2มิ.ย.64-นายสุเทพ แก่งสันเทียะ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เปิดเผยว่า ตามที่นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้ออกประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง แนวปฏิบัติการเก็บเงินบำรุงการศึกษา ค่าธรรมเนียมการศึกษา ค่าธรรมเนียมการเรียน และค่าธรรมเนียมอื่นๆ เพื่อเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายและบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ปกครองในสถานการณ์ปัจจุบัน สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(สอศ.)จึงได้มีหนังสือถึงสถานศึกษาภาครัฐและภาคเอกชนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาทั่วประเทศ ที่ ศธ 0601/3693 เรื่อง ซักซ้อมแนวปฏิบัติการเก็บเงินบำรุงการศึกษา ค่าธรรมเนียมการศึกษา ค่าธรรมเนียมการเรียน และค่าธรรมเนียมอื่นๆ ตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ โดยให้สถานศึกษาปฏิบัติ มีสาระสำคัญ ดังนี้ 1.ให้คืนเงินบำรุงการศึกษาหรือค่าธรรมเนียม ในส่วนที่ไม่ได้จัดกิจกรรมการเรียนการสอน 2.พิจารณาผ่อนผันหรือขยายระยะเวลาการเรียกเก็บเงินบำรุงการศึกษาหรือค่าธรรมเนียม ตามความเหมาะสมเป็นกรณีไป 3.ให้ความช่วยเหลือในกรณีที่ผู้ปกครองของนักเรียน นักศึกษาได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าวตามความจำเป็นและเหมาะสม
เลขาธิการกอศ. กล่าวต่อไปว่า ทางสอศ. ได้ดำเนินการสำรวจสถานศึกษาอาชีวศึกษาภาครัฐและภาคเอกชนที่พร้อมจัดการเรียนการสอน รวมทั้งสิ้น 994 แห่ง โดยมีสถานศึกษาอาชีวศึกษาที่เปิดเรียน เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน จำนวน 156 แห่ง แบ่งเป็นการเรียนแบบผสมระหว่าง Online กับ On Site จำนวน 103 แห่ง Online จำนวน 37 แห่ง และ On site จำนวน 16 แห่ง ในขณะที่สถานศึกษาเปิดเรียนระหว่างวันที่ 2 – 11 มิถุนายน จำนวน 44 แห่ง และจะเปิดเรียนวันที่ 14 มิถุนายน จำนวน 794 แห่ง โดยสถานศึกษาที่อยู่ในพื้นที่สีแดงเข้ม จะเปิดเรียนในวันที่ 14 มิถุนายน สำหรับการเรียนการสอนจะมี 3 รูปแบบ คือ 1. Online ครูจะใช้แพลตฟอร์มในการจัดการเรียนการสอนรูปแบบออนไลน์ เช่น Zoom, Microsoft Team, Google meet และ Google classroom เป็นต้น 2. On Site ให้มาเรียนตามปกติได้ในพื้นที่ที่ไม่ใช่สีแดงเข้ม ซึ่งจะต้องได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดก่อน และต้องมีมาตรการในการรักษาความปลอดภัยที่ต้องปฏิบัติตามอย่างเข้มงวด เช่น การรักษาระยะห่าง การลดจำนวนนักเรียน นักศึกษาต่อห้อง การสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา เป็นต้น และ 3. แบบผสมระหว่าง On Site และ Online เป็นการจัดการเรียนการสอนที่สลับวันเรียนของนักเรียน นักศึกษา ขึ้นอยู่กับบริบทของสถานศึกษาแต่ละแห่ง
นอกจากนี้ การจัดการเรียนการสอนของนักเรียน นักศึกษาอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี สถานศึกษาจะต้องดำเนินการตามมาตรการการฝึกปฏิบัติงานของนักเรียน นักศึกษาระบบทวิภาคี ซึ่งจะต้องได้รับความเห็นชอบจาก 3 ส่วน ได้แก่ ผู้ปกครอง ผู้เรียน และสถานประกอบการ ดังนั้นหากส่วนใดส่วนหนึ่งไม่เห็นด้วยที่จะให้มีการฝึกงาน สถานศึกษาจะต้องบริหารจัดการตารางการฝึกงานใหม่ให้แก่นักเรียน นักศึกษา เช่น จัดให้มีการฝึกปฏิบัติงานภายในสถานศึกษา เป็นต้น ซึ่งสถานศึกษาจะต้องจัดการฝึกปฏิบัติงานของผู้เรียนให้ครบตามหลักสูตร ทั้งนี้ การเปิดเรียนในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564 นี้ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาได้กำหนดมาตรการการป้องกันและการคัดกรองที่เข้มงวด และต้องคำนึงถึงความปลอดภัยด้านสุขภาพของนักเรียน นักศึกษา และผู้ปกครองเป็นสำคัญ
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |