กกต.แจ้งยอดรวมสมาชิกพรรคหด 4ล้านเหลือแสนกว่า จ่อยุบ 28 พรรค "มาตุภูมิ" ของบิ๊กบังโดนด้วย "เอนก" ร่อนหนังสือลาออกทุกตำแหน่ง มุ่งทำงานการเมืองเต็มที่ "อนาคตใหม่" เปิดอุดมการณ์ 13 ข้อ
ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง แถลงว่า ขณะนี้พรรคการเมืองเดิม 46 พรรค ได้รายงานยอดสมาชิกจำนวนทั้งสิ้น 137,479 คน จากเดิมทั้งหมด 4 ล้านคน ส่วนการยื่นขอจดแจ้งเตรียมการตั้งพรรคการเมืองจำนวน 106 พรรคนั้น มี 67 พรรค ได้รับหนังสือยืนยันการยื่นจดแจ้ง และมีพรรคที่กกต.ส่งขออนุญาตจัดประชุมพรรค 57 พรรค และมีพรรคมายื่นขอจัดตั้งพรรคแล้ว 7 พรรค
ทั้งนี้ รายงานการแจ้งยอดสมาชิกของพรรคการเมือง สำนักงานจะเสนอ กกต.ต่อไป ส่วนจะเป็นเหตุผลให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เร่งพิจารณาปลดล็อกเพื่อให้พรรคการเมืองหาสมาชิกเพิ่มเพื่อจัดทำไพรมารีโหวตหรือไม่ เป็นอำนาจพิจารณาของ คสช. แต่คิดว่าพรรคการเมืองเองได้เตรียมความพร้อมไว้แล้ว
สำหรับกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติว่าร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ไม่ขัดรัฐธรรมนูญนั้น พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวว่า กกต.เตรียมออกระเบียบรองรับ ซึ่งมีทั้งหมด 45 ฉบับ ขณะนี้เสร็จแล้ว 19 ฉบับ ส่วนการใช้อำนวยความสะดวกให้ผู้สูงอายุ พิการ ทุพพลภาพนั้น กำลังพิจารณาหามาตรการในการดูแลให้การใช้สิทธิของกลุ่มนี้ ที่มีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวก เป็นความลับตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งจะยกร่างระเบียบให้ชัดเจน
เลขาธิการ กกต.กล่าวว่า ในส่วนเรื่องการแบ่งเขตเลือกตั้งนั้น กกต.จะดำเนินการได้เมื่อ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ใช้บังคับแล้ว โดย กกต.จะออกระเบียบและให้ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัด นำ 3 รูปแบบของการแบ่งเขตในแต่ละเขตไปให้รับฟังความคิดเห็นของประชาชนก่อน แล้วจะพิจารณารูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง ซึ่งใช้เวลาทั้งหมด 45 วัน ส่วนตัวได้ยินว่าอยากให้มีการใช้อำนาจพิเศษให้ กกต.แบ่งเขตได้เร็ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ 46 พรรคที่รายงานยอดสมาชิก ประกอบด้วย พรรคประชาธิปไตยใหม่, พรรคเสรีรวมไทย, พรรคชาติพัฒนา, พรรคคนธรรมดาแห่งประเทศไทย, พรรคพลังประเทศไทย, พรรคทวงคืนผืนป่าประเทศไทย, พรรคเสรีนิยม, พรรคประชาธิปไตยเพื่อประชาชน, พรรคชาติประชาธิปไตยก้าวหน้า, พรรคเพื่อสหกรณ์ไทย, พรรคมาตุภูมิ, พรรคพลังท้องถิ่นไทย, พรรคภูมิใจไทย, พรรคพลังไทยรักชาติ, พรรคยางพาราไทย, พรรคธรรมาภิบาลสังคม, พรรคร่วมพัฒนาชาติไทย, พรรคเพื่อไทย, พรรคกสิกรไทย, พรรคคนไทย, พรรคชาติไทยพัฒนา, พรรคประชาธิปัตย์, พรรคประชาสันติ, พรรคเครือข่ายชาวนาแห่งประเทศไทย
พรรคภารดรภาพ, พรรคไทยรวมพลัง, พรรคเพื่อสันติ, พรรคไทยรักธรรม, พรรคพลังประชาธิปไตย, พรรคสังคมประชาธิปไตยไทย, พรรคความหวังใหม่, พรรคเพื่อแผ่นดิน, พรรคประชากรไทย, พรรคมหาประชาชน, พรรคประชาราช, พรรคไทยมหารัฐพัฒนา, พรรคกิจสังคม, พรรคอนาคตไทย, พรรครักษ์ธรรม, พรรคเพื่อธรรม, พรรคเพื่อชีวิตใหม่, พรรคมหาชน, พรรคเพื่อชาติ, พรรคประชาสามัคคี, พรรคประชาธรรม และพรรคพลังสหกรณ์
ส่วนพรรคที่ได้รับการยืนยันสมาชิกสูงสุดคือ พรรคประชาธิปัตย์ 97,755 คน จากยอดเดิม 2,895,747 คน รองลงมาคือพรรคเพื่อไทย 9,705 คน จากยอดเดิม 134,748 คน, พรรคชาติพัฒนา 5,583 คน จากยอดเดิม 19,563 คน, พรรคชาติไทยพัฒนา 2,886 คน จากยอดเดิม 26,022 คน, พรรคความหวังใหม่ 2,168 คน จากยอดเดิม 13,295 คน และพรรคภูมิใจไทย 934 คน จากยอดเดิม 153,071 คน
อย่างไรก็ตาม ใน 46 พรรคที่ยืนยันสมาชิกพรรค ปรากฏว่ามี 5 พรรคที่เหลือแต่หัวหน้าพรรคเพียงคนเดียว และมีหนังสือแจ้งมาว่าไม่มีสมาชิกยืนยัน ประกอบด้วย พรรคเสรีนิยม, พรรคชาติประชาธิปไตยก้าวหน้า, พรรคประชาสันติ, พรรคพลังประชาธิปไตย และพรรคมาตุภูมิของ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตหัวหน้าคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) นอกจากนี้ยังมีอีก 23 พรรคที่ไม่รายงานการแจ้งยอดสมาชิกพรรคตามกำหนดเวลา ดังนั้นอาจมีผลให้ทั้ง 28 พรรคต้องสิ้นสภาพการเป็นพรรคการเมืองตามที่กฎหมายกำหนด
สำหรับพรรคมาตุภูมินั้น ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2551 มีชื่อเดิมว่าพรรคราษฎร และเริ่มมีบทบาททางการเมืองในช่วงปลายปี พ.ศ.2551 ภายหลัง ส.ส.กลุ่มวาดะห์ และกลุ่มปากน้ำของนายวัฒนา อัศวเหม ย้ายเข้ามาสมัครเป็นสมาชิกพรรค จากนั้นได้เชิญ พล.อ.สนธิเป็นประธานพรรค และรับตำแหน่งหัวหน้าพรรคในเวลาต่อมา ทั้งนี้ เมื่อต้นเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา พล.อ.สนธิประกาศหยุดกิจกรรมทางการเมืองของพรรคชั่วคราว
ทางด้านนายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ แกนนำกลุ่มรวมพลังประชาชาติไทย เปิดเผยว่า เตรียมลาออกจากตำแหน่งประธานคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง ประธานคณะกรรมการพัฒนาพรรคการเมืองตามรัฐธรรมนูญของ กกต. และกรรมการที่ปรึกษาในคณะเตรียมการสร้างความปรองดองและสามัคคีของ ปยป. เพื่อไปทำงานด้านการเมืองเต็มตัว ในนามของพรรครวมพลังประชาชาติไทย เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย สำหรับตำแหน่งหัวหน้าพรรค ใครทาบทามจะไม่รับ เว้นแต่สมาชิกประชุมใหญ่แล้วมีมติเลือกให้เป็นหัวหน้าพรรค แต่ถ้าไม่เลือกให้ดำรงแหน่งนี้ ก็พร้อมทำงานในตำแหน่งอื่นอย่างเต็มที่
นายเอนกยังกล่าวถึงการประชุมของพรรคในวันที่ 3 มิ.ย. ที่มหาวิทยาลัยรังสิต ว่าเป็นการประชุมสมาชิก 250 คน เพื่อเปิดตัวพรรคและนำเสนอเรื่องอุดมการณ์ของพรรค แต่ยังไม่ใช่การประชุมผู้ก่อตั้งพรรคเพื่อเลือกหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรค ซึ่งจะมีขึ้นในอีก 3 เดือนข้างหน้า ทั้งนี้ แนวทางของพรรคไม่ได้เน้นที่อดีต ส.ส. แต่จะเน้นให้โอกาสคนไม่เคยทำงานการเมืองมาทำงานการเมือง โดยในบัญชีปาร์ตี้ลิสต์ ผู้หญิงจะเข้ามามีบทบาทมากขึ้น รวมถึงคนไทยภูเขา ลูกครึ่ง คนพิการ อย่างไรก็ตาม นายสุเทพ เทือกสุบรรณ จะเป็นแค่สมาชิกพรรค ไม่รับตำแหน่งใดๆ ในพรรค และไม่รับตำแหน่งทางการเมือง ไม่ได้มาแอบรอเป็นรัฐมนตรี แต่มาช่วยพรรคมากกว่า ส่วนตัวอยากเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนการเมืองของพรรค
เมื่อถามว่า แสดงว่าเตรียมจะเป็นฝ่ายค้านใช่หรือไม่ นายเอนกกล่าวว่า เราตั้งพรรคไม่ได้คิดเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาล จะเป็นพรรคดีๆ พรรคหนึ่ง และหัวหน้าและเลขาธิการพรรคจะมีวาระ 2 ปีเท่านั้น จึงไม่ใช่ว่าใครจะสถาปนาได้ ส่วนการสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นนายกฯ คนนอกนั้น เป็นเรื่องของกรรมการบริหารพรรคต้องตอบ ตนตอบไปจะเป็นการอุปโลกน์
นายปิยบุตร แสงกนกกุล ว่าที่เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กว่า อุดมการณ์ แนวคิดพื้นฐาน อัตลักษณ์ แก่นแกน ของพรรคอนาคตใหม่ มีดังต่อไปนี้ 1.เสรีภาพ เสมอภาค ภราดรภาพ 2. ประชาธิปไตย 3.ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิมนุษยชน 4.ความเสมอภาคทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม 5.การกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น อำนาจในการตัดสินใจของคนในพื้นที่ 6.เคารพความหลากหลายทางเพศ ทางวัฒนธรรม เชื้อชาติ ศาสนา ความเชื่อ 7.ระบบเศรษฐกิจเสรี การแข่งขันอย่างเสรีและเป็นธรรม ปราศจากการผูกขาด 8.การพัฒนาอย่างยั่งยืนโดยคำนึงถึงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 9.การสร้างระบบสวัสดิการ และการสร้างโอกาสให้แก่มนุษย์ในการดำรงชีวิตอย่างมีศักดิ์ศรีและมีคุณภาพตั้งแต่เกิดจนตาย 10.สากลนิยม ความเป็นไทยที่สามารถดำรงอยู่ได้ในกระแสสากล ไม่ปฏิเสธสากล
11.เชื่อมั่นว่ามนุษย์มีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งที่ดีกว่า มนุษย์มีสิทธิในการใฝ่ฝันถึงสังคมที่ดีกว่า และมนุษย์มีความชอบธรรมสูงสุดในการกำหนดอนาคตของตนเองและสังคม 12.เชื่อมั่นในความเป็นไปได้ โลกใหม่ สังคมใหม่ และการเมืองแบบใหม่ เป็นไปได้เสมอ และ 13.ประชาชนเป็นผู้ทรงอำนาจสูงสุด การใช้อำนาจรัฐต้องสัมพันธ์ยึดโยงกับประชาชน ในอดีตที่ผ่านมา เราไม่อาจแบ่งแยกเฉดความคิดของพรรคการเมืองในประเทศไทยได้เท่าไรนัก เราไม่อาจจำแนกได้ว่าเอกลักษณ์หรือคุณสมบัติของแต่ละพรรคเป็นอย่างไร พรรคอนาคตใหม่ต้องการให้การเมืองไทยสามารถจำแนกเฉดความคิดของแต่ละพรรคได้ และสมาชิกพรรคต้องยึดมั่นหลักการพื้นฐานในเรื่องเหล่านี้ตรงกัน จึงได้นำความคิดเหล่านี้ไปร่างในข้อบังคับพรรค นำเสนอในที่ประชุม และได้รับความเห็นชอบเมื่อวันที่ 27 พ.ค.ที่ผ่านมา นับแต่นี้ นี่คือ identity ของพรรคอนาคตใหม่.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |