31 พ.ค.64 - นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ในฐานะแกนนำกลุ่มไทยไม่ทน กล่าวที่เวทีไทยไม่ทนออนไลน์ เมื่อวานนี้ว่า วันที่ 31 พ.ค. จะครบ 60 ปีการเสียชีวิตของครูครอง จันดาวงศ์ ซึ่งถูกประหารชีวิตที่สนามบินสว่างแดนดิน โดยได้เดินเข้าหลักประหารอย่างไม่สะทกสะท้าน พร้อมเปล่งเสียงเป็นอมตะวาจาว่า เผด็จการพินาศ ประชาธิปไตยจงเจริญ แล้วจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ สั่งยิงด้วยปืนกลถึง 90 นัด ร่างแหลกละเอียด เพื่อข่มขวัญนักต่อสู้เรียกร้องประชาธิปไตย
ขณะเดียวกัน และวันจันทร์นี้ คณะคนไทยไม่ทนฯ จะไปที่กองทัพไทยเวลาบ่ายโมง โดยจะยื่นหนังสือถึงผู้บัญชาการทหารสูงสุด พร้อมแนบฝากหนังสือถึงปลัดกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการกองทัพเรือ และอากาศ ให้ลาออกจากสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ไว้ให้ด้วย
อย่างรก็ตาม สิ่งที่คณะไทยไม่ทนฯ ไปยื่นหนังสือที่ผ่านมานั้น ต้องการไปปัดหมุดชี้ให้เห็นว่าระบอบประยุทธ์ มีอะไรบ้าง เพราะทั้งหมดนั้นไม่ได้อยู่ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา อย่างเดียว แต่ระบอบนี้มีองค์ประกอบจากผู้นำเหล่าทัพต่างๆ ซึ่งเป็นฝ่ายคุมครองบัลลังก์ของประยุทธ์ด้วย
นอกจากนี้ ในวันอังคาร จะไปปักหมุดปัญหาของประเทศ โดยไปที่ศาล รธน.และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อจะบอกว่าปัญหาของชาติได้วางองค์ประกอบของบุคคลไว้ใน รธน.อย่างไร และต้นเหตุวิกฤตทำให้ชาติย่อยยับถึงขณะนี้นั้นมาจากองค์กรไหนบ้าง
ส่วนวันพุธ ไปสนามบินน้ำ ยื่นหนังสือถึงคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) และในวันพฤหัสจะยื่นหนังสือให้พรรคฝ่ายค้านและผู้นำพรรคฝ่ายค้าน เพื่อต้องการจะบอกว่า ภายใต้สถานการณ์ระบอบประยุทธ์นั้น ถ้าไม่สามารถหยุด พรก.เงินกู้ และหยุดงบประมาณรายจต่ายประจำปีที่ไม่สอดคล้องกับสถานการณืโควิดได้ แล้วจะอยู่ไปทำไม
อีกอย่าง เมื่อ พรก.เงินกู้ไม่ผ่านสภาแล้ว นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ขู่จะยุบสภา ดังนั้น หากพรรคการเมืองไม่มีความกลัวในอำนาจแล้ว ฝ่ายค้านพร้อมประกาศไม่หวั่นไหว ตลอดจนภายใต้ระบอบประยุทธ์ ซึ่งเป็นยิ่งกว่าเผด็จการรัฐสภา เพราะเป็นเผด็จการทั้งองคาพยพที่หนักกว่าสภา มีองค์กรอิสระไว้ทำตามใบสั่งเบ็ดเสร็จ และไม่มีวันแก้ไขอะไรได้เลย
“ดังนั้น การเป็นไม้ประดับทางการเมือง ทำให้ประเทศชาติ ประชาชนไม่ได้ประโยชน์อะไร เนื่องจากประเทศชาติไม่มีวันแก้ไขอะไรได้ ถ้าไม่มีคนจริงคนกล้า เสียสละจากการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่ได้เพียงมองตากันปริบๆ ได้แค่พูด ได้ระบาย แล้วจบกันไป เสียงข้างมากลากไป ไม่คำนึงถึงความถูกต้อง ถ้าทั้งระบบไม่เสียสละกันจริงแล้วจะต่อสู้กันไม่ได้ เราก็จะยื่นเงื่อนไขนี้ให้พรรคฝ่ายค้านเช่นเดียวกัน เพื่อจะบอกให้รีเซ็ตบ้านเมืองนี้ให้นับหนึ่งกันใหม่”
นายจตุพร กล่าวว่า ในวันศุกร์จะไปยื่นหนังสือถึงนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ผู้กำหนดชะตากรรม รธน. 2560 ที่วางระเบิดทางการเมืองไว้ โดยเฉพาะการแก้ รธน.ได้ยาก ขณะมีปัญหา ศาล รธน.ยังต้องมาถามนายมีชัย ในปัญหาการแก้ไข รธน. แล้วการแก้ รธน.ก็ล้มลงอย่างไม่เป็นท่า
อย่างไรก็ตาม นายมีชัย ต้องรู้ว่าวันนี้ชาติบ้านเมืองได้ย่อยยับอับจน เพราะทุกกลไกที่วางไว้ในการสืบทอดอำนาจนั้น ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้เลย
ส่วนกรณีจัดหาวัคซีนเป็นเรื่องเล็ก ถ้ารัฐบาลเอาประชาชนเป็นตัวตั้งวัคซีนคงเต็มประเทศแล้ว แต่ความคิดที่ไม่เข้าท่า และน่าสงสัยถึงผลประโยชน์ ทำให้การจัดการเป็นปัญหาหมด จนทำให้รัฐบาลไม่มีศักยภาพในการบริหารจัดการเรื่องวีคซีน
กรณีราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์นั้น เป็นทางผ่านให้องค์กรรัฐเพื่อนำวัคซีนฟรีไปถึงประชาชน เพราะเอาเงินรัฐขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมาสั่งซื้อแล้วห้ามขายต่อ แต่ทั้งหมดมีระเบียบหยุมหยิม เมื่อประยุทธ์รวบอำนาจมาทั้งหมด ถ้าเป็นปัญหาระดับกระทรวง ก็แก้กฎกระทรวง เป็นปัญหาทางกฎหมายก็ใช้ พรก. มาจัดการได้
“เราจึงไปปักหมุดไว้ที่ต้นตอทั้งหมด เพราะองค์กรเหล่านี้เป็นปัญหา มีที่มาหลังการรัฐประหาร และต้นทางมาจากประยุทธ์ทั้งหมด ดังนั้น ทั้ง ปปช., กกต.และศาล รธน.ล้วนเป็นปัญหา แล้วบิดาของปัญหาทั้งหมดคือนายมีชัย ฤชุพันธุ์ รวมทั้งนายวิษณุ โดยทั้งหมดทำให้ประเทศไทยถูกแช่แข็งจาก รธน.”
นายจตุพร กล่าวว่า ภายใต้สถานการณ์โควิดนี้ คณะสามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทย จะไปชี้ถึงปัญหาของระบอบประยุทธ์ จากนั้นในสัปดาห์ถัดไปจะเป็นเรื่องของทุนผูกขาดทั้งหลายที่ทำตัวอย่างน่าเกลียด สามารถคุมทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้าน แล้วประชาชนจะอยู่ตรงไหน
พร้อมทั้ง กล่าวว่า ทุนผูกขาดนี้จะมีอำนาจอย่างเบ็ดเสร็จ เติบโตอย่างพิศดาร เข้าข่ายต่างชาติให้การสนับสนุนภายใต้การเอื้อของผู้มีอำนาจในยุคนี้ เรื่องนี้ไม่มีวันที่เราจะปล่อย ถ้าบ้านเมืองมีกลุ่มทุนใหญ่กว่ารัฐมนตรี ใหญ่กว่ารัฐบาล บ้านเมืองนี้เราฝากความหวังไม่ได้ เมื่อทุนเหล่านี้ควบคุมประเทศได้จากพลังงานไปถึงคมนาคม และต่อไปก็จะครองประเทศ ท้ายสุดก็ดูแลพรรคการเมืองได้หมด ผูกขาดสัมปทาน เอาผลประโยชน์จากคนไทย ยโสโอหังใหญ่คับบ้านคับเมือง
“ถ้าไม่จัดการทุนผูกขาดแล้ว ระบอบประยุทธ์ก็ยังอยู่ต่อไป พวกเราจะฉายให้เห็นภารกิจต่อไป และพวกเราคิดอ่านกันว่า ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนเลย ถ้าจำเป็นต้องสวมหน้ากากชุมนุมก็ต้องทำ เราหวังว่า ประชาชนจะมีความตื่นตัวและมีความรู้สึกกันเร็วขึ้น”
ถึงที่สุด วันนี้เรามาถึงการสามัคคีประชาชน เราเปิดประตูหน้าต่างทุกบาน ได้ประสานคนสามรุ่นคือ ผู้สูงอายุ กลางคน และคนรุ่นใหม่อย่างงดงามมากที่สุด ดังนั้น ภารกิจ 9 วันที่ผ่านมานี้ ปิดฉากด้วยความสมบูรณ์ และเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงจะบังเกิดขึ้นด้วยน้ำมือของประชาชน
นายจตุพร กล่าวว่า แม้มีการพยายามฉายภาพว่า การต่อสู้ไล่ประยุทธ์ออกไปเป็นเรื่องยาก แต่ในประวัติศาสตร์ทางการเมืองแล้ว การต่อสู้ทุกเรื่อง ยากทั้งสิ้น จะสำเร็จหรือไม่สำเร็จ อยู่ที่ความแตกต่างอย่างเดียวคือ เราจะสู้ด้วยหัวใจที่จริงพอหรือไม่ ตนไม่เชื่อว่าคนมีอำนาจผลประโยชน์ มีทรัพย์สินมากมายจะใจถึงเดิมพันถึงขั้นไม่มีแผ่นดินจะอยู่กัน
เราหวังเพียงประชาชนจะมีความหวัง มีความศรัทธาว่ าอำนาจเป็นของประชาชน เราจะไม่ยอมให้ทุนผูกขาด หรือยินยอมให้ผู้มีอำนาจอย่างประยุทธ์และองค์กรต่างๆได้ยึดครองประเทศนี้ต่อไป เพราะบ้านเมืองกำลังเดินไปถึงทางตันเบ็ดเสร็จ
“จึงอยากให้ประชาชนก้าวข้ามทุกอุปสรรคให้ได้ แล้วมองปัญหาไปที่ประยุทธ์และระบอบประยุทธ์ แล้วเราร่วมมือกัน เพื่อเดินไปปสู่เส้นชัย ผมเชื่อพลังประชาชนทุกภาคส่วนจะนำพาสู่การเปลี่ยนแปลงประเทศได้”
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |