20 พ.ค.64 - ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์ประจำวัน ว่า จากการประชุมศูนย์บริหารแก้ไขสถานการณ์โควิด-19 ในกทม. และปริมณฑล มีการพูดคุยเฉพาะการติดเชื้อในกทม.ที่มีถึง 1,001 ราย แบ่งเป็นจากระบบเฝ้าระวังฯ คนไทย 541 ราย ต่างด้าว 167 ราย จากการค้นหาเชิงรุก คนไทย 132 ราย ต่างด้าว 161 ราย ทำให้ที่ปรึกษาด้านสาธารณสุข ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ที่เข้าร่วมประชุมวันนี้ให้ความสำคัญกับการดูแลแรงงานต่างด้าว เพราะจากข้อมูลมีแรงงานต่างด้าวถูกกฎหมายในกทม.และปริมณฑล ทั้งสิ้น 1,318,641 คน อยู่ในกทม.ถึง 500,000 กว่าคน

จากการประมาณการณ์มีแรงงานต่างด้าวแบบไม่ถูกกฎหมายทั่วประเทศหลักล้าน ซึ่งคนเหล่านี้มักจะไม่อยู่นิ่ง เพราะต้องหลบหนีเคลื่อนย้ายอยู่ตลอด โดยจะไปอยู่เป็นกลุ่มก้อนกับแรงงานที่ถูกกฎหมาย ในสถานที่แออัด จึงเป็นปัจจัยที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ ที่ปรึกษาศบค.จึงเสนอให้จัดตั้งศูนย์คัดแยกแรงงานต่างด้าวเป็นการเฉพาะ อาจจะทำเป็นแคมป์ขึ้นมา เช่น กรณีโรงพยาบาลสนามที่ปทุมธานีใช้ตลาดเก่าเป็นที่ดำเนินการ เพื่อแยกออกมาจากชุมชน และมีการส่งข้าวส่งน้ำ ซึ่งโมเดลนี้กทม.ควรรีบทำ ใครที่เข้ามาอย่างผิดกฎหมายก็ต้องอาจนิรโทษกรรมและนำเข้ามาในระบบให้ถูกต้อง

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ขณะที่การระบาดในพื้นที่กทม.มีคลัสเตอร์ต่างๆรวมทั้งสิ้น 36 คลัสเตอร์ กระจายใน 25 เขต ที่ต้องเฝ้าระวังสูงสุดมี 23 คลัสเตอร์ อาทิ ตลาดห้วยขวาง แฟลตดินแดง แคมป์ก่อสร้างเขตหลักสี่ ตลาดบางกะปิ ฯลฯ กลุ่มเฝ้าระวังมี 4 คัสเตอร์ และที่พบใหม่ 1 คลัสเตอร์คือแคมป์คนงานเขตบางพลัด และที่ควบคุมการระบาดได้แล้วมีจำนวน 8 คลัสเตอร์

โดยปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดการระบาด อาทิ ปากคลองตลาดผู้ค้าและแรงงานต่างด้าวในตลาดติดเชื้อเป็นกลุ่ม แผงตลาดที่ติดๆกัน และที่อยู่อาศัยแรงงานต่างด้างมีลักษณะแออัด ตลาดบางกะปิ มีความแออัด หลังตลาดเดินเชื่อม 5 ตลาดย่อยถึงกันได้ แคมป์คนงานก่อสร้างมีความแออัด คนงานใช้ห้องน้ำร่วมกัน อยู่รวมกัน และทำกิจรรมร่วมกัน

มาตรการที่กทม.จะดำเนินการกับกลุ่มเฝ้าระวังสูงสุดและกลุ่มเฝ้าระวัง คือลงไปสอบสวนโรคเพิ่มเติม และติดตามผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ติดตามคนงานก่อสร้างที่พักอยู่นอกแคมป์ ฉีดวัคซีนให้ประชาชน ปิดตลาดทำความสะอาดสถานที่ ปิดสถานที่ที่พบผู้ป่วย เช่น แคมป์ โรงานน้ำแข็ง โกดัง ขณะที่คลัสเตอร์ใหม่จะปิดสถานที่และลงพื้นที่สอบสวนโรค สำหรับมาตรการในการควบคุมการแพร่ระบาดในตลาดผู้ประกอบการต้องปรับปรุงสภาพแวดล้อมให้มีการระบายอากาศที่เพียงพอ จัดทำบัญชีทะเบียนผู้ค้าและลูกจ้าง ทำความสะอาดพื้นที่ เป็นต้น

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ที่ประชุมให้ผู้อำนวยการเขตทั้ง 50 เขต เข้าไปดูแลในแคมป์ต่างๆ และขอให้ผู้ประกอบการให้ความร่วมมือ ข้อมูลล่าสุดมีแคมป์คนงานในกทม.ทั้งสิ้น 409 แคมป์ กระจายอยู่ในทุกเขต มีคนงาน 62,169 คน เป็นคนไทย 26,134 คน ต่างด้าว 36,035 คน และสำหรับการตรวจสอบเชิงรุกในกทม.ทุกวันนี้จะพบผู้ติดเชื้อ 300-400 คน เมื่อรวมกับผู้ที่รอเตียงจากวันก่อนหน้าจะทำให้มีความต้องการเตียง 500-800 เตียงต่อวัน ดังนั้นทุกคนจึงต้องช่วยกัน โดยขณะนี้กทม.ต้องการทีมสอบสวนโรค ทั้งพยาบาล นักวิชาการสาธารณสุข ทีมละ 4 คนเพิ่มขึ้น เพื่อลงไปในแต่ละเขต และต้องการทีมฉีดวัคซีนเพิ่ม ที่มีแพทย์ พยาบาล อาสาสมัคร ขอแรงมาทำงาน โดยสามารถโทรไปได้ที่เบอร์ 064-80-52620