จีดีพีเป็นเช่นไรอยู่ที่ จัดหาและฉีดวัคซีนได้เพียงใด


เพิ่มเพื่อน    

         รัฐบาลบอกว่าจะฉีดวัคซีนให้ได้ 100 ล้านโดสให้แก่คนไทย 50 ล้านคน หรือ 70% ของประชากร

            หากได้อย่างนั้น รองนายกฯ ฝ่ายเศรษฐกิจอยากให้เศรษฐกิจปีนี้โตประมาณ 3-4%

            แต่เมื่อเกิดการระบาดของโควิดรอบ 3 ทำให้ตัวเลขเติบโตจีดีพีอันพึงประสงค์ถูกลดลงมาอย่างมีนัยสำคัญ

            ล่าสุด ธนาคารแห่งประเทศไทยบอกว่าถ้าหากฉีดวัคซีนล่าช้าไม่ถึง 64.6 ล้านโดสในปีนี้ ก็อาจจะฉุดจีดีพีดิ่งเหลือ 1% และมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจสูงถึง 8-9 แสนล้านบาทเลยทีเดียว

            ประเมินจาก 3 ฉากทัศน์ที่อาจจะเกิดขึ้นและผลกระทบต่อเศรษฐกิจ

            กรณีที่หนึ่ง ถ้าจัดหาวัคซีนและฉีดได้ประมาณ 100  ล้านโดสภายในปีนี้ คาดว่าผลกระทบต่อเศรษฐกิจจะมีเฉพาะกับไตรมาส 1 หลังจากนั้นเศรษฐกิจจะเริ่มกระเตื้อง

            กรณีนี้คาดว่าเศรษฐกิจทั้งปีจะขยายตัว 2% และปีหน้า  4.7%

            กรณีที่สอง หากได้เพียง 64.6 ล้านโดสภายในปีนี้ จะเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ในไตรมาส 3 ปีหน้า จะมีผลกระทบต่อจีดีพี -3% หรือประมาณ 4.6 แสนล้านบาท จะส่งผลให้จีดีพีปีนี้ขยายตัวที่ 1.5% และปีหน้า 2.8%

            กรณีที่สาม ถ้าได้ฉีดวัคซีนน้อยกว่า 64.6 ล้านโดสในปีนี้ ภูมิคุ้มกันหมู่จะเกิดในไตรมาส 4 ปีหน้า จะมีผลให้จีดีพี -5.7% หรือประมาณ 8.9 แสนล้านบาทในช่วงปี 64-65  คาดว่าจีดีพีปีนี้จะลดลงเหลือ 1% และปีหน้า 1.1% เท่านั้น

            แปลว่าวัคซีนคือปัจจัยตัดสินทุกอย่าง

            คุณทิตนันทิ์ มัลลิกะมาส เลขานุการคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) แถลงผลการประชุม กนง.เมื่อ 5  พฤษภาคมที่ผ่านมาว่า คณะกรรมการฯ มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 0.50 ต่อปี

            โดยประเมินว่า เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวชะลอลงมากจากการระบาดของ COVID-19 ระลอกที่ 3

            ส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายในประเทศและแนวโน้มการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยว

            ด้านการเงิน มาตรการที่สำคัญคือ การกระจายสภาพคล่องไปยังธุรกิจและครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบเพิ่มเติมจากการระบาดระลอกใหม่

            โดยเฉพาะมาตรการสินเชื่อและการเร่งปรับปรุงโครงสร้างหนี้ จะช่วยลดภาระทางการเงินได้อย่างตรงจุดมากกว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่ปัจจุบันอยู่ในระดับต่ำ และยังสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

            จึงเห็นควรให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ในการประชุมครั้งนี้ และรักษาขีดความสามารถในการดำเนินนโยบายการเงินที่มีจำกัด เพื่อใช้ในจังหวะที่เหมาะสมและเกิดประสิทธิผลสูงสุด

            เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวชะลอลงมากจากการระบาดระลอกที่ 3

            เพราะมีผลกระทบจากการใช้จ่ายในประเทศ และแนวโน้มการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติจากการเปิดประเทศที่ช้ากว่าคาด และนโยบายจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศที่ยังมีความไม่แน่นอน

            แรงขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจไทยมาจากการส่งออกสินค้าที่ฟื้นตัวตามเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า

            แต่ผลดีต่อการจ้างงานในตลาดแรงงานโดยรวมยังมีจำกัด

            ขณะที่มาตรการเยียวยาและมาตรการการเงินเพิ่มเติมของภาครัฐจะมีส่วนสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในระยะสั้น

            แรงกระตุ้นภาครัฐในปีงบประมาณ 2565 อาจลดลงบ้างจากการเร่งเบิกจ่าย พ.ร.ก.กู้เงินในปีงบประมาณปัจจุบัน

            ความเสี่ยงสำคัญของเศรษฐกิจไทยในระยะต่อไป ได้แก่

            (1) การกระจายและประสิทธิผลของวัคซีนป้องกัน  COVID-19

            (2) การฟื้นตัวที่แตกต่างกันและไม่ทั่วถึง ทำให้ตลาดแรงงานมีความเปราะบางมากขึ้น และส่งผลต่อรายได้ครัวเรือนและการบริโภคภาคเอกชน และ

            (3) ฐานะการเงินที่เปราะบางเพิ่มเติม โดยเฉพาะธุรกิจ  SMEs และธุรกิจท่องเที่ยวซึ่งมีความสามารถในการชำระหนี้ลดลงตามรายได้ที่ลดลง

            ภาคครัวเรือนมีสัดส่วนเงินออมต่อรายได้ลดลง ทำให้ความสามารถในการรองรับค่าใช้จ่ายหดตัวลง

            อัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะเร่งขึ้นชั่วคราวในไตรมาสที่ 2 ปี  2564 จากฐานราคาน้ำมันดิบที่อยู่ในระดับต่ำในไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า ด้านการคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อในระยะปานกลางยังยึดเหนี่ยวอยู่ในกรอบเป้าหมาย

            สภาพคล่องโดยรวมอยู่ในระดับสูงและต้นทุนทางการเงินอยู่ในระดับต่ำ

            แต่การกระจายตัวยังไม่ทั่วถึงจากความเสี่ยงด้านเครดิตที่เพิ่มขึ้น

            จำเป็นต้องติดตามให้การขยายตัวของสินเชื่อทั่วถึงมากขึ้นหลังมาตรการสินเชื่อฟื้นฟูมีผลบังคับใช้

            ทั้งหมดนี้คือ การส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจไทยกำลังเข้าสู่ภาวะที่ถูกท้าทายอย่างหนักหน่วงรุนแรงในระดับที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนจริงๆ.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"