มาเลเซียเริ่มล็อกดาวน์เต็มรูปแบบ เวียดนามวอนเอกชนจัดหาวัคซีนเอง


เพิ่มเพื่อน    

มาเลเซียเริ่มการล็อกดาวน์ทั่วประเทศแล้วตั้งแต่วันอังคารเป็นเวลา 14 วัน ขณะผู้นำฟิลิปปินส์สั่งขยายมาตรการคุมไวรัสในเมืองหลวงและปริมณฑลออกไปถึงกลางเดือน เวียดนามหวังเป็นฐานการผลิตวัคซีนสนับสนุนโคแวกซ์ พร้อมเร่งโครงการฉีดวัคซีนโดยขอให้บริษัทเอกชนหาซื้อวัคซีนกันเองเพื่อฉีดให้ลูกจ้าง

ชาวฟิลิปปินส์รอฉีดวัคซีนโคโรนาแวคของซิโนแวคไบโอเทค ที่โรงภาพยนตร์ซึ่งเปลี่ยนเป็นศูนย์ฉีดวัคซีนที่เขตเมโทรมะนิลา เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2564 (Photo by Ezra Acayan/Getty Images)

    หลายประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังต้องดิ้นรนรับมือกับการระบาดของโควิด-19 โดยวันอังคารที่ 1 มิถุนายน 2564 มาเลเซีย ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่การระบาดรุนแรงโดยมีผู้เสียชีวิตแล้วเกือบ 2,800 คน จากผู้ติดเชื้อมากกว่า 570,000 คน เริ่มบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศแล้ว สัปดาห์ที่ผ่านมาประเทศที่มีประชากร 32 ล้านคนแห่งนี้มีจำนวนผู้ติดเชื้อมากเป็นสถิติสูงสุดของประเทศ  

    นอกจากการพบเชื้อไวรัสโควิดกลายพันธุ์สายพันธุ์ใหม่ที่ทำให้การแพร่เชื้อเพิ่มขึ้นโดยมีผู้เสียชีวิตในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาคิดเป็น 40% ของยอดรวมทั้งหมดแล้ว การรวมตัวของประชาชนระหว่างเดือนถือศีลอดรอมฎอนและเทศกาลตรุษอีดิ้ลฟิตรี ที่มักไม่คำนึงถึงการเว้นระยะห่างทางสังคม ยังเป็นสาเหตุที่ทำให้เชื้อกระจายมากขึ้น

    เอเอฟพีรายงานว่า ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์เต็มรูปแบบที่เริ่มมีผลเมื่อวันอังคาร มีเพียงธุรกิจที่จำเป็น เช่น ซูเปอร์มาร์เก็ตและคลินิกแพทย์ ที่สามารถเปิดบริการได้ ประชาชนจะได้รับอนุญาตให้ออกนอกบ้านได้เฉพาะกิจกรรมที่จำเป็น และโรงเรียนส่วนใหญ่ปิด ส่วนการเดินทางข้ามพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศนั้นถูกห้ามก่อนหน้านี้หลายเดือนแล้ว

    การล็อกดาวน์ของมาเลเซียรอบนี้น่าจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจจำนวนมากที่ต้องดิ้นรนมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ลิเลียน ฉั่ว เจ้าของร้านตัดผมนอกกรุงกัวลาลัมเปอร์ที่ต้องปิดกิจการช่วงล็อกดาวน์ กล่าวว่า ผลกระทบต่อธุรกิจขนาดเล็กอย่างเธอเป็นหายนะ รัฐบาลใช้มาตรการล็อกดาวน์ แต่ไวรัสอยู่ในอากาศ พวกเขาต้องเร่งฉีดวัคซีนให้มากขึ้น

    เพิ่งมีประชากรไม่ถึง 6% ของมาเลเซียที่ได้รับวัคซีนอย่างน้อย 1 โดส อย่างไรก็ดี จำนวนนี้ยังมากกว่าของเวียดนามที่ฉีดวัคซีนไม่ถึง 1% ของประชากร 97 ล้านคน

    เมื่อวันจันทร์ ทางการเวียดนามประกาศระงับเที่ยวบินโดยสารขาเข้าประเทศชั่วคราวที่สนามบินบางแห่ง เริ่มตั้งแต่วันอังคารจนถึงเที่ยงคืนของวันที่ 7 มิถุนายน และใช้มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมในโฮจิมินห์ซิตี

    สื่อของทางการเวียดนามรายงานด้วยว่า ทางการกำลังร้องขอให้บริษัทเอกชนจัดหาวัคซีนกันเองเพื่อฉีดให้พนักงานและลูกจ้างของตน โดยมีรายงานว่ารัฐมนตรีสาธารณสุขประชุมกับบริษัทซัมซุงและแอลจีของเกาหลีใต้ รวมไปถึงสถานทูตและหอการค้าของหลายประเทศ เพื่อหารือเกี่ยวกับการจัดหาวัคซีน

    กระทรวงสาธารณสุขเวียดนามแถลงเมื่อวันอังคารด้วยว่า เวียดนามกำลังพยายามจัดซื้อเทคโนโลยีการผลิตวัคซีนโควิด-19 และต้องการสร้างโรงงานผลิตวัคซีนเพื่อสนับสนุนโครงการโคแวกซ์

    "เวียดนามจะสร้างโรงงาน และต้องการได้สิทธิบัตรเพื่อที่จะสามารถจัดหาวัคซีนให้โคแวกซ์, ให้ประเทศอื่นๆ รวมถึงให้เวียดนามเอง" คำแถลงของกระทรวงที่มีออกมาภายหลังการประชุมกับตัวแทนของโคแวกซ์เมื่อคืนวันจันทร์

    ถึงขณะนี้ เวียดนามเพิ่งได้รับวัคซีนเพียง 2.9 ล้านโดส โดย 2.6 ล้านโดสได้ผ่านโคแวกซ์ เหงียน ทัญ ลอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า เวียดนามหวังว่าโครงการโคแวกซ์จะเร่งจัดหาวัคซีนให้เวียดนาม และหวังอีกว่าองค์กรระหว่างประเทศและประเทศอื่นๆ จะช่วยให้เวียดนามได้เข้าถึงวัคซีน

    กระทรวงสาธารณสุขเวียดนามเพิ่งประกาศเมื่อวันก่อนว่าตรวจพบไวรัสโควิดกลายพันธุ์ลูกผสมระหว่างสายพันธุ์ที่พบครั้งแรกในอินเดียและอังกฤษ ที่ทำให้ไวรัสแพร่กระจายในอากาศได้เร็วขึ้น ถึงเช้าวันอังคารเวียดนามมีผู้ติดเชื้อสะสมแล้ว 7,432 คน เสียชีวิต 47 คน โดยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 111 คน

    ด้านฟิลิปปินส์ เมื่อคืนวันจันทร์ ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตร์เต สั่งขยายเวลามาตรการควบคุมไวรัสในเขตกรุงมะนิลาที่มีประชากรรวมกันไม่ต่ำกว่า 13 ล้านคน และจังหวัดปริมณฑล ออกไปจนถึงวันที่ 15 มิถุนายน เขายังขยายคำสั่งห้ามเที่ยวบินขาเข้าจากอินเดีย, ปากีสถาน, ศรีลังกา, บังกลาเทศ, เนปาล, โอมาน และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ออกไปถึงกลางเดือนนี้ด้วย

    มาตรการของฟิลิปปินส์จำกัดการรวมตัวทางศาสนาไม่เกิน 30% ของความจุของสถานที่, ภัตตาคารร้านอาหารรับลูกค้าในร้านได้ 20% และห้ามการเดินทางที่ไม่จำเป็น

    ฟิลิปปินส์มีผู้ติดเชื้อไวรัสรายใหม่เฉลี่ยวันละประมาณ 6,300 คนในเดือนพฤษภาคม ลดลง 1 ใน 3 จากของเดือนเมษายน หลังจากรัฐบาลสั่งลดศักยภาพการดำเนินธุรกิจและจำกัดการเดินทางของประชาชน

    จำนวนผู้ติดเชื้อของฟิลิปปินส์มีมากเป็นอันดับ 2 ของภูมิภาคนี้ที่ 1.23 ล้านคน เสียชีวิต 21,012 คน น้อยกว่าอินโดนีเซียที่มีผู้ติดเชื้อ 1.82 ล้านคน เสียชีวิต 50,723 คน.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"