'ประเสริฐ' จวกรัฐจัดงบปี 65 ไม่สะท้อนปัญหาประเทศ จี้นายกฯลาออกเหตุปชช.ไม่เชื่อมั่น


เพิ่มเพื่อน    

31 พ.ค.64 - เวลา 11.59 น. นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า วันนี้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส แต่รัฐบาลได้วางแผนจัดทำงบประมาณปี 65 ราวกับอยู่ในสถานการณ์ปกติ ผลสืบเนื่องจากพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม  ได้บริหารราชการแผ่นดินช่วงที่ผ่านมาถึงปัจจุบันใช้งบประมาณจำนวนมากการใช้งบจำนวนมากไม่สามารถแก้ไขปัญหาประเทศอย่างเป็นรูปธรรมได้ ยิ่งในสถานการณ์โควิด ที่จะต้องใช้งบอย่างประหยัดคุ้มค่า มีประสิทธิภาพ แต่กลับมองไม่เห็นฟังไม่ได้ยินความทุกข์ประชาชน  7 ปีที่ดำรงตำแหน่งนายกฯ มือไม่ถึงบริหารไม่เป็น การบอกจะคืนความสุขเป็นเพียงลมปาก สิ่งที่ทำมามีแต่ทุกข์เพิ่มหนี้เพิ่ม รายได้ลดลง หากปล่อยเช่นนี้เกรงว่าประเทศจะเดินทางไปสู่ความเสียหายในอนาคต

นายประเสริฐ กล่าวต่อว่า การใช้งบประมาณในรอบ 7 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ระบบราชการมีขนาดใหญ่เกินจำเป็น ใช้งบจำนวนมากในขณะที่ภาคประชาชนเล็กลงชัดเจน ทั้งเรื่องงบประมาณและอำนาจของประชาชน เมื่อดูงบประมาณรายจ่ายประจำในปี 65 ตั้งไว้ประมาณ 2.3 ล้านล้านบาท จากงบประมาณ 3.1 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 76.15 เปอร์เซ็นต์ ของงบประมาณที่ตั้งไว้ งบรายจ่ายเพื่อการลงทุนตั้งไว้สัดส่วน ร้อยละ 20 หรือประมาณ 644,000 ล้านบาท ซึ่งในยอดนี้งบส่วนหนึ่งอยู่ในกระทรวงกลาโหม เป็นการจัดซื้ออาวุธ ยุทธโรปกรณ์ รวมถึงเรื่องรัฐวิสาหกิจ ประกอบกิจการประสบปัญหาหลายแห่ง รัฐบาลไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ เช่น การบินไทย ที่ยังจำเป็นต้องอาศัยงบประมาณแก้ปัญหา เพราะเป็นการชี้ให้เห็นความล้มเหลวในกานบริหารงานของนายกฯ การแต่งตั้งผู้บริหารในรัฐวิสาหกิจต่างๆ 50 กว่าแห่ง เกือบทั้งหมดเป็นนายทหารที่เป็นพวกพ้องนายกฯ หลายคนเป็นตอบแทนบุญคุณเมื่อครั้งรัฐประหารเห็นว่ารัฐบาลไม่มีความสามารถใช้งบประมาณในการแก้ไขปัญหาประเทศ มติการบริหารราชการแผ่นดินและการทุจริตที่เกิดขึ้น สวาปามทั้งเรื่องหน้ากากอนามัย ถุงมือยาง ทั้งที่อยู่บนพื้นฐานความเดือดร้อนประชาชน มองประโยชน์ทางการเมืองมากกว่าประชาชน

นายประเสริฐ กล่าวว่า เมื่อหลักคิดนายกฯ เป็นเช่นนี้ตนมีข้อสังเกต ในเรื่องการจัดทำงบปี 65 ทั้งสิ้น 5 ประการ 1.การจัดทำงบไม่สะท้อนกับปัญหาประเทศ ยุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณ 6 ด้าน ไม่มียุทธศาสตร์ด้านโควิด ทั้งที่ประเทศไทยตอนนี้โควิดส่งผลกระทบด้านสังคมเศรษฐกิจ และภาคธุรกิจ สงครามวันนี้เรียกสงครามโควิด ควรให้ความสำคัญจัดสรรงบโควิดแต่รัฐบาลทำเหมือนสถานการณ์นี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ประเทศไม่ได้อยู่ในวิกฤต เมื่อการจัดสรรไม่ทะท้อนปัญหาประเทศ ความเจริญประเทศไปไม่ถึงไหน แต่ท่านกลับไม่ใช้กลไกงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจ การอัดฉีดเอสเอ็มอี แต่ละครั้งไปไม่ถึงประชาชน การว่างงานสูงขึ้น วันนี้เศรษฐกิจของเรากำลังดิ่งเหว 2.การไร้ประสิทธิภาพในการใช้เงิน ตลอด7 ปีที่ผ่านมา ใช้งบประมาณในการบริหารประเทศ 20.8 ล้านล้านบาท  และกำลังจะใช้ในปี 65 อีก 3.1 ล้านล้านบาท แต่ไม่สามารถทำเศรษฐกิจโตได้ ทำหนี้ครัวเรือนพุ่งสูงขึ้น

นายประเสริฐ กล่าวต่อว่า  3.ตัดงบประมาณที่สำคัญลงหลายจุด แต่งบกระทรวงกลาโหมกลับเพิ่มขึ้น เห็นได้ชัดจากกระทรวงสาธารณสุข ลดลง 4.3 พันล้านบาทเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 12 ปีส่งผลให้งบที่ใช้รักษาสุขภาพถ้วนหน้าลดลงไปด้วย การดำเนินการของศบค.เห็นถึงความล้มเหลวในการกระจายวัคซีน  แต่งบกระทรวงกลาโหม ในปี 64 งบได้รับร้อยละ 6.5 ของงบประมาณ และปี 65 ได้รับงบได้รับคิดเป็นร้อยละ 6.6 ของงบประมาณ ใช้จัดซื้อยุทธโรปกรณ์ 3 เหล่าทัพกว่า 8.2 พันล้านบาท ยังไม่รวบงบผูกพันข้ามปีอีกเช่น กองทัพเรือรวม 37,849 ล้านบาท ใช้ในการจัดซื้อเรือดำน้ำ

4.การกระจายงบไม่เป็นธรรมเอื้อประโยชน์พวกพ้อง เห็นได้จากการกระจายวัคซีนแบบไร้ยุทธศาสตร์ ประกาศเป็นวาระแห่งชาติเป็นเพียงวาทะกรรม ไม่เคยบอกว่ารายละเอียดจะดำเนินการอย่างไร สิ่งที่เกิดขึ้นการกระจายวัคซีนจังหวัดพื้นที่สีแดงไดรับการจัดสรรน้อยกว่าพื้นที่สีขาวหรือสีเขียว มีการเล่นพรรคเล่นพวกเป้นศึกชิงวัคซีน จะดูว่าการฉีดวัคซีน 7 มิ.ย.จะเป็นโรคเลื่อนหรือไม่ นายกฯ ในฐานะผอ.ศบค. ต้องแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกเพราะประชาชนไม่เชื่อมั่นการแก้ปัญหาในสถานการณ์วิกฤต รวบอำนาจบริหารคนเดียว เกิดศูนย์ญากาศ รัฐมนตรีต่างคนต่างทำและ5.การจักสรรงบประมาณไม่ให้ความสำคัญท้องถิ่น มีการลดงบประมาณ 15,988 ล้านบาทและการจัดสรรเงินเฉพาะกิจเป็นแบบใครมือยาวสาวได้สาวเอา

"สิ่งที่เกิดวันนี้คือวิกฤตศรัทธาในตัวนายกฯ ประชาชนขาดความเชื่อมั่นในการทำงาน มองไม่เห็นถ้าปล่อยบริหารเงินปี 65 จะพาประเทศพ้นวิกฤตอย่างไร และพาประเทศไปสู่ความเสี่ยงด้านวินัยการเงินการคลัง ทำให้คนสงสัยว่าวัคซีนที่เตรียมฉีดประชาชนยังไม่มั่นใจเรื่องคุณภาพเกิดความกลัว และวัคซีนทางเลือกมีหลายยี่ห้อกลับไม่ใส่ใจ การประกาศทุจริตแห่งชาติ จึงเป็นเพียงวาทกรรมที่สวยหรูอีกครั้ง ไม่มีแผนขั้นตอนว่าต่อไปนี้จะต้องใจทำอย่างไร ด้วยเหตุผลดังกล่าวจึงไม่สามารถรับหลักการงบประมาณปี 65" นายประเสริฐ กล่าว


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"