30 พ.ค.64- น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายพ.ศ.2565 วงเงิน 3.1 ล้านล้านบาทว่า รัฐบาลประเมินว่าจะสามารถจัดหารายได้ไว้ที่ 2.4 ล้านล้านบาท ทำให้ต้องตั้งงบขาดดุลและกู้ชดเชยไว้ที่ 7 แสนล้านบาท งบที่ต้องกู้มาตรงนี้ส่วนใหญ่เป็นงบลงทุน ซึ่งเราเข้าใจว่า เศรษฐกิจของประเทศกำลังวิกฤติจำเป็นต้องใช้การลงทุนภาครัฐเข้ามากระตุ้น แต่ในภาวะเช่นนี้การลงทุนควรเป็นการลงทุนในโครงการที่ก่อให้เกิดรายได้ หรือมีผลประโยชน์ตอบแทนทางเศรษฐกิจเป็นหลัก พอไปดูในรายละเอียดแล้ว ยังพบว่ามีงบลงทุนที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์เป็นจำนวนมาก เช่น งบการจัดซื้อครุภัณฑ์จากต่างประเทศในหลายกระทรวง ทั้งเครื่องจักรกล ยานพาหนะ ตลอดจน เฮลิคอปเตอร์ ซึ่งเหล่านี้เป็นงบประมาณที่รอได้ไม่จำเป็นต้องเร่งดำเนินการในวิกฤติเช่นนี้
นอกจากนี้ในงบประจำของหน่วยงานที่อ้างว่าเป็นเงินเดือนและสวัสดิการที่ตัดไม่ได้ พบว่ามีการแอบนำโครงการที่ต้องใช้งบลงทุนมาแอบซ่อนเอาไว้ เช่น การเช่าระบบไอที การจ้างเอกชนรับช่วงดำเนินภารกิจ การเช่ายานพาหนะต่างๆ หากจัดหาแบบตรงไปตรงมาคงไม่ผ่านการพิจารณา จึงต้องมาหลบไว้ในหมวดอื่นๆ ซึ่งลูกน้องในกระทรวงทำมาแบบนี้ ไม่รู้ว่าเจ้ากระทรวงสมรู้ร่วมคิดด้วยหรือเปล่า ในการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณ ในวาระ 1และ 2 ฝ่ายค้านจะนำข้อมูลเหล่านี้มาอภิปราย งบส่วนไหนที่ถือว่าฟุ่มเฟือย และเกินจำเป็นรอการจัดสรรได้ ต้องตัดทิ้งทั้งหมด เพราะรัฐบาลควรใช้งบประมาณในภาวะวิกฤติแบบนี้เพื่อการแก้วิกฤติ และต้องก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศมากที่สุด
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |