26 พ.ค.2564 - ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒน บริหารศาสตร์ (NIDA) โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ผมรู้สึกเป็นห่วงและเห็นอกเห็นใจเจ้าหน้าที่ของนิด้ามาก ที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในขณะที่มหาวิทยาลัยอื่นๆ เช่น จุฬา ธรรมศาสตร์ ลาดกระบัง บูรพา ได้ฉีดวัคซีนแล้วทั้งอาจารย์และเจ้าหน้าที่ อาจจะเพราะมีคณะแพทยศาสตร์ แต่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ แม้จะไม่มีคณะแพทยศาสตร์ อาจารย์และเจ้าหน้าที่ก็ได้รับการฉีดวัคซีนไปแล้วบ้างเช่นเดียวกัน

ที่เป็นห่วงเจ้าหน้าที่ของนิด้ามาก แต่ไม่ห่วงอาจารย์หรือผู้บริหารมากนัก เพราะเหตุผลดังนี้

ประการแรก เจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่ยังต้องเดินทางไปทำงาน อาจจะสลับหยุดบ้าง แต่อาจารย์นิด้าสามารถสอนออนไลน์และประชุมออนไลน์ได้แทบจะ 100%

ประการสอง การที่เจ้าหน้าที่และบุคลากรหรือของอาจารย์มหาวิทยาลัยอื่น ได้ฉีดวัคซีนแล้ว แต่ของนิด้า ต้องรอคิวไปจนถึงกลางเดือนกรกฎาคม ทำให้เจ้าหน้าที่นิด้า เสียขวัญกำลังใจกันมากเหลือเกิน ทุกคนต่างก็รักชีวิตตัวเองทั้งนั้น และก็คงอดที่จะเปรียบเทียบกันไม่ได้ โดยเฉพาะเปรียบเทียบตนเองกับคนอื่นๆ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยอื่นที่ได้ฉีดวัคซีนไปก่อนแล้ว เรื่องนี้ก็เป็นไปตามทฤษฎีจิตวิทยาที่ชื่อ Equity theory ซึ่งใช้ศึกษากันแพร่หลายในการอธิบายเรื่อง organizational justice ในวิชาพฤติกรรมองค์การ

ประการสาม ผมไม่ห่วงอาจารย์นิด้ามากนัก เพราะอาจารย์นิด้า ส่วนใหญ่รู้จักนักการเมืองดี เพราะไปร่วมกิจกรรม proud talk นอกจากนี้อาจารย์หลายท่านก็มี connection ดี หรือไปทำงานให้กับหน่วยราชการภายนอกกันเยอะ เท่าที่สอบถามก็ได้ฉีดวัคซีนกันไปเยอะแล้วพอสมควร และหลายคนก็ขวนขวายจนใช้สิทธิตามปกติ เช่น กลุ่มเสี่ยง หรืออยู่อาศัยในพื้นที่คลัสเตอร์ที่มีการระบาดหนัก 

แม้กระทั่งตัวผมเองก็ได้โอกาสดีที่ได้ไปทำงานให้หน่วยราชการอื่นๆ และได้โอกาสในการฉีดวัคซีน ซึ่งผมสำนึกในบุญคุณของแผ่นดิน และพยายามชี้แจงเขียนบทความเกี่ยวกับความเข้าใจผิดเรื่องวัคซีน และพยายามเชิญชวนให้คนไทยออกไปฉีดวัคซีนให้ได้มากที่สุด

ประการที่สี่ ผมเป็นห่วงเจ้าหน้าที่ เพราะผมทราบว่าเจ้าหน้าที่นิด้า ไม่ได้มี connection ไม่ได้ไปช่วยงานหน่วยราชการ หรือไม่ได้มีสายสัมพันธ์กับนักการเมืองเท่าไหร่นัก และหลายคนก็อยากที่จะฉีดวัคซีนให้เร็วที่สุด เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง เจ้าหน้าที่นิด้าเป็นคนฉลาด ไม่ได้เชื่อเรื่องข่าวลือกันเท่าไหร่ ส่วนใหญ่จะเชื่อหมอไม่เชื่อหมา เมื่อยังไม่ได้ฉีดวัคซีนก็อาจจะกังวล และผมได้ยินเสียงเจ้าหน้าที่บ่นและแสดงความกังวลใจกันมาก 
ประการที่ห้า นิด้า อยู่ใกล้ตลาดบางกะปิที่มีคลัสเตอร์ระบาดหนัก นอกจากนี้ยังเริ่มมีนักศึกษาที่ติดเชื้อโควิดมากขึ้น หลายคนต้องมาขอเลื่อนสอบเพราะต้องไปกักตัวที่โรงพยาบาลสนาม เจ้าหน้าที่ต้องจัดสอบและติดต่อนักศึกษา มีความเสี่ยงค่อนข้างมาก โดยเฉพาะนักวิชาการการศึกษา ฝ่ายทะเบียน เหล่านี้เป็นต้น

ผมขอแสดงความห่วงใยต่อเจ้าหน้าที่นิด้าทุกคน และหวังว่ากำหนดการฉีดวัคซีนของนิด้า น่าจะเร็วขึ้น และไม่ล่าช้าไปจนถึงกลางเดือนกรกฎาคมอย่างที่ผมได้ยินเจ้าหน้าที่นิด้าแสดงความกังวลกันค่อนข้างมากเหลือเกิน