‘รบ.-ฝ่ายค้าน’ตีปี๊บถกงบ65


เพิ่มเพื่อน    

 "ชวน" ตรวจห้องสุริยันรับถกงบ 65 จัดโพเดียมทำแผ่นอะคริลิกใสขนาดใหญ่ล้อมคอก แยกเฉพาะให้ ส.ส.พ่นน้ำลายสกัดโควิดแพร่ในห้องประชุม นายกฯ-ครม. พร้อมแจงร่าง พ.ร.บ.งบฯระบุเป็นโอกาสดีจะได้สร้างการรับรู้ "ปชป." ยก 5 แนวทางพิจารณางบฯ มีมติเห็นชอบล่วงหน้าเพื่อให้รัฐบาลเดินไปได้ "เสกสกล" มั่นใจผ่านฉลุย "เพื่อไทย" วาง 55 ขุนพลชำแหละซัดจัดงบแบบศรีธนญชัยซับซ้อนซ่อนเงื่อนหลอกลวงประชาชน ย้ำคว่ำตั้งแต่วาระแรก  

    ที่รัฐสภา วันที่ 30 พฤษภาคม นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้วางพวงมาลาถวายราชสักการะพระรูปต้นแบบพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว  เนื่องในวันที่ระลึกพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยมีตัวแทนวุฒิสภา อาทิ พล.อ.สิงห์ศึก สิงห์ไพร รองประธานวุฒิสภา คนที่ 1, นายศุภชัย สมเจริญ รองประธานวุฒิสภา คนที่ 2, ตัวแทนพรรคการเมือง รวมถึงสถาบันพระปกเกล้า เข้าร่วม
    ภายหลังเสร็จพิธี นายชวนได้ไปตรวจความพร้อมของห้องประชุมสุริยัน เพื่อเตรียมความพร้อมในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ  พ.ศ.2565 โดยเฉพาะมาตรการสาธารณสุขในการคุมเข้มโควิด-19 เนื่องจากจะมีผู้เข้าร่วมประชุม อาทิ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม คณะรัฐมนตรี (ครม.) ส.ส. รวมไปถึงผู้เข้ามาร่วมในการชี้แจงจากหน่วยงานต่างๆ อาทิ กระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ และกระทรวงอื่นๆ เป็นต้น
    ภายในห้องประชุม บริเวณที่นั่งของนายกรัฐมนตรีและ ครม. มีการจัดที่นั่งแบบเว้นระยะห่าง หากนายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรีต้องการชี้แจงเมื่อถูกพาดพิง และสามารถพูดโดยใส่หน้ากากได้ ก็ขอให้ยืนพูดบริเวณที่นั่งของตัวเอง แต่ถ้าไม่สะดวกสวมหน้ากากพูดในเวลานานได้ ทางสภาได้เตรียมแผ่นอะคริลิกใสเป็นฉากกั้น แยกเฉพาะไว้ให้นายกรัฐมนตรีและ ครม.เข้ามาชี้แจง ส่วน ส.ส.ที่ประสงค์จะอภิปรายโดยไม่สวมหน้ากาก ก็มีการจัดโพเดียมไว้หน้าบัลลังก์ มีแผ่นอะคริลิกใสขนาดใหญ่ล้อมรอบ ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าของที่ประชุมเตรียมไว้ให้ด้วย และเมื่อ ส.ส.แต่ละคนอภิปรายจบ ก็จะมีการทำความสะอาดไมโครโฟนและโพเดียมที่พูดทุกครั้งด้วย
    นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า? พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม พร้อมชี้แจงรายละเอียดถึงการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 ในการประชุมสภาเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบฯ 2565 ในวาระที่ 1 ในช่วงวันจันทร์ที่ 31 พ.ค.-2 มิ.ย.2564 นี้
    นายกฯ ได้กำชับ ครม.ในการประชุมครม.ครั้งที่ผ่านมาเมื่อต้นสัปดาห์นี้ว่า การประชุมสภาฯ ในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการชี้แจงให้ ส.ส.ทราบถึง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ในรายละเอียดแล้ว ยังถือเป็นโอกาสดีที่รัฐบาลจะสร้างการรับรู้และสร้างความเข้าใจให้กับประชาชน เพื่อได้รับทราบถึงการจัดทำงบประมาณในครั้งนี้ด้วย และย้ำให้รัฐมนตรีแต่ละกระทรวงเข้าร่วมประชุมสภาฯ เพื่อชี้แจงข้อสงสัยของ ส.ส. และสื่อสารให้ประชาชนได้รับทราบไปในคราวเดียวกัน
    สำหรับวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 มีจำนวนทั้งสิ้น 3.1 ล้านล้านบาท ประกอบด้วยรายจ่ายประจำ จำนวน 2,360,543 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 76.15 ของวงเงินงบประมาณสำหรับรายจ่ายลง ทุนมีจำนวนทั้งสิ้น 624,399.9 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 20.14 ของวงเงินงบประมาณ ซึ่งน้อยกว่าวงเงินส่วนที่ขาดดุลที่มีจำนวน 7 แสนล้านบาท อย่างไรก็ตาม การที่งบประมาณรายจ่ายลงทุนมีจำนวนน้อยกว่าวงเงินส่วนที่ขาดดุลของงบประมาณประจำปี  ไม่เป็นปัญหาในการจัดงบประมาณในครั้งนี้แต่อย่างใด เนื่องจากรัฐบาลสามารถเพิ่มแหล่งเงินลงทุนของประเทศในช่องทางอื่นนอกเหนือจากงบประมาณรายจ่าย
ปชป.ยก5แนวทางถกงบฯ65
    นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) รองนายกฯและ รมว.พาณิชย์ กล่าวถึงการพิจารณาพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคมจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติม วงเงินไม่เกิน 5 แสนล้านบาท (พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท) ว่า เชื่อว่าทั้ง พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้าน และ พ.ร.บ.งบฯ 65 จะผ่านการพิจารณาของสภาได้ และไม่คิดว่าจะมีปัญหาอะไร ส่วนการที่ฝ่ายค้านแสดงความไม่เห็นด้วยนั้น ก็ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา ถ้าบอกว่าฝ่ายค้านเห็นด้วยก็อาจจะเป็นเรื่องแปลก แต่ไม่ว่าฝ่ายไหนจะตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่ง ก็ต่างต้องไปอธิบายเหตุผลกับประชาชนด้วยกันทั้งสองฝ่าย เพราะประชาชนก็ตรวจสอบทั้ง 2 ฝ่าย ไม่ได้ตรวจสอบเฉพาะฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ได้
    นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค และประธาน ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบฯ 65 ว่า ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ ได้เตรียมความพร้อมที่จะอภิปรายให้ความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณามีแนวทาง ดังนี้ 1.การจัดทำงบประมาณเป็นไปเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศตามยุทธศาสตร์ชาติ แผนการปฏิรูปประเทศ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และนโยบายสำคัญของรัฐบาลหรือไม่ 2.ได้คำนึงถึงสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจสังคมของประเทศในปัจจุบัน โดยเฉพาะผลกระทบจากสถานการณ์โควิด 3.มีการกระจายงบประมาณเพื่อก่อให้เกิดการบูรณาการในทุกมิติ ทั้งมิติกระทรวงหน่วยงาน มิติบูรณาการเชิงพื้นที่ให้มีความเชื่อมโยงสอดคล้อง 4.มีการให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างศักยภาพทางการคลังของท้องถิ่น การถ่ายโอนภารกิจการจัดบริการสาธารณะระดับท้องถิ่นแก่ประชาชนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้นหรือไม่ 5.มีการให้ความสำคัญกับกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนและความต้องการของประชาชนทั้งในระดับชาติ ระดับพื้นที่ ภาคกลุ่มจังหวัด จังหวัด ท้องถิ่น หรือไม่
    นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรค ปชป. และรองประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า พรรค ปชป.ได้มีการประชุมเรียบร้อยแล้ว โดยมีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.งบฯ 65 ให้ตั้งคณะกรรมาธิการ 6 คน มีคนอภิปรายทั้งหมด 15 คน ซึ่งได้มีการแบ่งกลุ่มการอภิปรายเป็นกลุ่ม เอ บี ซี เป็นต้น กฎหมายนี้เป็นร่าง พ.ร.บ.ที่สำคัญแล้วได้มีการคุยพรรคแล้วโดยหลักการเป็น ส.ส.ต้องให้ความเห็นชอบเพื่อที่จะให้รัฐบาลใช้ในการบริหารราชการแผ่นดินต่อไป แต่มีบ้างประเด็นที่จะอภิปรายเพื่อเป็นข้อเสนอแนะให้กับรัฐบาลเช่นด้วยกันปกติฝ่ายค้านก็จะมีมติอยู่ 2 อย่าง ไม่งดออกเสียงก็ไม่เห็นด้วย ซึ่งเป็นเรื่องปกติ เพราะร่างพ.ร.บ.งบฯ 65 เป็นร่างการเงินที่เสนอโดยรัฐบาล เมื่อมีงบประมาณที่จำกัดก็ไม่สามารถที่จะไปจัดให้ได้ตามความต้องการของฝ่ายค้าน แต่ละคนจะมีมุมมองที่เห็นความจำเป็นที่แตกต่างกันไป ฝ่ายค้านย่อมมีความคิดเห็นของฝ่ายค้าน ในส่วนของหลักการรัฐบาลก็ต้องเป็นผู้อธิบาย
    ขณะที่นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงน.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ประกาศพรรคจะไม่โหวตรับ พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท รวมถึงนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส. มหาสารคาม รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ขอพรรคร่วมฝ่ายค้านยกมือไม่รับหลักการว่า ไม่แปลกใจอยู่แล้วที่พรรคฝ่ายค้านจะออกมาประกาศค้านในเรื่องนี้ เพราะเป็นฝ่ายค้านจะต้องค้านทุกเรื่องอยู่แล้ว แม้จะเป็นเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมืองต่อประเทศชาติประชาชน ก็จะปิดหูปิดตาค้านทุกเรื่อง โดยไม่ยึดโยงผลประโยชน์ของประเทศและประชาชนเป็นหลัก ยังมั่นใจว่าเสียงในพรรคร่วมรัฐบาลยังมั่นคง มีเสถียรภาพ รัฐมนตรีในพรรคร่วมรัฐบาลยังทำงานด้วยกันได้เป็นอย่างดีและมีผลงานชัดเจนมากมาย อีกทั้งไม่มีความขัดแย้งใดๆ ทั้งสิ้น
    นายเสกสกลกล่าวว่า การชี้แจงของนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ที่บอกว่าหาก พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านไม่ผ่านนายกฯ อาจจะต้องยุบสภานั้น เป็นการพูดถึงในหลักการ ไม่ได้พูดเพื่อที่จะข่มขู่ใครทั้งนั้น ส่วนการเรียกร้องให้นายกฯ ลา ออก ก็คงเป็นความหวังอย่างเลื่อนลอยของพรรคร่วมฝ่ายค้านที่ต้องการเช่นนั้น แต่ยังไม่มีเหตุผลอะไรที่นายกฯ จะต้องลาออก เพราะคิดว่าจำนวนเสียงสนับสนุนของพรรคร่วมรัฐบาลในสภามีเพียงพออย่างแน่นอน ซึ่งความหวังของพรรคฝ่ายค้านน่าจะเป็นไปได้แค่ฝันค้างกลางวัน
ซัดจัดงบแบบศรีธนญชัย
    ด้านนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในการประชุมสภาเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2565 วาระ 1 พรรคเพื่อไทย เตรียม ส.ส. 55 คน ในการชำแหละงบประมาณปี 2565 เน้นการจัดงบ ประมาณที่ไม่เหมาะสมในสภาวะโควิด- 19 ที่ควรจะเน้นด้านสาธารณสุข การแก้ปัญหาเศรษฐกิจ แต่กลับเน้นจัดงบให้ทางกองทัพมากมาย รวมถึงจัดซื้อเรือดำน้ำอีก 2 ลำจากจีน พรรคเพื่อไทยมีมติไม่รับหลักการ พ.ร.บ.งบประมาณฯ 65 เพราะจัดมาไม่ถูกที่ถูกทาง ไม่เหมาะสม ไม่เกิดประโยชน์กับประเทศชาติและประชาชน
    น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เศรษฐกิจของประเทศกำลังวิกฤติ จำเป็นต้องใช้การลงทุนภาครัฐเข้ามากระตุ้น แต่ในภาวะเช่นนี้การลงทุนควรเป็นการลงทุนในโครงการที่ก่อให้เกิดรายได้ หรือมีผลประโยชน์ตอบแทนทางเศรษฐกิจเป็นหลัก พอไปดูในรายละเอียดแล้ว ยังพบว่ามีงบลงทุนที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์เป็นจำนวนมาก เช่น งบการจัดซื้อครุภัณฑ์จากต่างประเทศในหลายกระทรวง ทั้งเครื่องจักรกล ยานพาหนะ ตลอดจนเฮลิคอปเตอร์ ซึ่งเหล่านี้เป็นงบประมาณที่รอได้ไม่ จำเป็นต้องเร่งดำเนินการในวิกฤติเช่นนี้ ฝ่ายค้านจะนำข้อมูลเหล่านี้มาอภิปรายงบส่วนไหนที่ถือว่าฟุ่มเฟือยและเกินจำเป็นรอการจัดสรรได้ ต้องตัดทิ้งทั้งหมด เพราะควรใช้งบประมาณในภาวะวิกฤติแบบนี้เพื่อการแก้วิกฤติ และต้องก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศมากที่สุด
    นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จากการประชุมของพรรคเพื่อไทย พบว่าการจัดทำงบประมาณปีนี้ทำแบบศรีธนญชัย ซับซ้อนซ่อนเงื่อน หลอกลวงประชาชนที่รู้ไม่ทัน โดยเฉพาะใช้เงื่อนไขและช่องว่างทางกฎหมายที่พรรคพวกของตัวเองได้ทำไว้เมื่อปี 61-62 ในช่วง สนช. เช่น พ.ร.บ.หนี้สาธารณะ, พ.ร.บ.ระเบียบวินัยการเงินการคลัง เน้นไปที่การเปิดช่องว่างในการกู้ดูได้จากการจัดทำงบประมาณปีนี้ ส่งผลไปในทางไทยจุก ไทยเจ๊ง ไทยไม่มีเจ๊า เนื่องจากเป็นการตั้งงบขาดดุลอย่างน่าตกใจ การตั้งงบประมาณขาดดุลนั้นสามารถทำได้ แต่ที่น่าตกใจคือปีนี้แม้จะตั้งงบขาดดุลแล้ว ก็ยังไม่เพียงพอต่อส่วนต่าง งบประมาณกับรายได้ที่คาดการณ์ว่าจะมีช่องว่างมากกว่างบขาดดุลที่ตั้งไว้ แล้วไปซ่อนไว้ใน พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท ซึ่ง พ.ร.ก.ตัวนี้ใช้แท็กติกในการกู้
    "ส่วนการจัดสรรงบประมาณรายกระทรวง พบว่าไม่มีอะไรแตกต่างไปจากปี 2563-2564 ทำให้เห็นว่าถ้าปีนี้ประชาชนรู้สึกว่าหนักแค่ไหนปลายปีนี้และปีหน้าก็ให้คูณไปอีก 10 เท่า พรรคฝ่ายค้านจึงไม่สามารถไว้วางใจให้ผ่านงบประมาณไปได้ เนื่องจากหากผ่านไปจะเป็นปัญหาให้ประชาชนทั้งประเทศ พรรคเพื่อไทยจึงมีมติไม่การคว่ำร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวตั้งแต่วาระหนึ่ง และจากพูดคุยกับ พรรคอื่นก็มีความเห็นทิศทางเดียวกัน" นายจิรายุกล่าว
    นายแสนยากรณ์ สิงห์วีรธรรม รองโฆษกพรรคกล้า กล่าวว่า การกำหนดงบฯปี 65 หลายอย่างไม่สอดรับกับสถานการณ์ เช่น งบประมาณรายจ่ายจำแนกตามวัตถุประสงค์การป้องกันประเทศ 199,820.7 ล้านบาท พบว่าเป็นงบประมาณงานกองทัพสูงถึง 198,597.2 ล้านบาท งบประมาณส่วนใหญ่เสียไปกับงบประจำ และการดูแลบุคลากรมากเกินไปหรือไม่ สะท้อนถึงระบบราชการล้าหลัง จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องชี้แจงเรื่องนี้
    นายอนุสรณ์ ธรรมใจ อดีตกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลัง และอดีตคณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ ม.รังสิต กล่าวว่า รัฐบาลต้องจัดสรรงบประมาณปี 65 เพื่อดูแลเศรษฐกิจเพิ่มเติม โดยงบปี 65 มีการจ่ายคืนเงินกู้เพิ่มขึ้น 3.01% ซึ่งไม่จำเป็น ควรนำเงินไปเพิ่มให้กับกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงการคลังให้เพียงพอต่อการรับมือปัญหาต่างๆ.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"