต้องการความร่วมมือ หากไม่มีใครมาว่ามาบิดเบือนรัฐบาล ไม่เคยตอบโต้ แต่หากโจมตีเสียหาย ก็จำเป็นคือ ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สำหรับวัคซีนที่เข้ามาก็จะเร่งกระจาย ตามที่วางแผนไว้ในแต่ละจังหวัดว่า จะทำอย่างไรให้ได้ 60% ทั่วประเทศ บางพื้นที่อาจจะได้น้อยในช่วงนี้เนื่องจากการแพทย์ระบาดมีน้อยหรืออาจจะไม่มีเลย แต่ยืนยัน จะให้ทุกจังหวัดและให้ทุกเดือน มากน้อยขึ้นอยู่กับสถานการณ์
วันนี้ขออย่ามองแค่วัคซีนซิโนแวคและแอสตราเซเนกา วันนี้มีซิโนฟาร์มเข้ามาแล้วและกำลังติดต่อเข้ามาอีก 2-3 บริษัท ยืนยันว่าไม่ห่วงอำนาจการนำเข้าวัคซีนของท้องถิ่นเพื่อสร้างความรักความชอบ แต่ขออย่างเดียวอย่าสร้างความเกลียดชังให้มากนัก เพราะวันนี้ประเทศไทยต้องการความเป็นหนึ่งเดียว อะไรที่เป็นปัญหา ไม่ชอบใจให้เก็บไว้ก่อน ตอนนี้ไม่ใช่เวลา
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |