27 พ.ค.64 - จากสถานการณ์การลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาทางชายแดนทิศตะวันตก ด้านอำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งในรอบปี 2562 ถึง 2564 เจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดยาเสพติดได้เป็นจำนวนมาก ประกอบด้วย ยาไอซ์ น้ำหนัก 3,217 กิโลกรัม เคตามีน 591 กิโลกรัม และเฮโรอีน 77 กิโลกรัม
จากการจับกุมและซักถามผู้ต้องหาที่กระทำความผิดดังกล่าว ทำให้ทราบว่า กลุ่มผู้ค้ายาเสพติดกลุ่มนี้ มีพฤติกรรมลักลอบนำยาเสพติดข้ามชายแดนเข้ามาในจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อส่งต่อให้กับกลุ่มลูกค้า เมื่อตรวจสอบเส้นทางการเงิน ค่ายาเสพติด พบว่า กลุ่มผู้ต้องหาโอนเงินไปยังกลุ่มนักทำบัญชี จากนั้น จะถูกโอนต่อไปยังกลุ่มฟอกเงิน รวมถึงกลุ่มร้านค้าทองคำ ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับเครือข่าย มลยี โดยมีเงินหมุนเวียนมากกว่า 2 พันล้านบาท
เจ้าหน้าที่จึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน ขอศาลออกหมายจับตาม พ.ร.บ.ฟอกเงิน รวม 11 หมาย ฐานสมคบ สนับสนุน ฟอกเงินและสมคบฟอกเงิน เพื่อจับกุมผู้ร่วมกระทำผิดและตัดเส้นทางการการเงินของเครือข่ายยาเสพติดและฟอกเงินดังกล่าว จึงเป็นที่มาของปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้น ตามแผนยุทธการ สยบตะนาวศรีในครั้งนี้
จากผลการปฏิบัติงาน เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้ 4 คน ประกอบด้วย นายวิฑูรย์ เพิ่มพูนภิญโญ นางสาวกานต์รวี หอระบรรณ์ นายธวัชชัย หรือ มด เดชสาร นายธเนศพลร์ มนัสปิยะเลิศ รวมถึงอายัดตัวนางสาวนิรดา ไกรวิจิตรด้วย
จากการสอบสวน พบว่า นายวิฑูรย์ รับหน้าที่ขนเงินหลายล้านบาทมาฝากเข้าบัญชีธนาคารหลายบัญชี ในอำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี เมื่อตรวจสอบที่มาและเส้นทางการเงิน ทำให้เชื่อว่านายวิฑูรย์ น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติดและฟอกเงิน เจ้าหน้าที่จึงเข้าทำการจับกุมตัวนายวิฑูรย์ ได้ที่บ้านเช่า เลขที่ 13 หมู่ 9 บ้านพระเจดีย์สามองค์ ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี ก่อนจะควบคุมตัวขึ้นเฮลิคอปเตอร์ มายังกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อดำเนินการสอบสวนเพิ่มเติมต่อไป
จากนั้น เวลาประมาณ 10.45 น. พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ได้นำคณะเจ้าหน้าที่พร้อมหมายค้นและหมายจับ เข้าทำการตรวจค้นร้านทองทรัพย์ทวี ใกล้สี่แยกอู่ทอง เขตเทศบาลเมืองกาญจนบุรี พร้อมเข้าทำการจับกุม นายธเนศร์พล มนัสปิยะเลิศ ลูกชายเจ้าของร้านทองดังกล่าว ซึ่งทางนายธเนศร์พลและครอบครัว ซึ่งเป็นเจ้าของร้านทองแห่งนี้ ยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการฟอกเงิน มีเพียงการขายทองคำให้กับลูกค้าไปตามปกติ เมื่อลูกค้าโอนเงินเข้ามาให้ ทางร้านก็ให้ลูกค้ามารับทองที่หน้าร้าน ไม่ได้มีการดำเนินการที่ผิดกฏหมายใดๆ
ขณะเดียวกัน ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด กล่าวว่า จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า ร้านทองแห่งนี้ มีคดีฟอกเงินกับทาง ปปง.หลายคดี ส่วนในคดีนี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบเส้นทางการเงินของขบวนการค้ายาเสพติดและพบว่า ได้มีเงินเข้ามาสู่ร้านทองแห่งนี้เป็นจำนวนมาก รวมแล้วกว่า 30 ล้านบาท และทำการสืบสวนจนพบว่ามีผู้เกี่ยวข้องหลายคน จึงนำมาสู่การออกหมายจับและจับกุมดังกล่าว
ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติด ปปง. ตำรวจภูธรภาค 7 ตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี จะได้ทำการตรวจสอบทรัพย์สินของร้านทองแห่งนี้ให้ชัดเจน โดยหากพบว่าทรัพย์สินส่วนใดที่ไม่เกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติดก็จะส่งคืนให้กับทางเจ้าของ แต่หากทรัพย์สินใดที่มีส่วนเกี่ยวข้องก็จะได้อายัดและดำเนินคดีตามข้อกล่าวหาต่างๆต่อไป ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ยังได้ฝากถึงเจ้าของร้านทองที่ยังมีพฤติกรรมเช่นนี้ ขอให้เลิกพฤติกรรมและทำมาหากินอย่างสุจริต เพราะหากร้านทองเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำเรื่องของขบวนการค้ายาเสพติดก็จะส่งผลเสียต่อธุรกิจของร้านทองนั้นๆโดยตรงได้
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |