'ดร.ไตรรงค์'ออกบทความ'ยามสงครามต่างชาติเขาทำกันอย่างไร'เตือนสตินักการเมืองไทย


เพิ่มเพื่อน    


23 พ.ค. 64 - ดร.ไตรรงค์ สุวรรณคีรี อดีตรองนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเฟชบุ๊กส่วนตัว  หัวข้อ  ยามสงครามต่างชาติเขาทำกันอย่างไร? มีเนื้อหาดังนี้
.
1) ตอนมี #สงครามโลกครั้งที่1 ประเทศอังกฤษโดยรัฐสภาจัดให้มีการจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ โดยให้นายเดวิด ลอยด์ จอร์จ (DAVID LLOYD GEORGE) เป็นนายกรัฐมนตรี (จากพรรค Liberal) ไม่มีฝ่ายค้าน ทุกฝ่าย ทุกคน ทุกพรรค รวมเป็นหนึ่งเดียว ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี อังกฤษจึงรอดตัวมาได้ กลายเป็นผู้ชนะสงคราม (รัฐบาลแห่งชาตินี้อยู่ระหว่างปี ค.ศ. 1916 - 1922)
.
2) ตอนมี #สงครามโลกครั้งที่2 อังกฤษมีรัฐบาลนำโดยนายเชอร์ชิลล์ (CHURCHILL) เป็นรัฐบาลผสมของ 3 พรรคใหญ่ คือ พรรคจารีตนิยม (Conservative) พรรคแรงงาน (Labour) และพรรคเสรีนิยม (Liberal) เป็นลักษณะรัฐบาลแห่งชาติเช่นเดียวกัน ไม่มีฝ่ายค้าน (คอยปัดแข้งปัดขา) ทุกฝ่าย ทุกคน ทุกพรรค รวมเป็นหนึ่งเดียว และรัฐสภายังมีมติให้งดมีการเลือกตั้ง ส.ส. ระหว่าง ค.ศ. 1935 - 1945 เป็นรัฐบาลที่ไม่ต้องมานั่งกังวลเรื่องการเมือง มุ่งทำงานให้ชนะสงครามอย่างเดียว อังกฤษจึงรอดตัวมาได้กลายเป็นผู้ชนะสงครามอีกครั้งหนึ่ง
.
3) เมื่อคราวเกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ของโลกที่เรียกกันว่า #TheGreatDepression #1930 ผลการเลือกตั้ง ส.ส. ในปี ค.ศ. 1929 พรรคแรงงานได้คะแนนเสียงมากกว่าอีกสองพรรค แต่จำนวนเสียง ส.ส. ไม่ถึงครึ่งหนึ่งของจำนวน ส.ส. ทั้งหมดของสภาฯ ด้วยการสนับสนุนของพระมหากษัตริย์ (King George ที่ 5) จึงได้มีการจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติคือทั้งสามพรรค ได้แก่ พรรคแรงงาน พรรคจารีตนิยม และพรรคเสรีนิยม ร่วมกันเป็นรัฐบาล โดยให้หัวหน้าพรรคแรงงาน คือ นายแมคโดนัลด์ (Mc Donald) หัวหน้าพรรคแรงงานเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่มีฝ่ายค้าน ทุกฝ่าย ทุกคน ทุกพรรค รวมกันเป็นหนึ่ง ช่วยกันหานโยบายมาแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจและสังคม จนอังกฤษอยู่รอดพ้นปากเหยี่ยวปากกามาได้อีกครั้งหนึ่ง
.
4) ปี ค.ศ. 1930 กองทัพของท่านนายพลเจียงไคเช็คกำลังทำสงครามไล่ฆ่าสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ของท่านเมาเซตุงอย่างหนัก ญี่ปุ่นจึงฉวยโอกาสที่เห็นจีนแตกแยกส่งกองทัพมายึดภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีนในปี ค.ศ. 1930 แล้วบุกเข้ายึดเซียงไฮ้ได้ในปี ค.ศ. 1932   ในปี ค.ศ. 1936 ขณะที่ท่านนายพลเจียงไคเช็คกำลังบัญชาการรบเพื่อปราบพวกของเมาเซตุงอยู่ที่เมืองซีอาน มีนายพลของท่านนายพลเจียงฯ 2 ท่าน เข้าจับท่านนายพลเจียงบังคับให้เลิกไล่ล่าพรรคคอมมิวนิสต์และบังคับให้จับมือกับท่านเมาเซตุงเพื่อร่วมกันทำสงครามไล่ญี่ปุ่นออกจากประเทศจีนก่อน กว่าทั้งสองฝ่ายจะเริ่มจับมือกันเปิด #สงครามกับญี่ปุ่น ก็ปาเข้าไปถึง ค.ศ. 1937 ไม่สามารถป้องกันการรุกของญี่ปุ่นได้จึงต้องเสียเมืองอู่ฮั่นและนานกิง (คนจีนถูกฆ่าไปกว่า 3 แสนคน) ให้แก่ญี่ปุ่นในปี ค.ศ. 1938  และต้องทำสงครามนานถึง 8 ปี จึงสามารถจะไล่ญี่ปุ่นออกจากจีนได้สำเร็จในปี ค.ศ. 1945 (การจับและบังคับนายพลเจียงครั้งนั้นเรียกกันว่า #กบฎซีอาน)
.
5) ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 นั้น ประเทศอังกฤษ ฝรั่งเศส และเบลเยียม จับมือกันมั่นเพื่อสู้กับการรุกรานของฮิตเลอร์แห่งเยอรมัน แต่เยอรมันสามารถส่งทหารตีทุกแนวของกองทัพฝรั่งเศสแตกพ่ายทุกแห่ง รัฐบาลก็แทบจะไม่ได้มีสติในการทำสงครามเพราะต้องมานั่งแก้ปัญหาการเมืองในรัฐสภาที่มีแต่การแช่งด่า     ไล่ตะเพิด เอาชนะคะคานกันเอง จนกองทัพของเยอรมันสามารถบุกเข้ายึดกรุงปารีสได้ในวันที่ 14 มิถุนายน ค.ศ. 1939
.
ท่านอาจารย์เจริญ  ไชยชนะ ได้วิเคราะห์ไว้ในหนังสือของท่านที่ชื่อว่า “ประวัติศาสตร์สากล:สมัยปัจจุบัน” โดยสรุปย่อๆ ว่า “สาเหตุแห่ง #ความหายนะของฝรั่งเศส ในครั้งนั้น” มีดังต่อไปนี้
.
1 - ความด้อยประสิทธิภาพของกองทัพฝรั่งเศสทั้งบก เรือ และอากาศ เพราะผู้นำพรรคการเมืองต่างๆ (ซึ่งสมัยนั้นใช้ระบบแบบอังกฤษเหมือนประเทศไทยในปัจจุบัน) สนใจแต่การสร้างความยิ่งใหญ่ส่วนตัว มีแต่การชิงดีชิงเด่น เอาชนะคะคานกันในทางการเมืองจนลืมนึกถึงความสำคัญของความเข้มแข็งทางทหารแห่งกองทัพต่างๆ
.
2 - ตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่หนึ่งจบลงเป็นต้นมา #ประเทศฝรั่งเศสแตกแยก แบ่งฝักแบ่งฝ่ายกันมาก มีทั้งพวกซ้าย (หรือพวกดัดจริตเป็นซ้าย... อันนี้ผมไตรรงค์ พูดเองนะครับ ท่านอาจารย์เจริญไม่ได้พูด) พวกสาธารณรัฐนิยม  พวกขวา (ซึ่งคงหมายถึงพวกอยู่ตรงข้ามกับพวกคอมมิวนิสต์ครับ)   ในครานั้น ฝรั่งเศสแตกแยกกันเละทั้งทางการเมือง สังคม และเศรษฐกิจ #เกิดความอ่อนแอ #ขาดความเป็นหนึ่งเดียว ที่จะร่วมกันป้องกันประเทศ ซึ่งเป็นสภาพ #ตรงกันข้ามกับประชาชนชาวเยอรมันที่เป็นหนึ่งเดียวและมุ่งมั่นสูง
.
3 - มีทั้งนักการเมืองและประชาชนจำนวนหนึ่ง ที่เป็นพวก #ทรยศต่อประเทศของตนเอง #เพื่อประโยชน์ส่วนตัว (มากกว่าผลประโยชน์และอนาคตของประเทศชาติ) หรือพูดอีกนัยหนึ่งก็คือ คนฝรั่งเศสเองนั่นแหละที่ช่วยกันทำลายประเทศฝรั่งเศสจนย่อยยับ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ #การเมืองเพื่อตนเองและพวกพ้องได้ปิดตาจนมืดบอด
.
5) สรุป
5.1 - ตัวอย่างทั้งหมดที่ได้ยกมาเล่าข้างต้นนั้นล้วนเป็นเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นในภาวะสงครามที่ต้องใช้อาวุธเข้าทำลายกัน บุกรุกกัน จึงต้องใช้ทั้งอาวุธและทหารในการป้องกันประเทศภายใต้การนำและการตัดสินใจของนักการเมืองไม่ว่าจะอยู่ในคราบของนักรบ (เช่น เจียงไคเช็คและเมาเซตุง) หรืออยู่ในรูปของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีอย่างที่เกิดขึ้นในอังกฤษและในฝรั่งเศส
.
5.2 – #ประเทศไทยของเราในปัจจุบันต้องถือว่าตกอยู่ในภาวะสงครามเช่นเดียวกัน เพราะมีทั้งคนเจ็บและคนตายเกิดขึ้นทุกวัน แต่ #ศัตรูของประเทศมิใช่กองทัพจากต่างประเทศกลับเป็นไวรัส ที่มองไม่เห็น เรียกกันว่า COVID-19 ซึ่งเป็นศึกที่ยิ่งใหญ่กว่า เพราะศึกครั้งนี้เราต้องใช้ประชาชนทุกคนเท่าที่มีในประเทศให้เป็นทหารในการต่อสู้ป้องกันประเทศ มีความสามัคคี มีวินัยในการทำสงครามอย่างพร้อมเพรียงกัน
 .
5.3 – #ถ้ายังไม่เลิกเล่นการเมือง (แม้ประเทศจะกำลังอยู่ในภาวะสงคราม) #อาจจะพาประเทศให้เกิดความฉิบหาย อย่างที่เคยเกิดขึ้นในฝรั่งเศสและประเทศจีนก่อน ค.ศ. 1945 ก็เป็นได้ ถ้ายังเกลียดกัน สาปแช่งกัน ไม่มีความสามัคคีให้เป็นเนื้อเดียวกันอย่างที่เขาทำสำเร็จในอังกฤษในช่วงสงครามโลกทั้งครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 รอให้สงครามมันสงบแล้วค่อยยกพวกมาตีกันให้มันสะใจและสะสันดานจะไม่ดีกว่าหรือ
.
ถ้ามีแต่แบ่งพรรคแบ่งพวกมีพวกมึงพวกกูแบบกองเชียร์ฟุตบอลโดยไม่ต้องดูเหตุดูผล คอยขัดแข้งขัดขา (จากทุกฝ่าย) มีแต่สาปแช่งให้รัฐบาลไม่ประสบความสำเร็จในการต่อสู้กับ COVID-19 (ในขณะที่บุคลากรทางการแพทย์แทบจะหมดแรงอยู่แล้ว)
.
การใช้ชีวิตคนมาเป็นเดิมพันในการต่อสู้ทางการเมืองนั้น ถ้าไม่เรียกว่า #เป็นคนใจดำอำมหิต ก็ต้องเรียกว่า #เป็นคนเลวระดับได้ถ้วย เลยทีเดียวนะครับ
.
หมายเหตุ : เอาเถอะ! ท่านจะเลวหรือดี แต่ผมใคร่จะขอให้ทุกคนไป #ฉีดวัคซีนช่วยชาติ กัน ผมฉีดแอสตร้าเซนเนก้าไปแล้ว ไม่เห็นมีผลข้างเคียงอะไรเลย ไม่เจ็บเลย สบายดี คึกคักเต็มไปด้วยพลัง (Energy) ทุกวัน  แต่อยากจะฝากความคิดให้รัฐบาลไม่ว่าจะเป็นชุดไหนก็ตาม ควรจะพิจารณาให้รางวัลเป็นกรณีพิเศษแก่บุคลากรทางการแพทย์หลังจากสงครามโควิด-19 ผ่านพ้นไปแล้ว

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"