“หมอธี” ฉุน!ประกาศ 5 มิ.ย.อาจมีการดำเนินการผู้บริหารสพฐ.อย่างใดอย่างหนึ่ง เผยสั่งไปหลายเรื่องแต่นิ่ง ไม่ปฎิบัติตาม เคยให้ตรวจสอบ โครงการการจัดซื้อครุภัณฑ์พัฒนาทักษะชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ที่ถูกร้องเรียนแต่กลับมีการเซ็นโอนงบฯไปให้เขตพื้นที่อีก
นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวว่า ตนได้หารือกับพล.ท.โกศล ประทุมชาติ ที่ปรึกษา รมว.ศธ.เพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องทุจริตต่างๆ ที่พบใน 11 จังหวัดภาคอีสาน และได้มอบหมายให้พล.ท.โกศลรวบรวมข้อมูลทั้งหมด โดยเฉพาะประเด็นที่มีการร้องเรียนและพบว่ามีข้อมูลชัดเจน เช่น กรณีที่พ่อค้าให้ข้อมูลว่ามีการล็อกสเปก เป็นต้น เพื่อที่จะใช้ข้อมูลดังกล่าวในการดำเนินการกับบุคคลที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องต่างๆ อีกทั้งในประเด็นการการจัดซื้อครุภัณฑ์พัฒนาทักษะชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ชุดอุตสาหกรรม ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ที่ตนได้รับรายงานว่ามีการเซ็นต์โอนงบประมาณรวม 279 ล้านบาท ไปให้เขตพื้นที่การศึกษา ทั้งที่ตนพึ่งมากออกมาเปิดเผยถึงความไม่ชอบมาพากลในการดำเนินการโครงการนี้ และ สพฐ.น่าจะชะลอเรื่องนี้ เพื่อดำเนินการตรวจสอบให้เกิดความกระจ่าง แต่กับเร่งรัดดำเนินการ ซึ่งสวนทางกับนโยบายของตน และตนได้ขอให้มีการระงับการดำเนินการดังกล่าวไว้แล้ว อย่างไรก็ตาม ตนมีข้อมูลที่ได้รับการร้องเรียนในโครงการดังกล่าวจำนวนมาก แต่ขอไม่เปิดเผยข้อมูลมากไปกว่านี้ เนื่องจากกังวลว่าผู้ที่เกี่ยวข้องจะไหวตัวทัน นอกจากนี้ ตนยังได้รับการร้องเรียนจากข้าราชการครูหญิงรายหนึ่ง ว่าถูกผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาส่งความทางแอพพลิเคชั่นไลน์ ส่อไปในทางชู้สาว ซึ่งได้มอบให้พล.ท.โกศล ไปตรวจเรื่องนี้แล้ว
“ผมไม่เข้าใจว่าหลายเรื่องที่ได้มอบให้ สพฐ.ไปดำเนินการ พบว่าหลายเรื่องกลับนิ่งไม่มีการดำเนินการใดๆ เพราะที่ผ่านมาแต่ละรัฐบาลก็มีแนวทางและวิธีการปฏิบัติที่แนะนำว่าหากมีข้อมูลความผิดที่ชัดเจนก็สามารถดำเนินการสอบวินัยได้ทันที แต่หลายเรื่องที่ที่ปรึกษา รมว.ศธ. ได้ตรวจสอบแล้ว พบว่ามีมูลและมอบหมายให้ สพฐ.ไปดำเนินการกับผู้ที่เกี่ยวข้อง แต่เรื่องก็เงียบหายไม่มีการดำเนินการใดๆ ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ ในวันอังคารที่ 5 มิถุนายนนี้ ผมอาจจะต้องมีการพิจารณาดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดกับผู้บริหารของ สพฐ.ก็ได้”รมว.ศธ.กล่าว
ด้านพล.ท.โกศล กล่าวว่า นพ.ธีระเกียรติ ได้เรียกนายณรงค์ แผ้วพลสง รองเลขาฯ กพฐ. มาชี้แจงกรณีที่มีการเซ็นต์อนุมัติงบประมาณในโครงการจัดซื้อครุภัณฑ์พัฒนาทักษะ ม.ต้น ชุดอุตสาหกรรมให้เขตพื้นที่การศึกษาแล้ว ซึ่งนายณรงค์ได้ชี้แจงว่า สาเหตุที่ต้องเซ็นต์โอนเงินไปให้เขตฯ ทันที เนื่องจากหากมีการเดินหน้าโครงการดังกล่าว จะสามารถดำเนินการได้ทันทีไม่ล่าช้า แต่ รมว.ศธ.เห็นว่า เรื่องดังกล่าวถือว่าขัดกับนโยบายที่ต้องการให้มีการตรวจสอบเรื่องนี้ในกระจ่างก่อน ดังนั้นตนจึงเสนอให้มีการตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงกรณีการจัดซื้อครุภัณฑ์พัฒนาทักษะ ม.ต้น ชุดอุตสาหกรรม สำหรับสาเหตุที่ต้องตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงอีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากผู้ที่เกี่ยวข้องบางรายเป็นข้าราชการพลเรือน ดังนั้นจึงต้องมีการสืบสวนหาข้อมูลให้ชัดเจน โดยจะมีการสืบตั้งแต่นายณรงค์ จนถึงข้าราชการรายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ส่วนกรณีการร้องเรียนผอ.เขตพื้นที่ ใช้แอพพลิเคชั่นไลน์ ส่งข้อความถึงข้าราชการครูในเชิงชู้สาวนั้น ตนได้ตรวจสอบข้อมูลในเบื้องต้นแล้ว พร้อมมอบให้ผู้ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ตรวจสอบข้อมูลในเชิงลึกและรายงานให้ตนทราบโดยเร็วที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เขตพื้นที่การศึกษาจังหวัดยโสธร ได้มีการจัดซื้อครุภัณฑ์ทักษะมัธยมศึกษาตอนต้นชุด อุตสาหกรรม แต่มีความไม่ชอบมาพากล เพราะเป็นไปในลักษณะท็อปดาวน์ โดยแต่ละโรงเรียนจะได้งบฯจัดซื้อแห่งละ 600,000 บาท มีโรงเรียนได้รับการจัดสรรรวม 458 โรง เป็นงบประมาณทั้งสิ้น จำนวน 279 ล้านบาท แต่ภายหลังเมื่ออนุมัติงบฯพบว่า มีการเพิ่มโรงเรียนการขอจัดสรรงบฯจัดซื้อเป็น 600 โรง ซึ่งไม่ตรงกับตัวเลขโรงเรียนที่จัดสรรไป อีกทั้งยังพบว่าโรงเรียนไม่ได้ต้องการครุภัณฑ์ดังกล่าวแต่เขตพื้นที่มีการจัดสรรมาให้เอง และโรงเรียนบางแห่งเสนอครุภัณฑ์มาให้ แต่กลับได้ไม่ตรงที่ต้องการ ทำให้ต้องมีการจัดซื้อจัดจ้างใหม่
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |