จงอยู่-เย็น-เป็น-สุขเถิด


เพิ่มเพื่อน    

 

                                                                         (1)

ฮื่ออ์อ์อ์...นี่ก็ยังไม่ทันได้ฉีด แต่ก็ดันมี ผลข้างเคียง ขึ้นมาซะแล้ว!!! สำหรับ วัคซีน ที่จะชื่ออะไร ของใคร ใครผลิต ใครจำหน่าย ใครแจกจ่าย บริจาค-ไม่บริจาค ก็ไม่อยากจะจำ เพราะออกจะเป็นอะไรที่น่า บวดหัว ซะเหลือเกิน รู้แต่ว่าคนแก่ คนชรา อย่าง อันตัวข้าพเจ้าเอง คงมีโอกาสได้ฉีดประมาณกลางๆ มิถุนา.โน่นเลย ใกล้ๆ หรือตามหลัง ป๋าเปลว สีเงิน เขาคงไม่นานซักเท่าไหร่...

                                                                                (2)

            แต่ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ฉีดนี่แหละ...กลับเกิดอาการปากแห้ง ลิ้นแห้ง อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร ฯลฯ แถมยังเบื่ออะไรที่ขวางหู ขวางตา รกหู รกตา คล้ายๆ กับเกิด ผลข้างเคียง แม้ว่าจะไม่ถึงขั้น เนื้อตัวเป็นผื่นๆ ก็เถอะ อันเนื่องมาจากเพียงแค่ได้ฟังเรื่องราวเกี่ยวกับ วัคซีน ทั้งหลาย ไม่ว่าจากภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ภาคโซเชียลมีเดีย ฯลฯ ทั้งหลาย ที่ถูกนำมาพูดจา ว่ากล่าว ชนิดเล่นเอา มึนซ์ซ์ซ์กับมึนซ์ซ์ซ์ อย่างมิอาจปฏิเสธและหลีกเลี่ยงได้ คือไม่รู้ว่ามันจะเอาไง-มาไง-ไปไง ยิ่งนับวันยิ่งออกอาการ มั่ว หนักยิ่งขึ้นเรื่อยๆ โดยมักต้องลงท้ายด้วยการด่าโน่น ด่านี่ ต่อใครและอะไรก็ตาม ที่ไม่เป็นไปตามความปรารถนาและต้องการของ ตัวกู-ของกู นั่นแหละเป็นหลัก...

                                                                                   (3)

            แล้วก็ไม่ใช่แต่เฉพาะ สังคมไทย เท่านั้นนะทั่น!!! ระดับ สังคมโลก หรือแทบจะทั่วทั้งโลกในทุกวันนี้ เรื่องราวของ วัคซีน ที่กะจะเอาไว้ป้องกัน คุ้มกัน หรือเอาไว้ต่อสู้กับศัตรูของมวลมนุษยชาติอย่างท่านเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้พอหายคลายจาง พอทุเลา บรรเทาเบาบาง ลงไปได้มั่ง กลับถูกทำให้เป็นอะไรที่ก่อให้เกิดความ บวดหัว ชนิด ยาบวดหาย ใดๆ ก็ไม่น่าจะเอาอยู่ เพราะไม่ว่าจะเป็นวัคซีนเมืองจีน วัคซีนรัสเซีย วัคซีนอเมริกา ไปจนถึงวัคซีนอังกฤษ ฯลฯ ต่างกลายเป็น เครื่องมือ ในการแสวงหาผลประโยชน์ทาง การเมือง และทาง ธุรกิจ อย่างชนิดหนักขึ้นๆ จนแทบไม่รู้ไผ-เป็นไผ ใคร-เป็นใคร ไปแล้วในทุกวันนี้...

                                                                                    (4)

            และนั่นคงถือเป็นเรื่อง ไม่แปลก แต่อย่างใด...ที่วัคซีนเมืองไทย ไม่ว่าจะผลิตเอง รับจ้างผลิต รับบริจาค หรือสั่งจอง สั่งซื้อ เลยกลายเป็นเรื่องสามารถก่อให้เกิด ผลข้างเคียง ในทางหนึ่ง ทางใด ไปตาม ผลประโยชน์ทางการเมือง หรือ ธุรกิจ ของกลุ่มคนกลุ่มหนึ่ง กลุ่มใด บุคคลหนึ่ง บุคคลใด ฝ่ายหนึ่ง ฝ่ายใด ที่ต่างไล่งับ ไล่ฟัด ไล่บด ไล่บี้ กันมาตั้งแต่ช่วง ทศวรรษแห่งความมืดมน โน่นเลย แต่ก็ยังคงไม่ไปไหน หรือยังคงไม่คิดจะจบ ไม่คิดจะเลิกกันไปซักกะที ทั้งๆ ที่ไม่ว่าฉีด-ไม่ฉีด ฉีดแบบไหน ยี่ห้อไหน สุดท้าย...ย่อมหนีไม่พ้นต้องตายโหง ตายห่า ไปในช่วงหนึ่ง ช่วงใด ไปด้วยกันทั้งสิ้น ไม่อาจอยู่ค้ำฟ้า อยู่เป็นนิรันดรไป ด้วยกันทั้งนั้น...

                                                                                     (5)

            การที่ต้องเข้ารับรู้...หรือต้องเข้าไป มั่ว กับเรื่องวัคซีน ในลักษณะใด แบบใด ก็ตามแต่ เลยอาจส่งผลให้เกิดอาการปากแห้ง ลิ้นแห้ง อ่อนเพลียละเหี่ยใจ เบื่ออาหาร และเบื่ออะไรต่อมิอะไรกันได้ไม่ยากซ์ซ์ซ์ ด้วยเหตุนี้...หลังๆ มานี้เลยไม่คิดจะเอาด้วยแล้ว สู้หันมาเลิกคิด เลิกอ่าน เลิกฟังเรื่องวัคซีนโน่น วัคซีนนี่ กันไปซักพัก น่าจะพอช่วยให้เกิดความสบายอก สบายใจ ได้มั่ง แม้แต่เล็กๆ-น้อยๆ ก็ยังดี หันไปฟังเพลง-โหลดเพลง ดูหนัง-โหลดหนัง จากเว็บโน่น เว็บนี่ เอามานอนฟัง นอนดู ไม่ก็หันไปอ่านหนังสือ ฯลฯ ก่อนหน้าที่จะต้องตายโหง ตายห่า ในอีกไม่กี่สิบ กี่ร้อย กี่พันวันนับจากนี้ น่าจะสบายใจกว่ากันเยอะเลย...

                                                                                       (6)

            ส่วนไอ้เรื่องตายเมื่อไหร่ ตายแบบไหนและอย่างไร ป่วยตาย หรือ อดตาย อันนั้น...เพียงแค่อาศัยแนวคิด ทฤษฎี ของอภิมหาพระอย่าง ท่านพุทธทาสภิกขุ เข้ามาจับ ก็ไม่ต้องเสียเวลา บวดหัว หรือ บวดหาย อีกต่อไปแล้ว คือแค่พยายามฝึก พยายามหัด ตายก่อนตาย เอาไว้ก่อนล่วงหน้า แม้อะไรต่อมิอะไรมันจะสับสน โกลาหล ระส่ำระสาย ชุลมุนวุ่นวาย กันในระดับไหนก็แล้วแต่ การแล่นเอื่อยๆ ไปตามกระแสน้ำ แบบชนิดไม่ต้องเสียเวลาออกแรงพาย ปล่อยให้เรือน้อย เรือชีวิต ค่อยๆ แล่นของมันไปเอง โดยอาศัย ความว่าง หรือ การปล่อยวาง นั่นแหละ เป็นพลังในการขับเคลื่อน...

                                                                                          (7)

            สรุปรวมความแล้ว...อย่าถึงกับต้องไปซีเรียส ซีเครียด อะไรมาก สำหรับความเป็นไปของโลกหรือของสังคมไทยในช่วงนี้ อย่างที่เคยว่าๆ เอาไว้แล้วนั่นแหละว่า ด้วยเหตุเพราะมันเป็นช่วง อวสารภินี ไม่ใช่ช่วง อุตสารภินี หรือเป็นช่วงที่กงล้อแห่งกาลเวลา มันกำลัง หมุนลง ไปสู่ความเสื่อม ไม่ได้ หมุนขึ้น ไปสู่ความสุข ความเจริญ อันเป็นไปตาม ธรรมชาติแห่งกาลเวลา ท่านนั่นแหละ อะไรต่อมิอะไรมันเลยอาจไม่เป็นไปตามความปรารถนาและต้องการของตัวตนของตน หรือของ ตัวกู-ของกู เป็นธรรมดา การหาทาง ระงับ จากสิ่งที่เข้ามา ปรุงแต่ง อารมณ์ความรู้สึก ไม่ว่าในทาง บวก หรือ ลบ อันนั้นนั่นแหละ...คือสิ่งที่สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก องค์ปัจจุบัน ท่านเรียกขานไว้ในนาม ขันติธรรม นั่นเอง...

                                                                           ----------------------------------------------------


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"