รัฐบาลเวียดนามประกาศแผนการตรวจโควิด-19 ประชากรโฮจิมินห์ซิตีทั้งเมือง 9 ล้านคน และเริ่มบังคับใช้มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดนาน 15 วันตั้งแต่วันจันทร์เป็นต้นไป หลังจากพบผู้ติดเชื้อไวรัสเพิ่มมากขึ้นในเมืองใหญ่สุดของประเทศแห่งนี้

    รายงานเอพีและบีบีซีเมื่อวันจันทร์ที่ 31 พฤษภาคมกล่าวว่า ตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมฉบับใหม่ที่รัฐบาลเวียดนามประกาศนั้น เริ่มตั้งแต่วันจันทร์ ประชาชนในนครโฮจิมินห์ซิตีจะได้รับอนุญาตให้ออกจากบ้านเพื่อทำกิจธุระจำเป็นเท่านั้น ร้านค้าและภัตตาคารร้านอาหารต้องปิด กิจกรรมทางศาสนาถูกระงับ และห้ามประชาชนรวมตัวกันเกิน 10 คน

    รายงานของหนังสือพิมพ์เวียดนามนิวส์ของทางการ กล่าวว่า ทางการโฮจิมินห์ซิตีกำลังเตรียมแผนทดสอบเชื้อไวรัสกับประชากรทั้งเมืองที่มีราว 9 ล้านคน โดยเมืองมีศักยภาพตรวจเชื้อได้วันละ 100,000 คน

    เมืองใหญ่สุดของเวียดนามแห่งนี้กลายเป็นศูนย์รวมการแพร่ระบาดล่าสุดของประเทศ โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่โบสถ์คริสเตียนนิกายโปรเตสแตนท์ที่พบว่ามีผู้ติดเชื้อไวรัสเกี่ยวโยงกับพิธีทางศาสนาที่นี่อย่างน้อย 125 คน เป็นกลุ่มใหญ่ที่สุดจากผู้ติดเชื้ออย่างน้อย 145 คนในเมืองนี้ อำเภอก่อเวิ่ปที่ตั้งของโบสถ์แห่งนี้ถูกล็อกดาวน์แล้ว

    รายงานของเวียดนามนิวส์บอกด้วยว่า ตำรวจได้ยื่นฟ้องร้องคู่สามีภรรยาที่เป็นผู้นำมิชชันแห่งนี้แล้วเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ฐานแพร่กระจายโรคติดเชื้ออันตราย เนื่องจากจัดกิจกรรมโดยไม่ได้รักษาความปลอดภัยอย่างเพียงพอ สมาชิกของที่นี่ซึ่งตำรวจกล่าวว่ามีชื่อลงทะเบียน 48 คน มารวมตัวกันในสถานที่แคบๆ เพื่อร้องเพลงและสวดมนต์โดยไม่ได้เว้นระยะห่างหรือสวมหน้ากากอนามัย

    นับแต่ปลายเดือนเมษายน ไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาดไปถึง 31 ชุมชนและจังหวัดของเวียดนาม หรือกว่า 4,000 คน เกินครึ่งหนึ่งของจำนวนผู้ติดเชื้อสะสม ซึ่งอยู่ที่ 7,236 รายในวันจันทร์ เสียชีวิต     47 ราย

    ผู้ป่วยบางคนในขณะนี้ติดเชื้อไวรัสพันธุ์ผสมระหว่างไวรัสกลายพันธุ์สายพันธุ์ที่พบครั้งแรกในอังกฤษและในอินเดีย รัฐมนตรีสาธารณสุข เหงียน ทัญ ลอง เผยเมื่อวันเสาร์ว่า ไวรัสลูกผสมนี้สามารถแพร่เชื้อได้ง่ายขึ้น และน่าจะเป็นต้นเหตุของการพบผู้ติดเชื้อจำนวนมากขึ้น

    ปัจจุบัน เวียดนามเพิ่งฉีดวัคซีนให้ประชากรแต่ 1 ล้านคนเศษ หรือราว 1% ที่ได้รับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าอย่างน้อย 1 โดส รัฐบาลยังได้ทำสัญญาจัดซื้อวัคซีนไฟเซอร์อีก 30 ล้านโดสมีกำหนดส่งมอบภายในปีนี้ และยังเจรจากับโมเดอร์นาเพื่อจัดซื้อเพิ่ม โดยตั้งเป้าหมายว่าจะฉีดวัคซีนให้ประชากร 80% ของ 96 ล้านคน.