จากการย้ายประเทศ...ถึงการย้ายที่เกิด


เพิ่มเพื่อน    

                                                                                                                 (1)

            ไม่รู้ว่าเรื่องที่พวกเด็กๆ...เขาคิดจะ ย้ายประเทศ ไปไหนต่อไหน จะเป็นไง-มาไง กันมั่งแล้ว!!! ด้วยเหตุเพราะไม่คิดจะติดตาม หรือไม่อยากจะไปยุ่งเกี่ยว ยุ่งขิง กับพวกเขามากมายซักเท่าไหร่ เนื่องจากภายใต้ความเป็นคนแก่ คนชรา ในช่วงนี้สิ่งที่คงต้องเตรียมตัว เตรียมใจ ต้องตั้งสมาธิ หรือต้องมุ่งให้ความสำคัญเอาไว้ก่อนล่วงหน้า ย่อมหนีไม่พ้นไปจากเรื่องของการ ย้ายตัวเอง ไปสู่สถานที่แห่งใหม่ โลกใหม่ หรือชีวิตใหม่ ฯลฯ โน่นเลย...

                                                                                                            (2)

            คือพูดง่ายๆ ว่า...ในฐานะที่ ใกล้ตาย เต็มที หรือในช่วง ไม้ใกล้ฝั่ง ช่วงแห่งการใกล้ แง้มฝาโลง เข้าไปทุกที คงไม่เหลือเวลาใดๆ อีกแล้ว ที่จะเอาไปทำพาสปอร์ต วีซ่า ฝึกภาษาปะกิต ฝรั่งเศส อเมริกา ฯลฯ หัดกินฮอตดอก สปาเกตตี หอยโข่ง แฮมเบอร์ก้ง เบอร์เกอร์ ฯลฯ อะไรประมาณนั้น เพื่อให้สามารถเข้ากันได้ด้วยดี กับการคิดย้ายบ้าน ย้ายเมือง ย้ายประเทศ ไปอยู่ ณ ที่ไหนๆ ก็แล้วแต่  และถึงมีเวลาพอจะทำอย่างว่า...แต่ก็เป็นอะไรที่ออกจะ เปลืองเวลา หรือ เปลืองตัว โดยใช่เหตุ เพราะไม่ว่าจะกลายสภาพไปเป็นพลเมืองประเทศไหนต่อประเทศไหนก็เถอะ สุดท้าย...ย่อมหนีไม่พ้นต้องตายโหง ตายห่า ไม่มีโอกาสที่จะอยู่ยั้งยืนยง หรืออยู่ยาวว์ว์ว์เกินขีดจำกัดที่ พระผู้เป็นเจ้า ท่านทรงกำหนด ไปได้ด้วยกันทั้งสิ้น...

                                                                                                                        (3)

            อีกทั้ง...เป็นแค่ช่วงระยะเวลาสั้นๆ แค่ไม่เกิน 2 หมื่น 3  หมื่นวันเท่านั้นเอง สำหรับชีวิตชีวิตหนึ่ง อันทำให้บรรดาผู้คนยุคโบร่ำ-โบราณ ท่านเลยไม่คิดจะเอาด้วยมานานแล้ว  ไม่ได้มุ่งมั่นและเพียรพยายามที่จะปักหลักถาวร ไม่ว่าจะอยู่ในประเทศไหนต่อประเทศไหน และไม่ว่าจะสุขสดชื่นเหมือนยืนอยู่บนเนินเขาเพียงใดก็ตาม เพราะท่านเห็นของท่านว่า... “โลกนี้เป็นเพียงแค่สะพานข้าม หรือเวทีศึกษา-หาใช่ที่พำนักอันคงทนถาวรไม่...” โดยวิถีชีวิตส่วนใหญ่ หรือทั้งมวล  ท่านเลยหันมาทุ่มเทให้กับโลกใหม่ ชีวิตใหม่ หรือสถานที่แห่งใหม่ ที่ท่านอาจหนีไม่พ้นต้องใช้เป็นที่พำนัก หลังจากต้องตายโหง ตายห่า ไม่ว่าทางใด ทางหนึ่ง แบบใด แบบหนึ่ง ไปตาม กฎเหล็กแห่งธรรมชาติ อันไม่มี สรรพสิ่ง ใดๆ สามารถฝืนความจริง หรือข้อเท็จจริงเหล่านี้ ไปได้เลย...

                                                                                                                        (4)

            อันนี้นี่แหละ...มันเลยเป็นอะไรที่น่าจะ เข้าท่า หรือ  เข้าแก๊ป ยิ่งกว่าแค่การคิด ย้ายประเทศ เป็นไหนๆ เพราะการดิ้นรน ทุรนทุราย คิดจะกลายสภาพตัวเองไปเป็นพลเมืองอเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส สวีเดน ฯลฯ หรือที่ไหนๆ ก็แล้วแต่ แต่ครั้นเมื่อต้องตายโหง ตายห่า อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงและปฏิเสธได้ ใครจะไปรู้ได้ว่า...เผลอๆ อาจต้องหวนกลับมา เกิด ในท้องหมา ท้องวัว ท้องควาย ฯลฯ แม้มีฤทธิ์ มีเดช ระดับสามารถ ชิงหมาเกิด หรือชิงอะไรเกิดก็แล้วแต่  มีโอกาสกลับมาเป็น มนุษย์ ได้เช่นเดิม แต่ใครจะไปการันตีได้ว่า...จะสามารถเกิดเป็นชาวอเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส สวีเดน ฯลฯ ได้แบบที่ปรารถนาและต้องการ...

                                                                                                                        (5)

            เพราะยิ่งเกลียดอะไร ไม่ชอบอะไร หรือมี จิต ผูกพัน เกาะเกี่ยว อยู่กับสิ่งหนึ่ง-สิ่งใด ถ้าว่ากันตามแนวทาง ตามทฤษฎีที่บรรดา นักการศาสนา ทั้งหลาย ท่านได้ศึกษา ค้นคว้า ไม่ว่าศาสนาใดๆ ก็แล้วแต่ โอกาสที่อาจต้องย้อนกลับไปหาสิ่งนั้นๆ ต้องไปโรมรันพันตู อยู่กับสิ่งนั้นๆ ย่อมมีความเป็นไปได้สูงเอามากๆ หรือแม้จะเสียเวลาทำพาสปอร์ต วีซ่า  ฝึกอ่าน ฝึกเขียน ฝึกพูด ไปจนหัดกินฮอตดอก แฮมเบอร์เกอร์ จนแทบกลายเป็น ฝรั่ง แบบทั้งแท่ง ทั้งด้าม ก็เถอะ แต่ถ้าหากต้องโดนรถชน ต้องไปตายโหง ตายห่า ด้วยสาเหตุใดก็แล้วแต่ ในประเทศนั้นๆ โอกาสที่จะย้อนกลับมาเกิดเป็นพลเมืองไทย ก็ใช่ว่าจะไม่มีเอาซะเลย!!!...

                                                                                                            (6)

            อันนี้นี่เอง...มันเลยเป็นอะไรที่ค่อนข้างเสียเวลา เสียเซลฟ์ เสียรังวัด โดยใช่เหตุ สู้หันมาทุ่มเท เพียรพยายาม กับการ ย้ายตัวเอง ไปยังสถานที่แห่งใหม่ โลกใหม่ ชีวิตใหม่  อันคงทนถาวร แบบชนิดถึงขั้นเป็น อมตะ เอาเลยก็ไม่แน่!!! คือแบบไม่ต้องเกิด-ไม่ต้องตาย ไม่ต้องเจ็บปวด รวดร้าวทรมานจากสิ่งใดๆ ไม่ต้องเสียใจ-ดีใจ ไม่ต้องบวก-ไม่ต้องลบ ฯลฯ ขณะที่ทุกสิ่งทุกอย่างเต็มไปด้วยความสงบ  ความสะอาด ความเย็น ฯลฯ อันเนื่องมาจากสิ่งใดๆ ที่ถือว่าเป็น ทุกข์ ต่างมลายหายเกลี้ยง ในระดับตลอดชั่วนิรันดร์กาล เอาเลยถึงขั้นนั้น...

                                                                                                                        (7)

            แต่ก็แน่ล่ะว่า...การที่จะได้มาซึ่งสิ่งเหล่านี้ มันอาจหนีไม่พ้นต้องลงทุน ลงแรง อยู่มั่ง และคงไม่ได้เกี่ยวกับการทำพาสปอร์ต วีซ่า การฝึกพูด ฝึกเขียน ฝึกกิน หรือฝึกที่จะเป็น  ฝรั่ง มากมายซักเท่าไหร่ เผลอๆ...อาจต้องหันมาฝึกบางสิ่ง บางอย่าง ที่ถือเป็นองค์ประกอบ ส่วนประกอบ ของ ความเป็นไทย เอาไว้มั่งก็ไม่แน่ เช่นความเมตตา กรุณา ความโอบอ้อม อารี ความรักและความปรารถนาดีต่อผู้อื่น ฯลฯ  อะไรทำนองนั้น หรืออย่างที่ปราชญ์เมืองไทยอย่างคุณ อดิศักดิ์ ทองบุญ ท่านสรุปไว้ในหนังสือเรื่อง ปรัชญาอินเดีย นั่นแหละว่า... “จุดประสงค์ของการเกิดมาเป็นมนุษย์ ก็เพื่อศึกษาให้รู้ว่าตัวเราคืออะไร เกิดขึ้นมาได้อย่างไร มีเงื่อนไขอะไรให้เกิด ให้เป็นอยู่ และเป็นไปต่อไปอย่างไร เมื่อรู้แจ้ง เห็นจริง ก็จะได้ไม่หลงผิด ไม่ยึดมั่น ถือมั่น กับมายาของโลกอีกต่อไป แต่จะใช้ชีวิตอันน้อยนิดในโลกใบนี้ ให้เป็นคุณประโยชน์ต่อตัวเองและผู้อื่นให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้...”

                                                               -------------------------------------------------------------


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"