เอาเป็นว่า...ถือซะว่า แพ้เป็นพระ-ชนะเป็นมาร ก็แล้วกัน!!! สำหรับทีมวอลเลย์ฯ สาวไทย ที่ต้องลง ตบ นัดแรกกับทีมชาติญี่ปุ่น ยุ่นปี่ ในรายการ วอลเลย์บอล วีเมนส์ เนชั่นส์ ลีก 2021 ณ ประเทศอิตาลี เมื่อช่วงวันอังคาร (25 พ.ค.) ที่ผ่านมา และจำต้องพ่าย ต้องแพ้ ไปชนิด 3-0 พูนสวัสดิ์ อย่างที่พอทราบๆ กันไปแล้ว...
********************************
คืออย่างที่คุณพี่ ดี้-นิติพงษ์ ห่อนาค ท่านสรุปไว้แบบสั้นๆ ง่ายๆ ใน เฟซบุ๊ก ของท่านนั่นแหละว่า... “เมื่ออาทิตย์ก่อน มลิกา...ขายมะม่วง/วิลาวัณย์...Youtuber/อัมพร...เลี้ยงลูก/อรอุมา...ทำอาหาร/นุศรา...ออกกำลัง/ปลื้มจิตร์...ไถ skate วันนี้รวมตัวกอบกู้ชาติ" โอกาสที่จะแพ้แบบลุ้นลำบาก มันจึงกลายเป็น ข้อเท็จจริง ที่มิอาจหลีกเลี่ยงและปฏิเสธ ถึงแม้ว่าเซต 3 จะพอมี ฮึด อยู่มั่งในช่วงกลางๆ สามารถทำคะแนนตีตื้นขึ้นมาในระดับ 15 ต่อ 15 แต่ก็นั่นแหละ...เพิ่งเลิกขายมะม่วง เลิกเลี้ยงลูก เลิกทำอาหาร ฯลฯ ไปหมาดๆ โอกาสที่จะฮึด จะยืนระยะไปได้ตลอด คงยากที่จะเป็นไปได้...
---------------------------------------------------
แต่ถึงกระนั้น...ด้วยเหตุเพราะ ความเป็นทีมชาติ ทั้งด้วยหัวใจและจิตวิญญาณ แบบชนิดเต็มสูบ เต็มร้อย ยังไงๆ คงต้องเชียร์เอาไว้ก่อน ให้ ไทยแลนด์สู้ๆ...ไทยแลนด์สู้ตาย อย่างมิอาจปฏิเสธ ทำไงได้ ในเมื่อบรรดา สาวๆ ทั้งหลาย ที่กำลังเป็นดาวรุ่ง พุ่งแรง ต่างชวนกัน ติดโควิด กันไปเป็นแถวๆ บรรดา สาวแก่ หรือ สาวสูงวัย ทั้งหลาย จึงจำต้องหันมารับบทบาทและหน้าที่อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงได้ ความพ่ายแพ้หรือชัยชนะ...อันถือเป็นเรื่อง ปกติธรรมดา ของเกมกีฬาโดยทั่วไปจึงไม่ถึงกับมีค่า มีราคา มากมายซักเท่าไหร่ เมื่อเทียบหัวจิต-หัวใจแห่ง ความเป็นทีมชาติ ที่พร้อมจะสู้ๆ พร้อมจะสู้ตาย อย่างถึงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้...
------------------------------------------------
ซึ่งว่าไปแล้วก็คงไม่ต่างไปจาก รัฐบาล ในช่วงนี้นั่นแหละทั่น!!! โดยเฉพาะท่านนายกฯ บิ๊กตู่ ที่พยายามออกอาการสู้สู้ และสู้ตาย อยู่พอประมาณ แต่ก็อย่างว่า...จากที่เคยขายมะม่วง เลี้ยงลูก ทำอาหาร ฯลฯ พอต้องมารับบทเป็นนายกรัฐมนตรี มันคงไปได้ประมาณนี้นั่นแหละทั่น จะออกแรงฮึด แรงยื้อ กันในระดับไหนก็ตาม โอกาสที่จะชนะรวด หรือคว้าแชมป์ติดไม้ ติดมือ คราวแล้ว คราวเล่า คงยากที่จะเป็นไปได้ง่ายๆ ทำไงได้...ในเมื่อรายอื่นๆ ดัน ติดเชื้อ หรืออยู่ในข่ายต้องสงสัยว่าติดเชื้อ จนมองไม่เห็นตัว หรือยากที่จะเห็นตัว ว่าอะไรที่จะมีประสิทธิภาพ มีคุณภาพ มากเกินไปกว่านี้...
---------------------------------------------------
การคิดจะไป เปลี่ยนตัว ในขณะที่ยังมองไม่เห็นตัว หรือยากจะเห็นตัว มันเลยออกจะเป็นอะไรที่ลำบาก ยากเย็น อยู่พอสมควร เผลอๆ...กลับกลายเป็นตัวสร้างความสับสน ระส่ำระสาย หรืออาจนำไปสู่ความชุลมุน วุ่นวาย ขณะที่ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนแต่ต้องอาศัยความ รู้-รัก-สามัคคี แต่เพียงเท่านั้น ถึงพอจะเป็นทางออก ทางไป หรือ ทางรอด ได้มั่ง การดุ ด่า ว่ากล่าวนายกรัฐมนตรีในช่วงนี้ แม้จะเป็นอะไรที่ออกไปทาง พูดอีก-ก็ถูกอีก แต่โดยกระบวนการ โดยขั้นตอน ที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนตัว เปลี่ยนม้ากลางลำธารนั้น ต้องยอมรับว่า...ออกจะยากซ์ซ์ซ์ แสนยากซ์ซ์ซ์ ต้องผ่านด่าน ผ่านปัญหา-อุปสรรค อีกเยอะแยะมากมาย โดยแต่ละเรื่อง แต่ละกรณี อาจนำมาซึ่งความสับสน ระส่ำระสาย ไปจนถึงความชุลมุน วุ่นวาย ได้ด้วยกันทั้งสิ้น...
-----------------------------------------------------
ดังนั้น...ภายใต้สภาพเช่นนี้ ไม่ว่าแพ้-ไม่ว่าชนะ คงหนีไม่พ้นต้อง เชียร์ทีมชาติไทย เอาไว้ก่อนนั่นแหละดี เพราะโดย เงื่อนไข และ เหตุปัจจัย ต่างๆ นานา ที่มันยากจะประเมิน หรือยากที่จะคาดการณ์เอาไว้ก่อนล่วงหน้า แต่กลับระดมสาดซัดเข้าใส่แต่ละประเทศในแทบทุกทิศ ทุกทาง มันคงต้องอาศัย มือวาง ในระดับ สี จิ้นผิง หรือ วลาดิมีร์ ปูติน โน่นเลย ถึงจะสามารถคว้าแชมป์ หรือแชมป์ชิงแชมป์ กันได้แบบถนัดถนี่ แต่ในเมื่อบ้านเรายังเหลือเพียงแค่ บิ๊กตู่ ติดประเทศ ติดปลายนวม อยู่แต่เพียงเท่านั้น นอกนั้น...ดันติดเชื้อโควิดกันไปเป็นแถบๆ หรือถึงไม่ติดเชื้อ...แต่โดยความมั่นใจ เชื่อใจ คงหนีไม่พ้นต้องรอเวลา กักตัว เอาไว้ไม่น้อยกว่า 14 วัน แล้วถ้ายังมัวแต่รอไป รอมา ก็มีแต่ ตาย...กับ...ตาย กันพอดี...
------------------------------------------------------
ด้วยเหตุนี้ก็เอาเถอะ...ไหนๆ ก็ไหนๆ ในเมื่อ อยู่ยาวว์ว์ว์ คาราคาซังมาได้ถึง 7 ปี 8 ปี ปล่อยให้อยู่ต่อไปอีกซักหน่อย หรืออีกซักพักใหญ่ๆ ถือซะว่าเป็นการฝึกความอดทน อดกลั้น เป็นบทเรียน บททดสอบ ในเรื่อง ขันติธรรม ของสังคมทั้งสังคม หรือของ ปวงชนชาวไทย (อันเป็นผู้ที่สมควรจะ ถูกปฏิรูป มากที่สุด) น่าจะเหมาะกว่าเป็นไหนๆ ดีกว่าการไปริเริ่ม สร้างสรรค์ ในสิ่งที่อาจได้ผลลัพธ์ออกมาในทาง ทำลาย หรืออาจนำไปสู่ความ ฉิบหาย...กับ...ฉิบหาย ยิ่งขึ้นไปใหญ่ เพราะอย่างที่ว่าเอาไว้แล้วนั่นแหละว่า...สิ่งที่พอจะช่วยให้เกิดทางออก ทางไป และทางรอด สำหรับประเทศไทยแลนด์ แดนสยาม ของหมู่เฮาทั้งหลาย นับจากนี้ไปจนถึงอนาคตเบื้องหน้า ก็มีแค่เพียงความ รู้-รัก-สามัคคี ลูกเดียวเท่านั้นเอง...
------------------------------------------------------
แต่ก็อย่างว่า...ปัญหา ในการนำมาซึ่งความ รู้-รัก-สามัคคี มันก็ไม่ใช่เรื่องที่จะแก้กันได้ง่ายๆ คืออย่างน้อย...ต้องเริ่มต้นด้วย ความรู้ อันเป็นสิ่งที่นับวันจะขาดหายไปจากแทบทุกแวดวงเอาเลยก็ว่าได้ หรือหนักไปทาง...รู้ทุกอย่างแต่ไม่รู้อยู่อย่างเดียว คือไม่รู้ตัวเอง ไม่ก็หนักไปทางรู้ท่วมหัว-แต่เอาตัวไม่รอด ด้วย ความไม่รู้ หรือด้วย อวิชชา นี่แหละเป็นเหตุ ความโกรธ เกลียด เคียดแค้น อาฆาตพยาบาท ริษยาและชิงชัง มันเลยเข้ามาแทนที่ ความรัก อย่างมิอาจปฏิเสธได้เลย ด้วยเหตุนี้...จึงไม่ถึงกับเป็นเรื่องแปลก ที่ความ สามัคคี จึงเป็นอะไรที่หายาก หาเย็น ยิ่งกว่าหาหนวดเต่า-เขากระต่าย ไม่รู้กี่สิบ-กี่ร้อยเท่า แต่ก็นั่นแหละ...สุดท้ายแล้ว โดยความเป็นไปตาม ธรรมชาติ เมื่อถึงจุด ถึงจังหวะ ถึงโอกาส ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมหนีไม่พ้นต้องเป็นไปตาม กฎเหล็กแห่งธรรมชาติ อันว่าด้วย ด้วยเหตุเพราะสิ่งนี้-สิ่งนี้...สิ่งนี้จึงเป็นไป จนได้นั่นแล...
--------------------------------------------------
ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้จาก Ronald Steel...“Heroes come along when you need them. - วีรบุรุษจะปรากฏตัวเมื่อถึงคราคับขัน...”.
-----------------------------------------------------
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |