"ศ.ดร.นิธิ มหานนท์" เลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ นี่
จะว่าไปแล้ว
มีหลายอย่างต้องชม แต่วันนี้ ขอชมอย่างเดียว!
ชมว่า "ท่านเร็วมาก" ใน "สงครามข่าว"
สังเกตเห็นชัด พลันที่ราชกิจจานุเบกษาประกาศให้ "ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์" จัดหา "วัคซีนทางเลือก" จะสั่งซื้อวัคซีน "ซิโนฟาร์ม" งวดแรก ๑ ล้านโดส
"ขบวนการปลุกปั่น" ปล่อยเฟกนิวส์ทำลายล้างในคืนนั้นทันที ตามโพสต์ "นายดวงฤทธิ์" นั่นแหละ
แต่เรียกว่า.....
ควันกระสุนยังไม่ทันจางปากกระบอกปืนเฟกนิวส์ คุณหมอนิธิก็ สวนควันปืน...เปรี้ยง ด้วย Iron Dome!
คนเสพข่าวส่วนหนึ่งที่เชื่อ อีกส่วนกึ่งเชื่อ-ไม่เชื่อ พลันร้อง อ๋อ.."๒๐ ล้านโดส" ตามโพสต์ดวงฤทธิ์ ที่แท้มันก็คือ
"ซิโนฟาร์มทิพย์" ตามสันดานนั่นเอง!
วันรุ่งขึ้น ๒๗ พ.ค. ท่านแถลงรายละเอียดราชวิทยาลัยฯ ช่วยรัฐจัดหาวัคซีน อธิบายเสร็จสรรพ ว่าเป็นวัคซีนทางเลือก
อีกนั่นแหละ....
ไอ้พวกเลาะตะเข็บ มันฉวยคำว่า "วัคซีนทางเลือก" ไปปั่น "เฟกนิวส์" ต่อทันที
"ราชวิทยาลัยฯ ใช้เงินหลวงซื้อมาขายค้ากำไร"!
อย่างเช่นนางคนนี้ ปั่นทวีต
pannika Wanich
สำหรับผู้สงสัยว่า#ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ที่บอกว่าเอารายได้ตัวเองไปซื้อ#ซิโนฟาร์ม
ตกลงหน่วยงานนี้ ได้รับงบจากภาษีประชาชนหรือไม่ คำตอบคือ ได้ค่ะ ได้ปีนี้ 5,700 ล้านบาท ปีที่แล้ว 7,700 ล้านบาทค่ะ ดูรายละเอียดที่
แล้วนำแผ่นหน้าเอกสาร พ.ร.บ.งบประมาณ ปี ๖๕ ของราชวิทยาลัยฯ ลงประกอบ เพื่อให้ดูสมจริง
ทวีตนี้ โผล่ปุ๊บ...
ไม่รอให้นักข่าวไปรุมถามจนกลายเป็นจำเลยแก้ข้อกล่าวหาในวันรุ่งขึ้น คุณหมอนิธิยิง Iron Dome ไปสยบในคืนนั้นปั๊บเลย
Nithi Mahanonda
ต้องขอโทษที่แถลงข่าวพูดเร็วเกินไปมีคนคิดเลขไม่ทันเข้าใจไปว่า #ราชวิทยาลัยฯ จะหากำไรจากวัคซีนตัวเลือก…..ขอเรียนว่าไม่เป็นความจริง และสรุปสั้นๆ ดังนี้ครับ
ถ้าทุนที่ซื้อวัคซีนมา = X, ค่าขนส่ง = Y, ค่าเก็บรักษา = Z, ค่าประกัน = V ราชวิทยาลัยจะจัดให้ องค์ภาครัฐ องค์กรภาคเอกชนที่ต้องการนำไปฉีดให้กับบุคลากรภายในที่มีชื่อตัวตนระบุชัดเจนในราคา X+Y+Z+V เท่านั้น
ไม่มีการบวกเพิ่มแม้แต่บาทเดียว
และยังมีข้อกำหนดว่า ทุกแห่งจะไปขายให้บุคลากรหรือคนอื่นต่อไม่ได้เป็นอันขาด
แต่ท่านจะไปจ้างสถานพยาบาลใดๆ ฉีดให้
สถานพยาบาลนั้นๆ จะไปคิดค่าบริการอื่นใดเป็นข้อตกลงระหว่างสถานพยาบาลและองค์กรที่รับวัคซีนจากราชวิทยาลัยไป
ดังนั้น ประชาชนที่องค์กรนั้นๆ จะดูแล จะได้รับบริการฉีดวัคซีน “ฟรี” ครับ……
อันนี้เป็นการแบ่งเบาภาระงบประมาณและการกระจายการฉีดวัคซีนให้ประเทศร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข
แต่ประชาชน "เป็นคนๆ"
อาจจะไม่สามารถรับวัคซีน “ทางเลือก” นี้ได้
อย่างไรก็ดี คิวของท่านในวัคซีน “หลัก” ของประเทศจะได้เร็วขึ้น (ผมหวังว่าจะเป็นเช่นนั้นนะครับ)
นอกจากนี้ ถ้าเป็นบริษัทเอกชนราชวิทยาลัยมีข้อกำหนดว่า ท่านต้องซื้อวัคซีนเพิ่มอีก "ร้อยละสิบ"
เพื่อ "บริจาคให้รัฐ" นำไปฉีดให้กับประชาชนที่ด้อยโอกาสและไม่ได้อยู่กับองค์กรใดๆ เช่นผู้ค้าขายอิสระบนทางเท้าหรือในตลาด
#ใครทำอะไรได้ก็ช่วยกัน
#ฉีดวัคซีนทุกครั้งสังคมไทยได้ประโยชน์
#คิดถึงคนที่ด้อยโอกาสด้วย
นิธิ มหานนท์ 29 พ.ค. 64
นี่คือตัวอย่างอันเป็น "แบบอย่าง" ของคนในสังคมโลกไอที ที่เข้าใจการ "สื่อสาร ๒ ทาง" ยุคปัจจุบัน
ทั้งสามารถใช้เครื่องมือสื่อสารควบคุมได้ทั้่งฝ่ายปล่อยข่าวและฝ่ายรับข่าว ขณะเดียวกัน เป็นการ "รุก" ไปในตัวด้วย
ความหมายคือ ในสงครามข่าวสาร......
การเป็นฝ่าย "คุมเกม" มีโอกาสบุกและชนะมากกว่า "ฝ่ายตั้งรับ" ที่ทำได้แค่ยันเกม รอแพ้อย่างเดียว!
ในประเด็นที่ pannika Wanich โพสต์
คนพอมีพื้นฐานทางคิด จะรู้ทันที ว่านังคนนี้ นำข้อมูลมาบิดเบือนโพสต์ตามสันดานอีกแล้ว
หยิบเฉพาะตัวเลข "ยอดรวม" งบประจำปี มามั่วให้คนไม่รู้ หลงเข้าใจตามว่า ราชวิทยาลัยฯ เอาเงินงบไปซื้อวัคซีนมาขาย
บัดซบมั้ย?
ทำไมไม่ไปดูในรายละเอียดล่ะว่า ในงบ ๕ พัน ๗ พันล้านนั้น เขาแจงไว้ ว่านำไปใช้จ่ายด้านไหนบ้าง แล้วมันมีมั้่ย ที่บอกว่า จะนำไปซื้อวัคซีนน่ะ?
ผู้ใช้นามว่า "ฟ้าโง่กับส้มเน่า" เขาคงเวทนา โพสต์ต่อท้ายเฟกนิวส์ของเธอไว้อย่างนี้
"ในรายละเอียดงบส่วนใหญ่ เป็นค่าก่อสร้าง รพ.ขนาด 400 เตียง กับค่าจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์
และบางส่วนใช้เพื่อผลิตบุคลากรทางการแพทย์ปีละเกือบ 400 คน
#และไม่มีตรงไหนเลยที่เขียนไว้ว่า เป็นงบสำหรับการจัดซื้อวัคซีน
ซึ่งเมื่อราชวิทยาลัยฯ จะจัดหาวัคซีนทางเลือกมาให้ ปชช.ก็ต้องขายสิ จะแจกฟรีได้ยังไง
ประเด็นคือ ช่อมันจะให้คนเข้าใจว่าราชวิทยาลัยฯ ได้งบประมาณจากภาษีมาจัดซื้อวัคซีน แต่ดันเอามาขาย ซึ่งเป็นการบิดเบือนให้คนเข้าใจผิด
#ชั่วไม่เปลี่ยนเลยนะคะอีช่อ
ถ้ายัง "ไม่เข้าใจ" ก็ดูเพิ่มเติม ที่ Chokchai Ong เขาโพสต์สรุปเป็นวิทยาทาน "เพื่อเธอ"
Chokchai Ong
สรุปปัญหาคาใจ ซิโนฟาร์ม
-ใช้เงินจากไหนซื้อวัคซีนซิโนฟาร์ม?
นำรายได้จากการให้บริการสุขภาพของการประกอบการสถานพยาบาล รพ.จุฬาภรณ์ไปจัดซื้อ
-นำเงินอุดหนุนจากรัฐบาลไปจัดซื้อหรือไม่?
ไม่มีการนำงบประมาณที่ใช้อุดหนุนจากรัฐบาลไปซื้อวัคซีน เนื่องจาก.....
ก่อนได้รับเงินจากรัฐต้องมีการทำโครงการเพื่อของบประมาณผ่านรัฐสภา เพื่อเสนอเป็น พ.ร.บ.งบประมาณประจำปี
ดังนั้น "เงินภาษีประชาชน" จะนำไปใช้นอกเหนือจากโครงการที่ราชวิทยาลัยฯ ของบประมาณจากรัฐไม่ได้
ก็ดูกันต่อไป....
ว่าหมดประเด็นนี้แล้ว พวกขบวนการบ่อนทำลาย มันจะปั้่นประเด็นไหนมาปั่นต่ออีก?
แต่เรื่องวัคซีน "๑ ล้านโดส" ยังไงก็ไม่พอแน่
คงต้อง ๒๐ ล้านโดสเป็นเบื้องต้น จึงจะพอตอบสนองหน่วยงาน/องค์กร ที่ต้องการไปฉีดให้คนในองค์กรของเขา
เพราะดูแล้ว วัคซีนที่รัฐจัดหา มานั้น..มาแน่ แต่เวลาไม่แน่นอน และไม่ต่อเนื่อง เพราะมันแย่งกันทั้งโลก
สยามไบโอฯ เป็นแค่โรงงานรับจ้าง "บ.แอสตร้า เซนเนก้า" ผลิต ดังนั้น จะได้ช้า-ได้เร็ว ขึ้นอยู่กับบริษัท ไม่ได้อยู่ที่โรงงาน
จนกว่าโรงงานผลิตส่งเขาครบตามสัญญาแล้วเท่านั้น จากนั้น จึงจะผลิตใช้ได้เองในประเทศ มากเท่าที่ต้องการ
ฉะนั้น ระยะ ๑-๒ เดือนนี้ วัคซีนทางเลือก จะช่วยผ่อนทางรัฐบาลได้มาก
ทั้งจะทำให้ประชาชน "รายบุคคล" ทั่วไป มีโอกาสได้ฉีดจากรัฐทั่วถึงเร็วขึ้น เพราะตัวหารลดลง
ส่วนทางด้าน pannika Wanich นั้น อย่าไปให้ความสำคัญเลย เห็นใจเธอเถอะ
ลำพังเรื่องโครงการ "เงินเมย์เดย์" แจกคนละสามพันของเธอ ที่ไปฟ้องคุณบุญเกื้อ ปุสสเทโว นั้่น
เป็นโจทก์แท้ๆ แต่ไหงกลายเป็น "แหพันตัวโจทก์" นุงนังอย่างนั้นล่ะ?
ฉะนั้น ไปแก้ตัวเรื่อง "งบเมย์เดย์" ให้จบก่อนเหอะ
แล้วค่อยมาสะเออะเรื่องงบวัคซีน!
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |