30 พ.ค.64 - นายอนุสรณ์ ธรรมใจ อดีตกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลัง กล่าวว่า งบประมาณปี 2565 ที่พิจารณากันอยู่นั้นไม่เพียงพอต่อการบริหารประเทศและรับมือกับผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมอยู่แล้ว เป็นการจัดสรรงบในวงเงิน 3.1 ล้านล้านบาทซึ่งลดลงจากงบประมาณปี 2564 1.85 แสนล้านบาทหรือลดลง 5.6% เป็นการจัดงบประมาณที่ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์วิกฤตการณ์ การขาดดุลงบประมาณที่ระดับ 7 แสนล้านบาทส่วนหนึ่งเป็นผลจากการไม่สามารถขยายฐานภาษีทรัพย์สินได้ ทั้งที่การจัดเก็บภาษีทรัพย์สินไม่มีผลกระทบทางลบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจแต่อย่างใด การไม่พยายามเก็บภาษีทรัพย์สินจะทำให้ความเหลื่อมล้ำในสังคมไทยเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆจนยากจะเยียวยาได้
นายอนุสรณ์ ระบุว่า นอกจากนี้งบรายจ่ายเพื่อการลงทุนก็ปรับลดลง 3.84% และเวลานี้ไม่ใช่เวลาที่ควรจะเพิ่มการชำระคืนเงินกู้ โดยงบปี 65 มีการจ่ายคืนเงินกู้เพิ่มขึ้น 3.01% ซึ่งไม่จำเป็น ควรนำเงินไปเพิ่มให้กับกระทรวงสาธารณสุข และ กระทรวงการคลังให้เพียงพอต่อการรับมือปัญหาต่างๆ ส่วนงบลงทุนที่จัดสรรลดลงอาจแก้ไขโดยใช้ กลไก PPP เอกชนร่วมลงทุนในกิจการภาครัฐ (แต่อาจต้องเป็นเอกชนรายใหญ่ที่ยังมีความพร้อมทางการเงินอยู่) หรือ ผ่านกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน
นายอนุสรณ์ ระบุอีกว่า การปรับลดเงินสมทบของนายจ้างและลูกจ้างในกองทุนประกันสังคมเพื่อบรรเทาภาระทางการเงินในช่วงวิกฤติโรคระบาดจะก่อให้เกิดปัญหาต่อฐานะทางการเงินของกองทุนประกันสังคมในระยะยาว ซึ่งรัฐบาลต้องจัดสรรงบประมาณอุดหนุนเพิ่มเติม นอกจากนี้สวัสดิการสังคมบางอย่างได้ถูกปรับลดลง ควรจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมเพื่อเร่งรัดนำเข้าวัคซีนไฟเซอร์ฉีดให้เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ป้องกันการติดเชื้อก่อนเปิดภาคเรียน ก่อนที่โรงเรียนจะกลายเป็นคลัสเตอร์ใหม่ในการแพร่กระจายเชื้อโรคระบาดไวรัสโควิด.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |