แฟ้มภาพ

29 พ.ค.64 - นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวที่เวทีออนไลน์ "คณะไทยไม่ทน" สามัคคีประชาชนเพื่อประเทสไทย เมื่อวานนี้ว่า คณะไทยไม่ทนฯ ไปยื่นหนังสือหลายหน่วยงานที่ผ่านมา และล่าสุดไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เพื่อยื่นหนังสือถึง พล.ต.อ. สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร อย่างไรก็ตาม การเดินสายยื่นหนังสือที่ผ่านมานั้น มีการวิเคราะห์กันหลากหลายถึงแรงกระเพื่อมแตกต่างกันชัดเจน แต่มีนัยยะสำคัญ 

ส่วน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไปตรวจงานที่เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ แล้วพูดว่ามีพวกยุแยงตะแคงรั่วอยู่แถวนี้ พร้อมทั้งบอกว่า ได้คุยกับพรรคร่วมรัฐบาลทั้ง ปชป. ชาติไทยพัฒนา ไม่เห็นมีปัญหาอะไร  

นายจตุพร กล่าวว่า ตนไม่ต้องไปยุแยงตะแคงรั่วใดๆ เพราะนายกฯ พูดชัดเจนว่า มีพวกยุแยงตะแคงรั่วอยู่แถวนี้ ก็คงเป็นคนแถวนั้น สิ่งนี้จึงสะท้อนถึงความขัดแย้งในรัฐบาลมักเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา เหมือนจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ บอกจอมพล ป. พิบูลย์สงคราม ว่า จะไม่วัดรอยเท้า แต่เมื่อถึงเวลาก็เอาเท้าไปวัดรอยหน้ากันเลย ดังนั้น แสดงถึงไม่มีสัจจะทางการเมือง 

“คนฟังนายกฯ พูดแล้ว ก็เข้าใจว่า มีปัญหากันแน่นอน ยังไม่นับปัญหาในพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ซึ่งไม่กี่วันจะกระจ่างชัดกันว่าจะเดินทางไปถึงจุดไหนอย่างไร แต่ที่หนักที่สุด คือ ประเทศไทย จะเดินไปถึงจุดไหน เพราะสิ่งที่นายกฯ อธิบายทั้งหมดนั้น ไม่มีอะไรทำให้มองเห็นอนาคตกันได้เลย โดยเฉพาะการแก้ไขสถานการณ์โควิด”

นายจตุพร กล่าวต่อไปว่า ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ได้นำล่องให้เห็นถึงวัคซีนควรมีการปลดแอกกันได้แล้ว โดยสามารถเปิดช่องที่เป็นอุปสรรคที่เกินปัญญาสมองขี้เท่อของฝ่ายรัฐบาลจะจัดการ ดังนั้น ปัญหาวัคซีนควรจบ แต่ที่เป็นอุปสรรคอย่างเดียวคือ ความเป็นคนที่ไม่รับผิดชอบในตำแหน่งหน้าที่ปฏิบัติ 

ดังนั้น เมื่อราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ขยับนำเข้าวัคซีนใน มิ.ย. 1 ล้านโดส ต่อไปจะเรียงมากขึ้นตามลำดับ อีกทั้งถ้าเปิดประตูอย่างเสรี แค่ควบคุมคุณภาพ ประเทศไทยจะพลิกฟื้นสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว ผู้นำต้องคิดว่า ถ้าจบใน 2 เดือนจะจัดการกันอย่างไร หรือจบใน 3 เดือนจะทำกันอย่างไร

"แต่วันนี้สิ่งที่กำลังทำกันอยู่เป็นชาติก็ไม่จบ ไม่มีอะไรเป็นอนาคตเลย เพราะความจริงแล้ว ควรจัดการตั้งแต่เบื้องต้น จบแล้วจะไม่เป็นปัญหา แต่การด้อยประสิทธิภาพต่างหากที่ที่เป็นปัญหาอยู่"

ส่วนในสัปดาห์หน้า เริ่มตั้งแต่วันจันทร์ เวลาบ่ายโมง พวกเราจะไปกองบัญชาการกองทัพไทย อยู่ที่ศูนย์ราชการ ทั้งกองทัพเรือ อากาศ และปลัดกระทรวงกลาโหม เราจะฝากหนังสือไว้ที่กองบัญชาการกองทัพไทย

อีกอย่างในสัปดาห์หน้าจะงดเวทีปราศรัยในช่วงจันทร์-ศุกร์ แต่ยังมีเวทีของวันเสาร์-อาทิตย์ ตามปกติ และมีกิจกรรมนอกพื้นที่ โดยจะไปรัฐสภา เพื่อยื่นหนังสือให้ฝ่ายค้านและรัฐบาล เรียกร้องให้แสดงความรับผิดชอบ ให้ยุติปัญหาของชาติ และแต่ฝ่ายจะเสียสละกันอย่างไร

อีกทั้งนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ถ้าเงินกู้ 5 แสนล้านบาทไม่ผ่านสภาก็อาจจะยุบสภานั้น นายจตุพร กล่าวว่า ทำให้นักเลือกตั้งก็ใจเต้นตุ๊บตั๊บกัน เพราะกลัวการยุบสภา หากเป็นนักประชาธิปไตยที่จริงแล้ว จะไม่กลัวเรื่องยุบสภา จึงทำให้เรี่องนี้ถูกนำมากดดัน ดังนั้น ฝ่ายค้านจะแสดงความรับผิดชอบในสถานการณ์นี้ เพื่อดึงประเทศไทยออกจากวิกฤตได้อย่างไร 

จากนั้นจะไปยื่นหนังสือต่อองค์กรอิสระที่เป็นอุปสรรคให้ประเทศเดินหน้าไปกันไม่ได้ เมื่อแก้ รธน.ไม่ได้ แต่จะเรียกร้องให้องค์กรอิสระพิจารณาตัวเอง เพราะการทำหน้าที่ภายใต้ คสช.นั้น มีลักษณะอุปถัมภ์กันอยู่ 

เราจะไปยื่นให้ ศาล รธน. กกต. ปปช. เป็นต้น ให้ลาออก เพื่อเกิดรีเซ็ตประเทศไทยกันใหม่ เนื่องจากองค์กรเหล่านี้ไม่ได้ยึดโยงกับประชาชนอย่างแท้จริง จะกลายเป็นอุปสรรคที่สำคัญ ซึ่งจะชี้แจงให้ทราบกันต่อไปตามลำดับ

แกนนำไทยไม่ทน กล่าวอีกว่า จุดสุดท้ายในสัปดาห์หน้านั้น จะยื่นให้นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ที่สำนักงาน ซึ่งตั้งอยู่ด้านหลังของสำนักงานกฤษฎีกา เพราะนายมีชัย เขียน รธน.จนประเทศวิกฤตมาแล้วหลายฉบับ กระทั่งฉบับปี 2560 ยังทำให้ประเทศย่อยยับ แล้วจะแสดงความรับผิดชอบอย่างไร จะขอโทษประชาชนหรือไม่ เมื่อบอก รธน.ปราบโกงก็ปราบไม่ได้ ถ้าปราบโกงได้ ประยุทธ์ ยังจะกำหนดปราบโกงเป็นวาระแห่งชาติถึง 2 ครั้งอีกหรือในปี 2559 ถึง 2564

ร่วมทั้งสินบนโตโยต้าพรีอุส สำแดงเท็จในการจ่ายภาษี ที่เอาอะไหล่เข้ามา จนศาลอเมริกาพิพากษากลายเป็นเรื่องดังกันไปทั่ว สิ่งนี้เราเคยทวงติงมาแต่ต้นว่า บุคคลที่ร่วมปราบโกงกับรัฐบาลนั้น เป็นตัวโกง 

อีกทั้งคดีนี้ในประเทศไทยยังเป็นคดีพิเศษ ซึ่งนายกฯ เป็นประธานกรรมการคดีพิเศษ แล้วนายกฯ ยังเอาคนเป็นจำเลยในคดีนำชิ้นส่วนพรีอุสเข้าไทยมาเป็นกรรมการคดีพิเศษ ยิ่งแสดงถึงนำคนโกงจะมาปราบโกงได้อย่างไร แล้วยังชูมือจะปราบโกง จนอับอายขายขี้หน้ากันไปใหญ่

“สิ่งนี้ก็จะไปบอกนายมีชัยว่า มันปราบโกงไม่ได้ เพราะคุณวางระเบิดเวลาไว้ตั้งแต่ปี 60 แล้วจะมีจิตสำนึกในสถานการณ์นี้ในช่วงท้ายของชัวิตอย่างไร ผมไม่ไปชวนทะเลาะ แต่จะไปยื่นหนังสืออย่างวิญญูชน แม้นายมีชัย ไม่มารับเอง แต่จะได้สื่อความกันว่า ความหายนะของบ้านเมืองนั้น ใครควรรับผิดชบกันบ้าง”

นายจตุพร กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม มนุษย์นั้นเกิดมาย่อมมีทั้งเรื่องผิดและถูกไม่เคยมีใครทำผิดทุกอย่าง และทำถูกทุกอย่าง ซึ่งเป็นธรรมชาติของมนุษย์ เมื่อวันนี้ประเทศไทยเดินมาถึงความเสียหาย พินาศทั้ง เศรษฐกิจ สังคม การเมืองและธรรมาภิบาลถูกทำลายย่อยยับ ถ้า รธน.ปราบโกงกันได้จริงแล้วสภาพประเทศจะตกต่ำติดดินถึงทุกวันนี้ได้อย่างไร

"ดังนั้น เราจะไปยื่นหนังสือ ถามหาความรับผิดชิบกับนายมีชัย ในฐานะประชาชนคนหนึ่ง แต่เขียน รธน.หลายฉบับ จนถึงฉบับ 2560 ว่า จะได้แสดงความรับผิดชอบถอดสลักระเบิดที่วางไว้อย่างไร"