ยอมแล้ว! คลังสั่งด่วนเบรกใช้ระเบียบการจ้างพนักงานหรือลูกจ้างโดยใช้จ่ายจากเงินนอกงบประมาณ พ.ศ.2561 หลังยังมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน พร้อมเชิญส่วนราชการทั้งหมดมาหารือทำความเข้าใจก่อนร่างระเบียบใหม่ออกใช้
    นายประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 31 พ.ค.2561 รมว.การคลังและ รมว.สาธารณสุข กระทรวงการคลัง และกรมบัญชีกลาง ได้หารือร่วมกันถึงปัญหาระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจ้างพนักงานหรือลูกจ้างโดยใช้จ่ายจากเงินนอกงบประมาณ พ.ศ.2561 ที่ประกาศออกมาเมื่อวันที่ 18 พ.ค.2561 เนื่องจากยังมีแพทย์และหน่วยงานอื่นๆ มีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนอยู่มาก จึงให้มีการเลื่อนการใช้ประกาศดังกล่าวออกไปก่อน จนกว่าจะมีประกาศใหม่ออกมา ซึ่งทางกรมบัญชีกลางจะเร่งทำหนังสือแจ้งให้ทุกหน่วยงานได้รับทราบเป็นการด่วน
    นอกจากนี้ ในวันที่ 31 พ.ค.2561 กรมบัญชีกลางได้เชิญส่วนราชการทั้งหมดมาชี้แจง ทำความเข้าใจกับระเบียบที่จะออกใหม่ ว่ามีความเหมาะสมและกระทบกับการทำงานหรือไม่ เพื่อให้ทุกส่วนราชการสามารถเดินหน้าไปได้พร้อมกันทั้งหมด โดยหลังจากนี้กระทรวงการคลังจะพยายามเขียนระเบียบใหม่ด้วยภาษาที่เข้าใจง่าย อ่านแล้วทุกหน่วยงานสบายใจ ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาไม่กี่เดือนในการออกระเบียบใหม่
    นายประสงค์กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมามีกระทรวงสาธารณสุขเพียงแห่งเดียวที่มาทำความตกลงการว่าจ้างพนักงานและลูกจ้างชั่วคราวกับกระทรวงการคลัง ซึ่งหน่วยงานอื่นๆ ยังไม่ได้มาทำ เนื่องจากอาจจะไม่มีผู้นำ กระทรวงการคลังโดยกรมบัญชีกลางจึงเชิญทุกหน่วยงานมาทำความเข้าใจรายละเอียดและตัวอย่างของการออกระเบียบต่างๆ ทุกประเด็นที่ส่วนราชการเป็นกังวล ก่อนที่จะมีการออกระเบียบใหม่มาบังคับใช้ต่อไป
    ทั้งนี้ การออกระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจ้างพนักงานหรือลูกจ้างโดยใช้จ่ายจากเงินนอกงบประมาณที่ออกมานั้น เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ต้องการให้คลังจัดระเบียบการว่าจ้างพนักงานและลูกจ้างของหน่วยราชการต่างๆ ให้มีมาตรฐาน และมีข้อมูลการจ้างคนและจำนวนเงินที่ใช้ไป ซึ่งการว่าจ้างเป็นแผนของหน่วยงานต่างๆ เพียงให้มีเงินและงานรองรับ และมีกรอบการทำงานที่ชัดเจน มาให้กระทรวงการคลังเห็นชอบเท่านั้น
    "ที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าการจ้างพนักงานและลูกจ้างชั่วคราวไม่มีมาตรฐาน ไม่มีกรอบในการดูแล บางหน่วยงานมีเงินไม่พอ ต้องจ้างพนักงานปริญญาตรี 2 คน ซึ่งตามจริงต้องได้เงินเดือนคนละ 15,000  บาทต่อเดือน แต่จ่ายจริงให้คนละ 7,500 บาท ซึ่งอย่างนี้ก็ไม่ถูกต้อง ทำให้ ครม.ต้องการจัดระเบียบเรื่องนี้ให้มีมาตรฐาน และมีข้อมูลเพื่อใช้ในการกำหนดนโยบายและบริหารเศรษฐกิจของประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ" นายประสงค์กล่าว
    นายแพทย์เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ประธานชมรมแพทย์ชนบท กล่าวว่า รู้สึกพอใจ และจะมีการแจ้งให้สมาชิกชมรมทราบว่าไม่จำเป็นต้องเดินทางมาชุมนุมที่กระทรวงการคลังในวันที่ 1 มิ.ย.2561 แล้ว หลังจากกระทรวงการคลังมีการเลื่อนใช้ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจ้างพนักงานหรือลูกจ้างโดยใช้เงินนอกงบประมาณ พ.ศ.2561 ที่ออกมาเมื่อ 18 พ.ค.2561 ออกไปก่อน พร้อมกับจะเปิดรับฟังความเห็นและแนวทางปฏิบัติ ก่อนที่จะมีการออกประกาศระเบียบใหม่มาใช้
    “น่าเสียดายที่เราคุยช้าไปหน่อย เพราะทราบว่าตอนนี้มีสมาชิกบางคนได้ลางานและเดินทางมาแล้ว ทำให้มีบางส่วนอาจจะเดินทางมา แต่เราก็พยายามจะสื่อสารให้เข้าใจว่าไม่ต้องมาก็ได้ เนื่องจากขณะนี้เรารู้สึกพอใจในระดับหนึ่ง แต่ก็ยังมีบางประเด็นที่ยังไม่สบายใจอยู่ เช่น การใช้เงินบริจาคเฉพาะเจาะจง จะต้องผ่านระเบียบของกระทรวงการคลัง รวมถึงหลักเกณฑ์การจ้างงาน การจ่ายเงินค่าตอบแทนของเจ้าหน้าที่ในกระทรวงสาธารณสุขจะออกมาอย่างไร ซึ่งจะมีการติดตามต่ออย่างใกล้ชิด หากไม่พอใจก็จะออกมาเคลื่อนไหวใหม่” นายเกรียงศักดิ์กล่าว
    นางสาวนิภา ลำเจียกเทศ รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ปัจจุบันส่วนงานราชการมีลูกจ้างประจำจำนวน 1.1 แสนราย ซึ่งกรมบัญชีกลางรับรู้ถึงอัตราที่ชัดเจน และเงินงบประมาณที่ใช้ แต่ในส่วนของการจ้างพนักงานและลูกจ้างชั่วคราวที่ใช้เงินนอกงบประมาณมาดำเนินนั้น ไม่สามารถระบุเป็นอัตราและจำนวนเงินที่ใช้ชัดเจน จึงต้องการให้มีการจัดระเบียบส่วนนี้ให้เห็นชัดเจน เพื่อให้ในอนาคตสามารถพัฒนาอัตรากำลังพลของส่วนงานราชการได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งการจ้างลูกจ้างชั่วคราวทั้งหมดเป็นไปตามระเบียบเดิม แต่ระเบียบใหม่ที่ออกมานั้น เพียงแค่เพิ่มหลักเกณฑ์ให้ส่วนงานราชการต้องรายงานและชี้แจงการจ้างลูกจ้างชั่วคราวในแต่ละปีเท่านั้น ดังนั้นลูกจ้างที่ยังอยู่การจ้างงานของปี 2561 หรือในปัจจุบัน จะไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด
    “การชี้แจงระเบียบใหม่นี้ กรมบัญชีกลางได้อธิบายระเบียบแต่ละข้ออย่างชัดเจน พร้อมทั้งมีตัวอย่างของตารางรายละเอียดการประกอบการจ้างพนักงานและลูกจ้างจากเงินนอกงบประมาณ ซึ่งจะต้องมีการแนบท้ายถึงความจำเป็นที่ต้องจ้างอัตรากำลังพลแต่ละอัตราด้วย” นางสาวนิภากล่าว.