กลุ่มพันธมิตรวัคซีนของประชาชนระบุเมื่อวันพฤหัสบดีว่า ผลกำไรจากวัคซีนป้องกันโควิด-19 ช่วยให้เศรษฐีบริษัทยากลายเป็นอภิมหาเศรษฐีพันล้านในพริบตาอย่างน้อย 9 คน พร้อมเรียกร้องให้บริษัทยาทั้งหลายยุติ "การควบคุมการผูกขาด" เทคโนโลยีวัคซีน

    เอเอฟพีรายงานอ้างแถลงการณ์จากกลุ่มพันธมิตรวัคซีนของประชาชน ที่ออกเผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 20 พฤษภาคม 2564 ว่าอภิมหาเศรษฐีใหม่ที่รวยระดับพันล้านดอลลาร์จากวัคซีนโควิด-19 ทั้ง 9 รายนี้มีทรัพย์สินรวมกัน 19,300 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 605,940 ล้านบาท) ซึ่งเท่ากับ 1.3 เท่าของทุนที่จะนำไปซื้อวัคซีนฉีดให้แก่ประชากรในประเทศรายได้ต่ำครบทุกคน

    กลุ่มพันธมิตรนี้ ซึ่งเป็นเครือข่ายองค์กรและนักเคลื่อนไหวที่รณรงค์เรียกร้องการยุติสิทธิในทรัพย์สินและสิทธิบัตรสำหรับการฉีดวัคซีน กล่าวว่า ตัวเลขที่กล่าวถึงอ้างอิงจากข้อมูลรายชื่อมหาเศรษฐีของนิตยสารฟอร์บส์

    แอนนา แมร์ริออต จากองค์กรการกุศล ออกซ์แฟม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มพันธมิตรนี้ด้วย กล่าวว่า อภิมหาเศรษฐีพันล้านเหล่านี้ก็คือโฉมหน้าของกำไรมหาศาลที่บริษัทยาหลายแห่งกำลังสร้างขึ้นมาจากการผูกขาดวัคซีนเหล่านี้

    คำแถลงกล่าวว่า นอกเหนือจากอภิมหาเศรษฐีใหม่แล้ว ยังมีอภิมหาเศรษฐีพันล้านเดิม 8 คน ที่มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นรวมกัน 32,200 ล้านดอลลาร์ (ราว 1.01 ล้านล้านบาท) จากวัคซีนโควิด-19

    จากรายชื่ออภิมหาเศรษฐีวัคซีนใหม่ 9 คน ผู้ที่ร่ำรวยที่สุดคือ สเตฟาน บานเซล ซีอีโอของโมเดอร์นา และอูร์ ซาฮิน ซีอีโอของไบออนเทค

    นอกจากนี้ ยังมีอภิมหาเศรษฐีพันล้านรายใหม่เกิดขึ้น 3 คน ซึ่งเป็นผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท แคนซิโนไบโอลอจิกส์ บริษัทเภสัชภัณฑ์สัญชาติจีน

    ไฮดี โจว ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายนโยบายและการรณรงค์ขององค์กรโกลบอลจัสติซนาว ที่ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลอภิมหาเศรษฐีในครั้งนี้ กล่าวว่า วัคซีนที่มีประสิทธิภาพสูงที่เรามีนั้นต้องขอบคุณเงินภาษีจำนวนมหาศาล จึงไม่ยุติธรรมที่เอกชนจะกอบโกยเงินในขณะที่ผู้คนหลายร้อยล้านคนยังเผชิญกับคลื่นการระบาดลูกที่ 2 และ 3 โดยไม่ได้รับการปกป้องอย่างสิ้นเชิง

    "ขณะที่คนหลายพันคนเสียชีวิตในอินเดียทุกวัน ถือเป็นเรื่องน่ารังเกียจที่สุดที่ถือผลประโยชน์ของอภิมหาเศรษฐีเจ้าของบริษัทยายักษ์ใหญ่อยู่เหนือความต้องการอย่างยิ่งของผู้คนหลายล้านคน" เธอกล่าว

    บริษัทผู้ผลิตยาต่างย้ำว่า การคุ้มครองสิทธิบัตรนั้นไม่ได้เป็นปัจจัยที่จำกัดการผลิตวัคซีนแต่อย่างใด บริษัทเหล่านี้อ้างว่า มีประเด็นกว้างขวางที่ขัดขวางกระบวนการผลิตวัคซีน ตั้งแต่สถานที่ตั้งของโรงงานผลิต แหล่งวัตถุดิบ ไปจนถึงความพร้อมของบุคลากรที่มีคุณภาพ.