“อาคม”เบรกหัวชนฝาห้ามรถร่วมขสมก.ขึ้นค่าโดยสาร


เพิ่มเพื่อน    

“อาคม”เบรคหัวชนฝารถสาธารณะทุกประเภทห้ามขึ้นค่าโดยสารรอศึกษาแรับโครงสร้างราคาใหม่เสร็จภายใน2เดือน พร้อมมอบนโยบาย บอร์ดใหม่  ขสมก.ขยายเส้นทางเดินรถเชื่อมสนามบินหารายได้เพิ่ม พร้อม

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังได้รับหนังสือพร้อมหารือกับผู้ประกอบการรถโดยสารประจำทาง หรือรถร่วม(ขสมก.) เพื่อขอปรับขึ้นค่าโดยสาร หลังได้รับผลกระทบจากการขึ้นราคาก๊าซเอ็นจีวี ว่า ยืนยันจะยังไม่มีการปรับขึ้นราคาค่าโดยสารรถทุกประเภทในขณะนี้ เนื่องจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงลดลงแล้ว ประกอบกับ กรมการขนส่งทางบก(ขบ.)อยู่ระหว่างการศึกษาปรับโครงสร้างค่าโดยสารระบบขนส่งใหม่ทั้งระบบ คาดว่าจะเสร็จภายใน 2เดือน จากนั้นจะมีการเรียกผู้ประกอบการมาหารือเพื่อรับทราบและหาแนวทางร่วมกันอีกครั้ง

ขณะเดียวกันได้มอบนโยบายให้คณะกรรมการบริหารกิจการ (บอร์ด) องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ชุดใหม่ที่มีการประชุมในวันที่ 31 พ.ค. 61 เป็นครั้งแรกโดยเน้นไปที่เรื่องของการปรับบทบาทไปเป็นผู้ประกอบการเต็มตัวภายหลังจากปฏิรูปเส้นทางรถเมล์ 269 เส้นทาง เพื่อเตรียมความพร้อมแข่งขันกับผู้ประกอบการรายอื่น ตลอดจนปรับตัวเป็นระบบขนส่งรองรับส่งประชาชนป้อนสู่ระบบรถไฟฟ้า (ฟีดเดอร์)รวมทั้งพัฒนามาตรฐานการให้บริการ นำระบบเทคโนโลยีนำมาใช้ ทั้งระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ (อีทิคเก็ต) เชื่อมสู่ระบบตั๋วร่วมหรือบัตรแมงมุมในอนาคตตลอดจนนำเทคโนโลยีเรื่องเชื้อเพลิงต่างๆ เข้ามาใช้ปัจจุบันมีหลากหลาย 

ทั้งนี้ให้ดูฐานะการเงิน รายได้ รายจ่าย โดยเฉพาะรายจ่ายต้องเข้มงวดมากขึ้น โดยเฉพาะการหารายได้จากเส้นทางเดินรถที่มีศักยภาพ อาทิ การเปิดเดินรถเชื่อมสนามบินที่ได้รับความนิยมมากสามารถเก็บค่าบริการอัตราพิเศษได้ เช่นสาย A3 ดอนเมือง-สวนลุมพินี และ A4 ดอนเมือง-สนามหลวง ส่วนการจัดซื้อรถเมล์ใหม่นั้น ให้นำข้อเสนอแนะจากที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) เมื่อวันที่ 30 พ.ค. 61 ที่ขอจัดซื้อรถเมล์จาก 3,183 คัน เหลือ 3,000 คัน ล็อตแรกได้จัดซื้อรถโดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ(เอ็นจีวี)489 คันไปแล้ว อนาคตจัดซื้อรถเมล์ใหม่อีก 2,000 กว่าคัน แบ่งเป็นรถเก่าปรับปรุงสภาพใหม่ 323 คัน ที่เหลือรถเมล์ใหม่เชื้อเพลิงประเภทต่างๆ ที่อาจจะเป็นระบบเชื้อเพลิงดีเซล ระบบดีเซลและไฟฟ้า (ไฮบริด) และรถเมล์ไฟฟ้า (อีวี) ซึ่งมีแนวทางการดำเนินการจัดหาอย่างไร จะเป็นรูปแบบการจัดซื้อหรือเช่าต้องพิจารณาต่อไป

อย่างไรก็ตามส่วนข้อเรียกร้องให้พิจารณาทบทวนลดอัตราค่าตอบแทนของ ขสมก.ที่เรียกเก็บจากรถร่วมลง โดยรถโดยสารธรรมดาคิดอัตราส่วนแบ่งรายได้ค่าโดยสาร 15 บาทต่อวันต่อคัน รถโดยสารปรับอากาศคิดอัตราค่าส่วนแบ่งรายได้ค่าโดยสาร 30 บาทต่อวันต่อคัน จากเดิมเคยเก็บ 35 - 305 บาทต่อวันต่อคัน และขอให้งดดอกเบี้ยและเบี้ยปรับของหนี้ที่ค้างชำระ ซึ่งปัจจุบันรถร่วม ขสมก.เป็นหนี้ค่าตอบแทน ขสมก.ถึง 800 ล้านบาทนั้น เป็นเรื่องที่คณะกรรมการหรือบอร์ดของ ขสมก.ต้องพิจารณาเพื่อหาแนวทางแก้ไขประนอมหนี้ต่อไป
นอกจากนี้ได้มอบหมาย ขสมก.พิจารณาในเรื่องของค่าตอบแทนและหนี้สินค้างชำระระหว่างทางรถร่วมบริการและทาง ขสมก. ทั้งในข้อเรียกร้องข้อเสนอที่จะงดเว้นให้มีการผ่อนผันในการเก็บค่าตอบแทน ในส่วนของหนี้ค้างชำระก็จะต้องให้ทางรถร่วมฯไปหารือกับทาง ขสมก.ในรายละเอียดว่ามีหนี้สินทั้งหมดเท่าไหร่และเกิดในช่วงไหนบ้างรวมถึงจะมีวิธีการไหนที่จะประนอมหนี้อย่างไร 

ด้านนางภัทรวดี กล่อมจรูญ นายกสมาคมผู้ประกอบการรถร่วม ขสมก. กล่าวว่าจากการหารือร่วมกับกระทรวงคมนาคมนั้น ทางกระทรวงฯได้ขอให้ทางสมาคมชะลอการปรับขึ้นค่าโดยสารเพิ่มอีก 4 บาทโดยจะต้องรอผลการศึกษาโครงสร้างอัตราค่าโดยสารใหม่จากทางกรมการขนส่งทางบกก่อน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษา อย่างไรก็ตามทางผู้ประกอบการยินดีที่จะรอความชัดเจนผลการศึกษาอีก 2 เดือน แต่หากยังไม่ได้ขอจะเดินทางเข้าหารือถึงมาตรการความช่วยเหลือจากทางกระทรวงคมนาคมอีกครั้งและทางสมาคมฯยังยืนยันว่าจะขอปรับขึ้นค่าโดยสารเพื่อให้สอดคล้องกับต้นทุนในปัจจุบัน 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"