ส.ส.ผวาโควิดบุกสภา แคมป์ก่อสร้างติดเชื้อ519ราย/เดินหน้าเปิดประชุมเชื่อคุมอยู่


เพิ่มเพื่อน    

 ไทยติดเชื้อรายใหม่ 2,713 ราย ดับ 30 ราย มีคนแก่อายุ 105 ปี กทม.เจอ 2 คลัสเตอร์ใหม่ "โรงงานเย็บผ้าทุ่งครุ-บ้านบางแค" ส.ส.ผวาสภาวุ่น! แคมป์ก่อสร้างรัฐสภาใหม่ติดโควิด 519 คน ที่ปรึกษา "ชวน" ยันเดินหน้าเปิดประชุมพฤหัสฯ นี้ ยันมาตรการคุมอยู่ เหตุคนงานไม่ได้เข้าภายในอาคาร “บิ๊กป้อม” อุดรูรั่วชายแดน ไล่บี้ มท.-แรงงาน-ผวจ.สกัดต่างด้าวตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง งัด กม.เอาผิดขั้นเด็ดขาด

    ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม เวลา 12.30  น. พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา  2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์ประจำวันว่า  พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,713 ราย แบ่งเป็นการติดเชื้อในประเทศ 2,458 ราย โดยมาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 1,147 ราย มาจากการค้นหาเชิงรุก 1,311 ราย เป็นผู้ติดเชื้อในเรือนจำ 206 ราย และเป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 49 ราย ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 132,213 ราย  หายป่วยสะสม 86,100 ราย อยู่ระหว่างรักษา 45,307 ราย  อาการหนัก 1,169 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 406 ราย มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม 30 ราย เป็นชาย 20 ราย หญิง  10 ราย อายุน้อยสุด 28 ปี อายุมากสุด 105 ปี อยู่ใน กทม.  11 ราย นครราชสีมา, ราชบุรี จังหวัดละ 3 ราย สมุทรสาคร,  สมุทรปราการ จังหวัดละ 2 ราย ปทุมธานี, สกลนคร, ตาก,  พระนครศรีอยุธยา, เชียงราย, สุรินทร์, ชัยภูมิ, นนทบุรี,  ชัยนาท จังหวัดละ 1 ราย ทำให้มียอดผู้เสียชีวิตสะสม 806  ราย
    สำหรับผู้ติดเชื้อที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 49 ราย  ในจำนวนนี้พบว่ามาจากกัมพูชา 41 ราย โดยมี 2 รายที่ลักลอบเข้าเมืองผ่านช่องทางธรรมชาติ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นนักพนันออนไลน์ ทั้งนี้ ข้อมูลลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีถึง 105 ราย จากลาว 5 ราย  กัมพูชา 8 ราย เมียนมา 57 ราย จึงขอความร่วมมือฝ่ายปกครองและจังหวัดต้องกำกับ ติดตามการลักลอบเข้าประเทศตามแนวชายแดนตั้งแต่ต้นทางยันปลายทาง หากพบว่าโรงงานใด บริษัทจัดหางานใด หรือใครที่ให้ความช่วยเหลือในการลักลอบเข้าเมืองถือเป็นความผิด จะลงโทษให้เหมาะสม
    อย่างไรก็ตาม สำหรับ 5 จังหวัดที่มีตัวเลขผู้ติดเชื้อสูงสุด ได้แก่ กทม. 951 ราย เพชรบุรี 669 ราย สมุทรปราการ  180 ราย ชลบุรี 106 ราย นนทบุรี 92 ราย โดย จ.เพชรบุรี มียอดผู้ติดเชื้อสะสมในระลอกนี้แล้ว 2,996 ราย แต่วันเดียวกันพบว่ามี 27 จังหวัดที่ไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ และมี  28 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ไม่เกิน 10 ราย สรุปแล้วมีถึง 55 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ไม่เกิน 10 ราย
    พญ.อภิสมัยกล่าวว่า พื้นที่ กทม.ขณะนี้มีคลัสเตอร์ที่เฝ้าระวัง 35 คลัสเตอร์ มีคลัสเตอร์ใหม่ 2 คลัสเตอร์ คือโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าเขตทุ่งครุ มียอดผู้ติดเชื้อ 29 ราย และสถานดูแลผู้สูงอายุเอกชน 3 แห่งในเขตบางแค มีผู้ติดเชื้อแล้ว 23 ราย ซึ่งติดเชื้อจากผู้ดูแล 3 ราย โดยที่ประชุม  ศบค.ชุดเล็กเน้นย้ำไปยังผู้ประกอบการให้กำหนดมาตรการองค์กรให้เข้มข้นขึ้น และรีบทบทวนมาตรการอย่างเร่งด่วน  ขณะที่ศูนย์บริหารจัดการข้อมูล-ส่งต่อผู้ป่วยที่ดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน มีข้อมูลว่ามีการจัดเตียงไปแล้วกว่า 25,000 ราย  แต่พบว่ายังมีการปฏิเสธเตียงอยู่ ข้อมูลล่าสุดมีผู้ป่วยอาการสีเหลืองปฏิเสธเตียง 14 ราย สีเขียวปฏิเสธเตียง 31 ราย  และยังติดต่อไม่ได้อีก 46 ราย โดย 25% ของผู้ป่วยสีเขียวอาการอาจพัฒนากลายเป็นสีเหลืองได้ ดังนั้นผู้ที่ไม่มีอาการไม่ใช่ว่าจะปลอดภัย
    ส่วนสาเหตุของการปฏิเสธเตียงนั้น ส่วนหนึ่งพบว่าเป็นผู้สูงอายุที่กลัวการไปอยู่โรงพยาบาลแล้วไม่มีคนดูแล และผู้ป่วยที่คนในครอบครัวอยู่ระหว่างรอผลตรวจ จะรอการจัดการเตียงเพื่อให้ได้อยู่ร่วมกัน จากนั้นจึงจะมีมาตรการติดตามผู้ป่วยระหว่างรอเตียงเผื่อว่าจะเปลี่ยนใจ โดยกรมการแพทย์ กรมควบคุมโรค จะมีมาตรการและเงื่อนไขออกมาในสัปดาห์นี้ ยืนยันว่าเราไม่สนับสนุนการดูแลตัวเองที่บ้าน เพราะบุคคลเหล่านี้อาจมีอาการทรุดลง  หรืออาจแพร่เชื้อให้คนในครอบครัวและคนในชุมชนได้
นัดถก 134 บริษัทก่อสร้าง
    ผู้ช่วยโฆษก ศบค.กล่าวว่า ในที่ประชุม ศบค.ชุดเล็ก  สำนักงานโยธาธิการของกรุงเทพมหานครรายงานว่า ได้ดำเนินการขอความร่วมมือส่งเอกสารไปยังบริษัทก่อสร้างที่ขึ้นทะเบียนกับสำนักงานโยธาธิการรวม 134 ราย เพื่อขอเชิญประชุมหารือร่วมกันถึงมาตรการดูแลแคมป์คนงาน รวมถึงขอเน้นย้ำเรื่องการตรวจตรา ว่าหากเข้าไปตรวจแล้วพบพฤติกรรม พฤติการณ์ ที่แคมป์คนงานไหน ของบริษัทใด ที่ยังไม่สามารถจัดการมาตรการได้อย่างถูกต้อง สำนักงานเขตจะมีอำนาจในการสั่งปิด นอกจากนี้มีกรณีประชาชนรายงานเข้ามายัง ศบค.ว่า แคมป์คนงานบางแห่งที่มีการระบาดนั้น ยังมีการเดินออกมานอกแคมป์เพื่อซื้อหาอาหารหรือเครื่องใช้อยู่ สำนักงานเขตจึงเน้นย้ำไปที่บริษัทว่าจำเป็นจะต้องมีการจัดอาหาร หรือเครื่องอุปโภคบริโภคให้คนงานอยู่ให้ได้  รวมไปถึงการจัดการสถานที่ การดูแลความสะอาด ซึ่งกรมการแพทย์ สำนักอนามัย กรมควบคุมโรคกำลังหารือกัน  เพราะมีรายละเอียดที่จะต้องกำหนดเป็นมาตรฐาน เพื่อให้มีความมั่นใจได้ว่าประชาชนเหล่านั้นจะได้รับการดูแลรักษา มีความปลอดภัย และต้องไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดที่ควบคุมไม่ได้
    ที่ประชุม ศบค.ชุดเล็กได้พูดคุยถึงเรื่องการตั้งศูนย์ควบคุมการแพร่ระบาดใน 50 เขตของ กทม. เพื่อให้ทุกเขตมีการกำหนดเตรียมเฝ้าระวังความพร้อมตลอด 24 ชั่วโมง ทีมนี้เป็นทีมสอบสวนเฉพาะกิจการตรวจหาเชิงรุก โดยได้รับความร่วมมือจากกรมควบคุมโรคที่จัดทีมเป็นพี่เลี้ยงประจำเขต มีที่ลงไปแล้ว เช่น คลองเตย, สีลม, บางรัก, ดินแดง,  ห้วยขวาง, ราชเทวี เพื่อให้ขับเคลื่อนในการป้องกันควบคุมโรคได้โดยเร็วไม่ให้แพร่ไปยังเขตอื่น เน้นการดูแลตลาดขนาดใหญ่ที่มีการค้าส่งค้าขายข้ามจังหวัด กทม.และปริมณฑล จังหวัดที่ยังไม่มีการแพร่ระบาดเป็นกลุ่มก้อน  
    ที่แคมป์คนงานก่อสร้างบริษัท ซิโน-ไทย จำกัด  (มหาชน) ถนนพิบูลสงคราม ต.สวนใหญ่ อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองได้เข้าตรวจสอบแคมป์คนงานก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ภายหลังมีการตรวจคัดกรองเชิงรุกไปเมื่อวันที่ 22  พ.ค.ที่ผ่านมา จำนวน 900 ราย เนื่องจากมี 5 รายที่ติดเชื้อโควิด ปรากฏว่าวันนี้ทราบผลตรวจพบผู้ติดเชื้อถึง 519 ราย  โดยเป็นคนไทย 45 ราย และแรงงานต่างด้าวอีก 474 ราย  ทีมแพทย์จึงคัดแยกผู้ติดเชื้อที่เป็นคนไทยส่งไปโรงพยาบาลสนามของจังหวัดนนทบุรี ส่วนแรงงานต่างด้าวคาดว่าจะใช้พื้นที่แคมป์ตั้งเป็นโรงพยาบาลสนาม เพื่อใช้เป็นสถานที่กักตัวต่อไป สำหรับคนงานที่ยังไม่ติดเชื้ออีก 6 วันจะต้องเข้ารับการตรวจอีกครั้ง ทั้งนี้ นายอำเภอเมืองนนทบุรีได้เสนอจังหวัดออกคำสั่งปิดแคมป์คนงานแห่งนี้เป็นการชั่วคราว
    นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่คนงานก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ติดเชื้อจำนวนมากว่า เท่าที่ได้รับรายงานทราบว่าแรงงานก่อสร้างไม่ได้เข้ามาคลุกคลีหรือเข้ามาภายในอาคารรัฐสภา  ทำงานอยู่ภายนอกพื้นที่รัฐสภา ไม่ทราบว่าบริษัทซิโน-ไทยฯ  ในฐานะผู้ดูแลแรงงานจะดำเนินมาตรการดังกล่าวอย่างไรบ้าง เพราะการบริหารจัดการ อาทิ การเข้าเก็บงาน หรือ การแยกแยะคนงาน ตนไม่ทราบเรื่องดังกล่าว อย่างไรก็ดี เชื่อว่ามาตรการของรัฐสภาที่เข้มงวดตามมาตรการสาธารณสุขนั้น จะทำให้เดินหน้าประชุมได้ไม่มีปัญหาการแพร่เชื้อ
ส.ส.ผวาโควิดบุกสภา!
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สภาผู้แทนราษฎรจะมีการประชุมนัดแรกวันที่ 27-28 พ.ค.เพื่อพิจารณาพระราชกำหนด (พ.ร.ก) จำนวน 2 ฉบับ คือ พ.ร.ก.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ พ.ศ.2564 และ พ.ร.ก.ให้ความช่วยเหลือและฟื้นฟูผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ.2564
    นายอนันต์ ผลอำนวย ส.ส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการกิจการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า เป็นเรื่องอันตรายมากหากจะยังเปิดสภาต่อไป แต่เมื่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรตัดสินใจให้เปิดประชุม และที่ประชุมวิป 3 ฝ่ายได้หารือกำหนดวันอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 ระหว่างวันที่ 31 พ.ค.- 2 มิ.ย.เรียบร้อยแล้ว  ก็ต้องยอมรับการตัดสินใจ คงทำได้แค่ให้เข้มงวดกวดขันการปฏิบัติตามมาตรการทางสาธารณสุขในช่วงเปิดประชุมสภาอย่างเคร่งครัด แต่ดูแล้วน่าเป็นห่วง แม้ขณะนี้จะเหลือคนงานจำนวนไม่มากมาเก็บงานก่อสร้าง 5% ที่เหลือรอบนอก  แต่ไม่รู้ว่าคนงานก่อสร้างเหล่านี้แพร่เชื้อไปถึงไหนแล้ว โดยเฉพาะร้านค้าบริเวณวัดแก้วฟ้าจุฬามณีที่คนงานออกไปซื้อของ รวมถึงยังมีคนงานบางส่วนมาเก็บงานที่เหลือในห้องคณะกรรมาธิการและห้องทำงาน ส.ส.ซึ่งก็ไม่ทราบว่าเอาเชื้อมาแพร่หรือไม่
    น.ส.ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ ส.ส.กทม. (เขตบางซื่อ-ดุสิต) พรรคพลังประชารัฐ กล่าวภายหลังการหารือกับนายดิชา คงศรี ผู้อำนวยการเขตดุสิต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า  ประชาชนในเขตพื้นที่ตนกังวลใจเป็นอย่างมากกับการระบาดของแคมป์คนงานที่มาทำงานรัฐสภา จึงเร่งลงพื้นที่กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เบื้องต้นพบว่ารัฐสภามีคำสั่งให้คนงานก่อสร้างในรัฐสภาทั้งหมดหยุดการดำเนินงานตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ผ่านมา รอจนกว่าจะมีการตรวจคัดกรองคนงานทั้งหมดและมั่นใจในความปลอดภัย เพื่อป้องกันการเกิดคลัสเตอร์ใหม่ ขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงเตรียมเปิดสมัยประชุมสภาวันที่ 27 พ.ค.นี้ และยืนยันได้ว่าไม่มีคนงานเข้ามาในรัฐสภาตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งบริษัทที่รับผิดชอบจะเตรียมคนงานจากแคมป์สวนหลวงมาทำงานแทนแคมป์นนทบุรีที่ตรวจพบผู้ติดเชื้อ 519 ราย อย่างไรก็ตาม หน่วยงานบริษัทรับเหมาเอกชนที่จะนำคนงานเข้าพื้นที่ก่อสร้าง หรือจะมีการขนย้ายคนงานจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง ต้องมีมาตรการตรวจคัดกรองที่เข้มข้นมากขึ้น มีใบรับรองการตรวจว่าไม่พบเชื้อ และต้องมีระบบฐานข้อมูลคนงานที่ชัดเจน ระบุตัวตนได้ทุกแคมป์
    สำหรับการวางแนวทางป้องกันเชิงรุกในเขตดุสิต บริเวณรัฐสภา ในวันที่ 25 พ.ค.นี้ ในฐานะ ส.ส.พื้นที่จะร่วมกับหน่วยงานสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมพื้นที่การตรวจคัดกรองคนงานก่อสร้างรัฐสภาทั้งหมด ซึ่งขณะนี้กำลังประสานขอจำนวนคนงานทั้งหมดเพื่อเข้าสู่ระบบคัดกรอง คาดว่าวันพุธที่ 26 นี้จะสามารถขอนำรถพระราชทานมาเพื่อตรวจคัดกรองที่รัฐสภาได้
    นายวีระกิตติ์ หาญปริพรรณ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์และโฆษกศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กรมราชทัณฑ์ (ศบค.รท.)  เปิดเผยว่า มีผู้ต้องขังติดเชื้อรายใหม่จำนวน 628 ราย รักษาหาย 22 ราย เสียชีวิต 1 ราย ทำให้มีผู้ต้องขังที่ยังติดเชื้ออยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ 15,373 ราย โดยพบการติดเชื้อเพิ่ม 1 เรือนจำ คือเรือนจำกลางขอนแก่น รวมเรือนจำและทัณฑสถานที่พบผู้ติดเชื้อจำนวน 13 แห่ง ส่วนผู้ต้องขังที่เสียชีวิตจำนวน 1 ราย เป็นผู้ป่วยชายอายุ 62 ปี จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เข้ารับการรักษาตัวที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์จากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ด้วยอาการเหนื่อย ซึมลง และความดันต่ำ การเอกซเรย์พบปอดอักเสบ และมีภาวะไตวายร่วมด้วย แพทย์ได้ให้ยาและรักษาตามกระบวนการแล้ว แต่อาการไม่ดีขึ้น เนื่องจากผู้ป่วยสูงอายุ และมีอาการรุนแรงจึงเสียชีวิตในที่สุด
สั่งอุดรูรั่วชายแดน
    วันเดียวกัน มีการประชุมศูนย์สั่งการชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านจังหวัด มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงแรงงานเป็นประธาน โดยมีตัวแทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม อาทิ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน พล.อ.ชัยชาญ  ช้างมงคล รมช.กลาโหม พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ  ปลัดกระทรวงกลาโหม และมีผู้ว่าราชการจังหวัดชายแดน  ประกอบด้วย แม่ฮ่องสอน, กาญจนบุรี, อุบลราชธานี,  สระแก้ว และนราธิวาสร่วมประชุมด้วย ผ่านระบบ VTC  เพื่อมอบนโยบายแนวทางบริหารจัดการพื้นที่ชายแดนในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19
    พล.อ.ประวิตรกล่าวภายหลังการประชุมว่า ได้กำชับเจ้าหน้าที่ให้ดำเนินการทั้งกระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ช่วยกันดูแลไม่ให้มีแรงงานต่างด้าวเข้าไทยอย่างผิดกฎหมาย และถ้าท้องถิ่นดูแลดีก็ไม่มีปัญหา หากเจ้าหน้าที่ทำผิดกฎหมายต้องลงโทษ
    พล.อ.อนุพงษ์กล่าวว่า พล.อ.ประวิตรให้ใช้กลไกศูนย์สั่งการชายแดน โดยมี ผบ.ทสส.รับมอบและสั่งการไปที่ศูนย์สั่งการชายแดนจังหวัด ร่วมกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) จังหวัด ต้องบูรณาการเน้นให้ดูแลตั้งแต่แนวชายแดน กำหนดมาตรการและความรับผิดชอบ  ประเมินสถานการณ์ โดยให้หน่วยงานต่างๆ เร่งบูรณาการไม่ให้แรงงานผิดกฎหมายและการค้าผิดกฎหมายรั่วไหลเข้ามาพื้นที่ชั้นใน หากพบว่าลักลอบมาทางใดต้องสอบสวน ถ้าเกิดจากแผนไม่ดี หรือเจ้าหน้าที่บกพร่องหรือมีส่วนร่วมต้องชี้แจงให้ได้
    รวมทั้งต้องขอความร่วมมือผู้ประกอบการที่รับแรงงานเหล่านี้ ที่ปัจจุบันได้ขึ้นทะเบียนแรงงานทั้งเก่าและใหม่กว่า  7 แสนคน และต้องไม่รับขึ้นทะเบียนใหม่อีกแล้ว รวมถึงไม่รับแรงงานผิดกฎหมายซึ่งเกิดการแพร่ระบาดโควิด หากพบว่ายังมีการลักลอบเข้ามาอีกกระทรวงแรงงานจะต้องดำเนินการตามกฎหมายสูงสุด
    ส่วนการพบโควิดสายพันธุ์แอฟริกาใต้จากผู้ลักลอบเข้าประเทศผ่านช่องทางธรรมชาตินั้น รมว.มหาดไทยกล่าวว่า  อยากทราบเหมือนกันว่าผู้ลักลอบทั้งหมดเข้ามาทางใด และได้สั่งการให้สืบสวนสอบสวนว่าหลุดเข้ามาได้อย่างไร เกิดจากแผนมีช่องโหว่หรือเจ้าหน้าที่หย่อนยาน ต้องไม่ให้เกิดกรณีเช่นนี้ขึ้น
    นายสุชาติกล่าวว่า ในส่วนของกระทรวงแรงงานจะดูในเรื่องของสถานประกอบกิจการที่มีการนำแรงงานผิดกฎหมายเข้ามา ซึ่งที่ผ่านมาได้จับไปแล้วถึงกว่า 3 แสนคน ในกว่า 2 หมื่นกิจการ เรากำลังจะประชุมร่วมกับประธานหอการค้าไทย สภาหอการค้าและสภาอุตสาหกรรมและผู้ประกอบการ ก่อนที่จะมีการออกประกาศกฎกระทรวงเพื่อขอความร่วมมือและเอาผิดกับบรรดานายจ้างทั้งหมดที่นำเข้าแรงงานผิดกฎหมาย จะมีการกำหนดบทลงโทษชัดเจน โดยจะมีชุดเฉพาะกิจทั้งหมด 5 ชุดในการออกตรวจจับ ถ้าเจอจะดำเนินคดีให้สูงที่สุด ไม่มีละเว้นและรายงานผลออกมา โดยจะดำเนินการขั้นเด็ดขาดจากนี้ไป แต่จะไม่มีการดำเนินการย้อนหลังกับโรงงานที่ทำความผิดก่อนหน้านี้ ทั้งนี้ตนมีอำนาจในการตรวจ โดยกระทรวงแรงงานจะทำหน้าที่เป็นเพียงผู้กล่าวโทษ ส่วนการดำเนินคดีจะเป็นหน้าที่ของตำรวจ  ซึ่งมีโทษแรงทั้งจำคุกและปรับ.
   


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"