ฝันดี! 'ทูตนริศโรจน์' เล่านิทานก่อนนอน สอนให้รู้ว่าอย่าประมาทแพะบูชายัญ


เพิ่มเพื่อน    

20 พ.ค.64 - นายนริศโรจน์ เฟื่องระบิล อดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Fuangrabil Narisroj ว่า นิทานก่อนนอน ณ กอง บก.ข่าวออนไลน์ของสถานี Dull TV มีพนักงานเด็กๆหนุ่มสาวที่เพิ่งจบใหม่ๆ ชั่วโมงบินต่ำ  กำลังทำงานกันอย่างขะมักขเม่น ต่างคนต่างหาข่าวด้วยการดูสื่อออนไลน์ จากเพจของคนดัง influencer ต่างๆใน Facebook Twitter เพื่อเอามา "ตีความ" ใหม่ทำข่าวให้กับสถานี เพื่อเสนอข่าวเรียกเรทติ้งคนดู ซึ่งปัจจุบันมียอดคนติดตามลดน้อยลงทุกวัน

อันกอง บก.ข่าวออนไลน์สถานีนี้ทั้งหมดเป็นเด็กที่ปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม เรียกว่าวัยกำลังเอ๊าะๆ และแน่นอนพลังฮอร์โมนกำลังพลุ่งพล่านไปด้วยคำว่า ประชาธิปไตย  ทุกอย่างต้องเท่าเทียมกัน  รังเกียจรากเหง้าประเพณีโบราณว่าคร่ำครึเชยล้าสมัย  ถ้าย้ายประเทศหนีไปได้กูไปแล้ว

ขณะที่เด็กๆกำลังทำงานกันนั้น  ก็มีเสียงเด็กจนท.คนนึงตะโกนบอกเพื่อนว่า  "เฮ้ย..กูเจอบทความใน FB ของอดีตทูตสลิ่มแก่คนนึง มันเขียนเรื่องนางงาม call out  แมร่งโคตรเสร่อดักดานเลย  เราเอาบทความมันมา "ตีความ" ใหม่ ให้มันกลายเป็น แพะบูชายัญ กับเด็กรุ่นใหม่ ให้มันหวือหวา เรียกเรทติ้งจากบรรดาเพื่อนๆเราดีมั้ยวะ ? "

ปรากฏว่าได้การตอบรับอย่างเซ็งแซ่จากเพื่อนร่วมกอง บก.ข่าว  "ดีๆ เดี๋ยวกูปั่นพาดหัวให้เอง" อดีตทูตสลิ่มแก่สมน้ำหน้าน้องอะนาคอนด้าที่ชวดตกรอบเพราะไม่รักสถาบัน" 

เด็กๆกอง บก.ข่าว เฮลั่น สรวลเสเฮฮากันเต็มที่ แล้วก็ทำการฟีดข่าวพร้อมพาดหัวหวือหวาไปทันที มีเด็กใส่แว่นหนาเตอะคนนึงถามเพื่อนด้วยสำเนียงใต้ว่า "เฮ้ย แล้วถ้าไอ้อดีตทูตสลิ่มแก่มันเห็นพาดหัวข่าวนี้แล้วมันโกรธ พวกเราจะทำอย่างเรย?" 

เพื่อนอีกคนนึงก็ตอบว่า "จะไปกลัวอะไร  มึงจำไม่ได้หรือว่าตอนที่พี่ Ass นักร้องแนวร่วมพวกเรา เคยไปด่าไอ้ทูตสลิ่มแก่คนนี้ พอเกิดเรื่อง พี่ Ass ก็แค่ยกกระเช้าไปขอโทษ ไอ้ทูตคนนี้มันก็ใจอ่อนยกโทษให้แล้ว" 

เออๆ..งั้นลุยเลย  ทั้งกองบก.ข่าวออนไลน์มีมติเห็นพ้องต้องกัน

วันต่อมา...ที่กองบก.ข่าว  เด็กๆต่างพากันหัวเราะคิกคักดีใจที่การเสนอพาดหัวข่าวด้วยการ "ตีความ" ใหม่จากบทความของอดีตทูตสลิ่มแก่  ได้รับการตอบรับอย่างเซ็งแซ่จากน้องฟ้า น้องกะปอม อย่างล้นหลาม อดีตทูตโดนรุม Bully ไม่ต่างอะไรจาก แพะบูชายัญ ที่ไม่มีทางสู้ 

มีการแชร์ข่าวเพื่อด่าไอ้ทูตสลิ่มแก่อย่างกว้างขวางด้วยถ้อยคำหยาบคาย สถุล ถ่อย เถื่อน ตรงตามวัตถุประสงค์ที่กองบก.ข่าวต้องการทุกประการ
เด็กๆกองบก.ต่างกระหยิ่มยิ้มย่อง สมน้ำหน้า ที่ไอ้ทูตสลิ่มแก่ตัวนี้โดนบูชายัญ โดนรถทัวร์ลงถล่มอย่างล้นหลาม

บางคนถึงกับพูดว่า "เห็นมั้ยการ ตีความ ของพวกเราสำเร็จได้ผลดีมาก ไอ้ทูตแก่คนนี้ชอบเสือกสอนให้คนรุ่นใหม่รักชาติ รักสถาบัน แม่งเชยชิบหาย ป่านนี้แม่งคงโดนเด็กรุ่นใหม่อย่างพวกเราสั่งสอน จนต้องนอนหยอดน้ำข้าวต้มแล้ว 55555"  และแล้วทั้งกอง บก.ข่าวออนไลน์ Dull TV ก็ระเบิดหัวเราะกันอย่างครื้นเครง

อีก 1 วันต่อมา.....นายทุนใหญ่เจ้าของสถานี Dull TV ตัวจริง เดินหน้าดำคร่ำเครียด ดวงตาแดงก่ำ คิ้วขมวดจนเป็นรูปตัว S  เข้ามาที่กอง บก.ข่าวออนไลน์ พร้อมกับตะโกนเสียงดังลั่นกอง บก.ว่า "ไอ้ชิบหายเอ๊ย ใครเป็นคนนำเสนอข่าวพาดหัวบิดเบือนเรื่องอดีตทูตคนนั้นวะ ?"  เด็กๆกองบก.ข่าวต่างพากันก้มหน้านิ่งเงียบด้วยความตกใจ

"พวกมึงรู้มั้ยว่า ตอนนี้กลายเป็นเรื่องใหญ่แล้ว อดีตทูตคนนี้เขาโกรธมากประกาศจะฟ้องเรียกค่าเสียหายที่สถานีเรานำเสนอข่าวบิดเบือน แล้วนี่กูจะเอาเงินที่ไหนมาจ่าย หากเขาเรียกค่าเสียหายเป็นหลักล้าน"

"เร็วๆ พวกมึงคนใดก็ได้รีบทำแถลงการณ์ขอโทษอดีตทูตคนนี้ขึ้นหน้าเพจของเราด่วน ใช้ข้อความสูตรเดิมๆว่าเรารู้เท่าไม่ถึงการณ์  แล้วรีบติดต่อส่งทาง inbox ไปหาอดีตทูตเขาโดยเร็วที่สุดด้วย"

กองบก.ข่าววุ่นวายกันไปทั้งกอง หลังจากพิมพ์แถลงการณ์ขอโทษขึ้นหน้าเพจ และส่งทาง inbox ไปหาอดีตทูตคนนั้นแล้ว  ปรากฏว่าไม่มี feed back หรือการตอบรับใดๆจากอดีตทูตคนนั้นมาที่กองบก.เลย

บรรยากาศในกองบก.ข่าวเย็นเฉียบราวกับฤดูหนาวรวมกัน 3 ปีซ้อน แต่ทั้งๆที่บรรยากาศหนาวเข้าขั้วหัวใจแบบนั้น เด็กๆกอง บก.ข่าวกลับเหงื่อกาฬแตกจนเสื้อเปียกชุ่มกันเป็นแถว

สักพักนึง เด็กกองบก.ข่าวคนนึงที่ติดตามหน้าเพจของอดีตทูตคนนั้น ก็ต้องอุทานออกมาอีกครั้งนึงว่า "ชิบหายแล้ว!" พร้อมกับอ่านข้อความจากเพจของอดีตทูตให้เพื่อนๆฟังด้วยน้ำเสียงสั่นๆว่า "อดีตทูตเปลี่ยนรูปโปรไฟล์เป็นรูปหน้าน้องหมิวพร้อมคำพูดว่า "อย่าเพิ่งรีบตาย ฉันเพิ่งเริ่ม" พร้อมกับประกาศสู้ตายถวายหัวเพื่อให้เป็นเคสตัวอย่าง และเพื่อเป็นการสร้างบรรทัดฐานใหม่ให้วงการสื่อว่าต่อไปจะนำเสนอข่าวแบบบิดเบือนใส่ใคล้คนอื่นแบบนี้ไม่ได้

พร้อมกับประกาศขอความร่วมมือกับ ศชอ.ในการฟ้องดำเนินคดีจนถึงที่สุด ทั้งนี้ จะเรียกค่าเสียหายในวงเงินสูงสุดเท่าที่จะทำได้กับทางสถานี และทุกเพจ ทุกเม้นท์ที่แชร์เอาไปด่า โดยประกาศไม่รับกระเช้า และไม่มีการยอมความอย่างเด็ดขาด ขอให้เรื่องนี้ไปจบที่ศาลอย่างเดียวเท่านั้น"

ขณะเดียวกัน เด็กกองบก.อีกคนที่ monitor เพจของ "หมึกดำ" ก็อ่านข้อความที่เพจหมึกดำเขียนให้เพื่อนๆได้ฟังว่า "การที่ทางสถานีมีแถลงการณ์ขอโทษออกมานั้น ก็เท่ากับเป็นการสารภาพความผิดโดยสมบูรณ์ว่าทำผิดจริง ซึ่งส่งผลให้บรรดาเพจต่างๆที่แชร์ไป รวมทั้งคนที่ผสมโรงเม้นท์ด่า ทั้งหมดมีความผิดตาม พรบ.คอม ที่นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ และการหมิ่นประมาทไปโดยอัตโนมัติ" 

ตอนนี้ นายทุนเจ้าของสถานี Dull TV ถึงกับมีอาการหน้ามืด แล้วทรุดตัวลงไปนั่งกุมขมับ พร้อมทั้งบ่นพึมพำว่า "นี่กูจะต้องหาเงินไปจ่ายค่าเสียหายให้อดีตทูตนั้นเท่าไหร่ถึงจะพอ  คงหมดตัวแน่ๆ"

จากนั้นก็หันไปทำตาถมึงทึงใส่กับเด็กๆกองบก.ข่าว แล้วพูดเสียงดังว่า่  "เอางี้ กูจะเอาเงินเดือนของพวกมึงทุกคนไปจ่ายเป็นค่าเสียหายให้อดีตทูตเขา นี่ก็ไม่รู้จะพอหรือเปล่า ถ้าไม่พอกูจะสั่งตัดเงินเดือนพนักงานทั้งสถานีเพื่อเอาไปชดใช้ค่าเสียหายให้เขา  โอ๊ย...กลุ้มโว๊ย กูไม่น่าจ้างพวกมึงมาเป็นกองบก.ข่าวเลยเจงๆ "

ขอจบนิทานก่อนนอนแต่เพียงเท่านี้ ทั้งนี้ นิทานดังกล่าวมิได้เจาะจงหมายถึงบุคคลใด เป็นเพียงตัวละครสมมุติขึ้นมาเพื่อความบันเทิงเท่านั้น 

อ้อ...เกือบลืม..นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า 1.อย่าประมาทนึกว่าแพะบูชายัญจะทำอะไรไม่ได้ เพราะในที่สุดแพะอาจกลายร่างเป็นไดโนเสาร์ลุกขึ้นมากระทืบเหี้ยก็ได้

2.การทำสถานีข่าว อย่าประหยัดงบด้วยการจ้างเด็กรุ่นใหม่ที่อ่อนประสบการณ์มาทำงานทั้งหมด ควรจ้างผู้ใหญ่ที่มีประสบการณ์และความสุขุมรอบคอบมีชั่วโมงบินสูงมาควบคุมในการทำหน้าที่กลั่นกรองข่าว และควบคุมพฤติกรรมเด็กที่ด้อยประสบการณ์ด้วย


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"