1 มิ.ย.64 - ที่ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้รับมอบหมายจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้ตอบคำถามจากสื่อมวลชนกรณีนายกฯมองท่าทีพรรคร่วมรัฐบาลที่ไม่พอใจกับการจัดสรรงบประมาณของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ว่า ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ได้มีการพูดถึงเรื่องงบประมาณในส่วนของ สธ. เรื่องดังกล่าวพล.อ.ประยุทธ์ได้ชี้แจงว่า หัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลจะได้มีการพูดคุยกับสมาชิกพรรคของตัวเองในรายละเอียดเพิ่มเติม ซึ่งในที่ประชุม ครม. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ได้ชี้แจงว่าอาจจะเกิดการเข้าใจผิดกันในเรื่องการจัดสรรงบฯ เพราะนอกเหนือจากงบประมาณในรายกระทรวงแล้ว ในส่วนของ สธ. ยังมีงบประมาณอื่นๆ ทั้งที่เป็นงบกลางและงบที่นำมาใช้จากกรอบวงเงินกู้ ซึ่งเมื่อนำมาบวกกันแล้วจะเห็นได้ว่ารัฐบาลให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาโควิด
โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า งบประมาณในส่วนของสธ.มีอยู่ทั้งสิ้นประมาณ 153,900 กว่าล้านบาทก็จริง แต่ยังมีในส่วนของงบประมานที่ตั้งไว้ที่กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และมีงบประมาณที่ตั้งไว้ที่กองทุนการแพทย์ฉุกเฉินอีก เพราะฉะนั้นเมื่อรวมกันแล้วก็จะมีวงเงินในส่วนของงบปกติตั้งไว้ถึง 293,000 กว่าล้านบาท แต่ไม่ได้มีการพูดถึง มีการพูดถึงเฉพาะงบที่ สธ.ได้รับจึงอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดขึ้นมาได้ ตัวอย่างเช่นงบที่มาจากงบกลางล่าสุดที่ได้มีการอนุมัติไป 311 ล้านบาท เพื่อให้เป็นค่าใช้จ่ายในการป้องกันโควิด-19 ในเรือนจำและทัณฑสถานทั่วประเทศ ส่วนนี้ก็เป็นงบประมาณที่มาจากกรอบวงเงินรายจ่ายประจำปีที่เป็นงบกลาง เป็นรายการค่าใช้จ่ายเพื่อบรรเทาแก้ไขปัญหาเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19
นอกจากนี้งบกลางยังมีอีกหลายส่วนที่ดำเนินการไปแล้ว อาทิ รัฐบาลได้จัดให้มีสถานกักกันโรคที่รัฐจัดให้กับประชาชนที่ต้องกักตัว 14 วัน ที่ผ่านมา ครม. ได้ใช้งบกลางในการดูแล โดยประชาชนไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ หรือแม้กระทั่งการจัดหาวัคซีน จำนวนหลาย 10 ล้านโด๊ส ก็ใช้เงินจากงบกลางทั้งสิ้น หากไปดูตัวเลขของสธ.อย่างเดียว ก็จะไม่สามารถเห็นตัวเลขที่รัฐบาลใช้ในการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ ต้องนำงบประมาณในส่วนอื่นๆ ทั้งงบจากเงินกู้ งบจากส่วนกลางมาบวกรวม ทั้งการคัดกรองผู้ติดเชื้อ การจัดหารถโมบายในการตรวจคัดกรองต่างๆ ทั้งหมดมาจากงบเงินกู้ทั้งสิ้น
เมื่อถามว่าจะแก้ปัญหาและดูแลพรรคร่วมรัฐบาลอย่างไร หลังเกิดความระหองระแหงขึ้น นายอนุชา กล่าวว่า เรื่องดังกล่าว พล.อ.ประยุทธ์ ยืนยันว่าไม่ได้มีความระหองระแหงในพรรคร่วมรัฐบาลอะไรทั้งสิ้น ในการประชุมครม.ก็ได้มีการพูดคุยกันด้วยดีทุกอย่าง ทุกพรรคการเมืองที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลก็ได้มีการชี้แจงว่าจะพูดคุยกับสมาชิกของพรรคตัวเอง เพื่อให้เกิดความเข้าใจในรายละเอียดเพิ่มเติม โดยนายอนุทินได้บอกว่าในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร หลังจากที่สมาชิกได้อภิปรายในบางส่วนแล้ว ก็จะลุกขึ้นชี้แจงด้วยตัวเองถึงงบประมาณของ สธ.ที่ได้รับอย่างเหมาะสม โดยนายกฯได้กรุณาจัดสรรงบประมาณทั้งในส่วนของงบกลาง งบเงินกู้เพิ่มเติมให้กับกระทรวงสาธารณสุขด้วย ยืนยันว่าการทำงานของรัฐบาลในปัจจุบันไม่มีปัญหาใดๆทั้งสิ้น ยังทำงานด้วยความพยายามที่จะทำทุกสิ่งทุกอย่างให้ประชาชนมีความชัดเจนในทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการจัดการฉีดวัคซีน การจัดหาวัคซีนทั้งวัคซีนหลักและวัคซีนทางเลือก รัฐบาลจะดำเนินการทุกอย่างเพื่อให้การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทุเลาลงให้ได้มากที่สุด
นายอนุชา กล่าวด้วยว่า ส่วนเรื่องการเยียวยาต่างๆนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณา โดยเฉพาะเงิน 5 แสนล้าน จาก พ.ร.ก.เงินกู้ ก็จะมีการนำเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร ก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับความร่วมมือที่ดีจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกคน โดยแผนงานทั้งหมดมีอย่างชัดเจนว่าจะใช้เงินจำนวน 5 แสนล้านบาทอย่างไร จะนำไปใช้ในกรอบอย่างไรบ้าง ซึ่งทั้งหมดเกี่ยวข้องกับกระทรวงสาธารณสุขทั้งสิ้น ทั้งการจัดหาเวชภัณฑ์ การจัดหาอุปกรณ์ต่างๆในการดูแลผู้ป่วย การจัดหาวัคซีน การเยียวยาในอนาคตให้กับประชาชนและการฟื้นฟูเศรษฐกิจ
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |