ในช่วงเศรษฐกิจซบเซาอาจเป็นวิกฤติฉุดรายรับหลายๆ ธุรกิจ แต่ในทางกลับกันก็ไม่ได้ปิดกั้นโอกาสสำหรับผู้ประกอบการที่มีศักยภาพสามารถเติบโตสวนกระแสได้ เพียงแต่การทำตลาดกระตุ้นยอดขายให้สำเร็จ จะต้องอาศัยความเข้าใจลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย และเรียนรู้ที่จะใช้กลยุทธ์การขายในรูปแบบออนไลน์ให้ถูกวิธี โดยเฉพาะเคล็ดลับและเครื่องมือในการซื้อและยิงโฆษณาที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด จึงมีข้อแนะนำดีๆ จากรายการ SME Biz Talk ซีซั่น 2 ที่จัดขึ้นโดย LINE for Business นับเป็นการชี้ช่องทางให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยสามารถนำดิจิทัลไปประยุกต์ใช้กับธุรกิจของตัวเองได้ทันที

             อย่างแรกเลยต้องบอกว่าการสร้างแบรนด์ยังคงมีความสำคัญสำหรับเอสเอ็มอีเสมอในทุกสถานการณ์ เพราะแบรนด์ที่มีจุดขายชัดเจนและสามารถเล่าเรื่องหรือสื่อสารตัวตนออกไปได้ คือสิ่งที่จะสะท้อนให้ลูกค้ารู้จักสินค้าและบริการ เกิดการตัดสินใจได้ง่าย เพราะคนจะเชื่อมั่นสินค้าที่มีแบรนด์มากกว่า และแบรนด์ที่ดีจะได้รับการสนับสนุนจากลูกค้าในการซื้อซ้ำ ลูกค้ารู้สึกภาคภูมิใจที่ใช้แบรนด์ และที่สำคัญเมื่อลูกค้ารักแบรนด์ ก็จะมีอิสระในการตั้งราคาอีกด้วย

            แต่ขณะเดียวกันเมื่อทุกคนต่างเดินหน้าแข่งกันสร้างแบรนด์ จึงเกิดคำถามตามมาว่าแล้วจะทำให้แบรนด์ของเราโดดเด่นขึ้นมาได้อย่างไร ในเรื่องนี้ “บังอร สุวรรณมงคล” กรรมการผู้จัดการและผู้ก่อตั้ง บริษัทที่ปรึกษาด้านการตลาด Hummingbirds Research & Marketing Consultant  ระบุว่า ต้องเข้าใจความต้องการลูกค้าว่ากลุ่มเป้าหมายต้องการอะไร แล้วทำให้สินค้านั้นช่วยแก้ปัญหา หรือเติมเต็มสิ่งที่ลูกค้ายังไม่เคยได้รับ พร้อมสร้างคุณค่าใหม่ๆ ให้กับสินค้าหรือบริการด้วยเรื่องราวที่โดดเด่น น่าสนใจ ไม่ซ้ำกับสิ่งที่มีอยู่แล้วในตลาด ต่อมาคือรู้จักวิเคราะห์คู่แข่งให้เป็น อาจต้องเข้าไปติดตาม ลองซื้อสินค้าของแบรนด์อื่นๆ เพื่อศึกษาประสบการณ์จากแบรนด์เหล่านั้น สุดท้ายคือการนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์จุดอ่อนและจุดแข็งของแบรนด์ตัวเอง เพื่อวางกลยุทธ์ให้แบรนด์แตกต่างและโดดเด่นกว่าแบรนด์อื่นๆ

            มาดูตัวอย่างจากแบรนด์ Floyee ที่เลือกเปิดหน้าร้านออนไลน์บนไลน์ เพื่อขายผลิตภัณฑ์ทำเล็บ ซึ่งแบรนด์เข้าใจลูกค้าถึงความกังวลในการเข้าร้านทำเล็บในช่วงโควิด เลยนิยามตัวเองให้เข้ากับสถานการณ์ว่า “ทุกคนสามารถทำเล็บสวยที่บ้านได้เหมือนทำที่ร้าน” และใช้ศักยภาพของไลน์มาสนับสนุนจุดแข็ง เช่น การสร้างเซตสินค้าครบพร้อมใช้สำหรับทำเองที่บ้านเป็นตัวกระตุ้นให้ซื้อง่าย และการทำคอนเทนต์ How-to ลงไปในช่องทางดังกล่าว เพื่อให้ลูกค้าเข้ามารู้วิธีทำเล็บด้วยตัวเองแบบมืออาชีพ 

            ขณะที่แบรนด์ Dairy Home Delivery ก็สามารถสื่อตัวตนของแบรนด์คือสินค้าออร์แกนิกได้อย่างชัดเจนในทุกจุดสัมผัส ด้วยการแนะนำ ย้ำถึงตัวตนของแบรนด์ตั้งแต่วินาทีแรก คือตรงสเตสัสใต้ชื่อแบรนด์ในไลน์ ตลอดจนใส่ความเป็นแบรนด์ลงไปที่ข้อความทักทายลูกค้า สร้างพื้นที่บอกเล่าเรื่องราวของแบรนด์ให้ลูกค้ารับรู้ได้อย่างชัดเจน ซึ่งการสร้างประสบการณ์ดังกล่าวอาจถูกมองว่าเป็นจุดเล็กน้อย แต่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีก็ไม่ควรละเลย เพราะสิ่งเหล่านี้ล้วนส่งผลอย่างมากต่อการทำให้ลูกค้าสนใจ และตัดสินใจแอดไลน์เพื่อทำการซื้อขายและพร้อมเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของแบรนด์ในที่สุด

            ขณะเดียวกันยังมีกรณีศึกษาของแบรนด์ Yenly Yours แบรนด์มะม่วงปั่นสัญชาติไทยที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ดำเนินธุรกิจมานานกว่า 12 ปี ขยายสาขาไปกว่า 16 สาขา และในอีก 3 ประเทศ ยังได้บอกเล่าถึงความสำเร็จจากการใช้เครื่องมือของไลน์ เพื่อหาทางรอดให้ธุรกิจยังคงเติบโตในช่วงที่กลุ่มเป้าหมายนักท่องเที่ยวต่างชาติซบเซา โดยผู้ก่อตั้งอย่าง กัญญารัตน์ วัชสิริเสรี ระบุว่า การหันมาโฟกัสที่ช่องทางออนไลน์ โดยเฉพาะการเลือกใช้ไลน์เป็นช่องทางสื่อสารกับลูกค้าที่เร็วและตรงกลุ่มเป้าหมาย เพิ่มยอดขายได้จริง

            นอกจากการสร้างแบรนด์และการใช้เครื่องมือ ฟีเจอร์ต่างๆ แล้ว เจ้าของธุรกิจยังจำเป็นต้องเรียนรู้วิธีใช้เครื่องมือโฆษณาแบรนด์เพื่อช่วยกระตุ้นยอดขาย และยิงตรงถึงใจลูกค้าด้วย โดยในส่วนของไลน์นอกจากโฆษณาเพื่อเพิ่มเพื่อนแล้ว การซื้อโฆษณาเพื่อให้ลูกค้าเข้าชมเว็บไซต์ก็เป็นอีกหนึ่งวัตถุประสงค์ที่สร้างยอดขายได้เป็นอย่างดีด้วยเช่นกัน โดยผู้ประกอบการสามารถเลือกลงโฆษณารูปแบบนี้เพื่อเพิ่มการรับรู้ต่อแบรนด์ สร้างฐานลูกค้าใหม่ และเพื่อชวนลูกค้าเก่ากลับมาซื้อซ้ำ ควบคู่กันได้อีกด้วย อีกทั้งแบรนด์ยังสามารถต่อยอดด้วยการใช้ฟีเจอร์บัตรสะสมแต้มให้ลูกค้าเข้ามาอุดหนุนอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน.