สำนวนคดี'เมจิก สกิน'ถึงมืออัยการ-นัดสั่งคดี 8 มิ.ย.นี้


เพิ่มเพื่อน    

1 มิ.ย.61 - ที่สำนักงานอัยการคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.รัชดาภิเษก พนักงานสอบสวน กก.4บก.ป. นำตัว น.ส.ตรีชฎา ใจสบาย เจ้าของผลิตภัณฑ์ตรีชฎา และ น.ส.ปาจรีย์ วงศ์สมบูรณ์ เจ้าของบริษัทฮานิวโคเรีย จำกัด ผู้ต้องหาร่วมคดีเมจิกสกิน พร้อมสำนวนการสอบสวน 2 ลัง พยานเอกสารหลักฐาน 6,932 แผ่น พร้อมความเห็นสมควรฟ้องผู้ต้องหารวม 6 ราย มาส่งมอบให้นายยงยุทธ สิทธิธัญกิจ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร

โดยภายหลังรับสำนวนจากพนักงานสอบสวนแล้ว ในเวลา 16.00 น. นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด แถลงว่า สำนวนคดีนี้ มีเอกสารรวมทั้งสิ้น 14 แฟ้ม 6,932 แผ่น ซึ่งมีนายธีรพล ผลจันทร์ กับพวกผู้เสียหายรวม 145 คน มูลค่าความเสียหาย 113 ล้านบาทเศษ โดยกล่าวหาผู้ต้องหาทั้งหมดนี้ คือ บริษัท เมจิกสกิน จำกัด โดยนายกร พวงสน ผู้ต้องหาที่ 1, นายกร พวงสน อายุ 37 ปี ในฐานะส่วนตัว ผู้ต้องหาที่ 2, นางวรรณภา พวงสน อายุ 34 ปี (ภรรยาของนายกร) ผู้ต้องหาที่ 3, น.ส.ตรีชฎา หรือส้ม ใจสบาย อายุ 35 ปี ผู้ต้องหาที่ 4, บริษัท ฮานิวโคเรีย จำกัด ผู้ต้องหาที่ 5 และ น.ส.ปาจรีย์ วงศ์สมบูรณ์ อายุ 33 ปี ในฐานะส่วนตัว ผู้ต้องหาที่ 6 ตามความผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343,  พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560, พ.ร.บ.เครื่องสำอาง พ.ศ.2558 โดยผู้ต้องหาที่ 1-4 ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ข้อมูลที่บิดเบือน หรือข้อมูลที่เป็นเท็จทำให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน, ผลิตเพื่อจำหน่ายเครื่องสำอางปลอม รับจ้างผลิตเครื่องสำอางปลอม 

ส่วนผู้ต้องหาที่ 5-6 แจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันรับจ้างผลิตเครื่องสำอางโดยไม่แจ้งรายละเอียดเครื่องสำอางตามที่จดแจ้ง, เป็นผู้รับจ้างผลิตฉลากที่มีข้อมูลซึ่งอาจก่อให้เกิดการเข้าใจผิดในสาระสำคัญที่เกี่ยวกับเครื่องสำอาง และรับจ้างผลิตเครื่องสำอางปลอม 

นายประยุทธ กล่าวอีกว่า ส่วนนายกรและนางวรรณภา ผู้ต้องหาที่ 2-3 ซึ่งขณะนี้อยู่ในชั้นฝากขังที่ฝากขังได้ 4 ผลัด (รวม 48 วัน) ตัวถือว่าอยู่ในอำนาจศาล ก็จะครบกำหนดฝากขังครั้งสุดท้ายในวันที่ 9 มิ.ย.นี้ วันนี้จึงมีเพียงผู้ต้องหาที่ 4, 6 มาพบอัยการ โดยอัยการกำหนดนัดสั่งคดีนี้ในวันที่ 8 มิ.ย.นี้ ซึ่งให้ผู้ต้องหามารายงานตัวเพื่อทราบคำสั่งว่าจะฟ้องหรือไม่ฟ้อง ตั้งแต่ช่วงเช้าเวลา 09.00 น. เป็นต้นไป โดยในส่วนการพิจารณาสำนวนมาอธิบดีอัยการสำนักงานคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร ก็จะตั้งคณะทำงานอัยการขึ้นมาดูแล 

ด้านนายยงยุทธ สิทธิธัญกิจ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร กล่าวว่า ยืนยันไม่หนักใจในการทำคดีจะดูตามพยานหลักฐาน ซึ่งคดีที่เกี่ยวข้องกับเครื่องสำอางและอาหารมีผลกระทบต่อประชาชน เราก็จะใช้ความระมัดระวังในการตรวจสำนวนเต็มที่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับความผิดตาม พ.ร.บ.เครื่องสำอาง พ.ศ.2558 มาตรา 27 (2) และ มาตรา 29 (1) มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท, ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343, 341 จำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 10,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ และข้อหานำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนฯ ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 มาตรา 14 (1) จำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"