สศอ.โชว์ผลงานขับเคลื่อนกลุ่มเอส-เคิร์ฟคืบลุยสร้างไทยเป็นฮับระบบอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ


เพิ่มเพื่อน    

26 พ.ค.2564 นายทองชัย ชวลิตพิเชฐ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า ในรอบ 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2564 สศอ. มีผลการดำเนินงานที่สำคัญตามกรอบนโยบายในแต่ละด้านทั้งในระดับมหภาคและรายสาขา โดยด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมศักยภาพ (เอส-เคิร์ฟ) ยานยนต์สมัยใหม่ สศอ. ได้ออกประกาศกำหนดกระบวนการผลิตที่เป็นสาระสำคัญของของในเขตปลอดอากรหรือเขตประกอบเสรี ฉบับที่ 2 เพื่อบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งเสริม  ให้เกิดการลงทุนที่ใช้เทคโนโลยีเข้มข้นในการผลิตสินค้าเพื่อการส่งออกหรือขายในประเทศ และฉบับที่ 4 เพื่อส่งเสริมให้เกิดการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศ  

ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และแผนพัฒนาอุตสาหกรรมอนาคตของกระทรวงอุตสาหกรรม สำหรับอุตสาหกรรมอนาคต (นิว เอส-เคิร์ฟ) สศอ. ได้ดำเนินการขับเคลื่อนการพัฒนาอุตสาหกรรมหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ คืบหน้าตามลำดับ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินมาตรการต่าง ๆ  ตามโรดแมปที่จะให้ประเทศไทยมีเทคโนโลยีเป็นของตัวเอง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เป็นผู้นำในการผลิตและการใช้หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติในภูมิภาคอาเซียนในส่วนของอุตสาหกรรมเชื้อเพลิงชีวภาพและเคมีชีวภาพ  

ขณะที่ในส่วนของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะได้จัดทำแผนปฏิบัติการพัฒนาอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ระยะที่ 1 (พ.ศ. 2564 - 2570) เพื่อสร้างและพัฒนาอีโค ซิสเต็มให้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตอุปกรณ์และระบบอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะในอาเซียน ซึ่งคาดว่าจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ภายในปี 64 และสำหรับอุตสาหกรรมเครื่องจักรกลและเครื่องจักรกลการเกษตร สศอ. อยู่ระหว่างจัดทำแผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมเครื่องจักรกลไทย ระยะที่ 1 (พ.ศ. 2565 - 2570) เพื่อยกระดับผู้ประกอบการให้มีศักยภาพในการผลิตที่สูงขึ้น เพิ่มความสะดวกให้แก่เกษตรกรผู้ใช้งาน รวมถึงลดการนำเข้าจากต่างประเทศ โดยทั้ง 2 แผนปฏิบัติการอยู่ระหว่างนำเสนอ ครม. ภายในปีนี้เช่นเดียวกัน 

“เพื่อให้การพัฒนาอุตสาหกรรมเกิดการเชื่อมโยงขับเคลื่อนอย่างเป็นระบบ สศอ. ในฐานะหน่วยงานเจ้าภาพจัดทำแผนงานบูรณาการพัฒนาอุตสาหกรรมและบริการแห่งอนาคตร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายเพื่อให้อัตราการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 3.8% และผลิตภาพการผลิตของภาคอุตสาหกรรมเติบโตเพิ่มขึ้น 1.0% โดยในปีงบประมาณ 2565 ได้จัดส่งคำของบประมาณให้สำนักงบประมาณพิจารณาในกรอบวงเงิน 873.0646 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะเข้าสู่วาระการพิจารณาร่าง พรบ. ในปลายเดือนพ.ค. 64 นี้”นายทองชัย กล่าว 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"