กม.ส.ส.ฉลุย!ศาลชี้ไม่ขัดรธน.


เพิ่มเพื่อน    

   ร่าง พ.ร.ป.ส.ส.ฉลุย ศาล รธน.วินิจฉัยไม่ขัด รธน. ชี้ช่วยคนพิการลงคะแนน จำกัดสิทธิ์ ขรก.การเมืองที่ไม่ใช้สิทธิเลือกตั้งได้ พท.-ปชป.ดักคอ คสช.ไม่มีเหตุเลื่อนเลือกตั้งอีก "วิษณุ" เตือนอนาคตใหม่พูดมัดตัวเอง "ป้อม" ลั่นฉีก รธน.ไม่ได้ ยัน คสช.ไม่ทำผิดสักเรื่อง "หมวดเจี๊ยบ" ดักคอล้มเวทีถกพรรคการเมืองลางบอกเหตุเบี้ยวเลือกตั้งอีก คนอยากเลือกตั้งอ่วม! คสช.เอาจริง แจ้งข้อหาหนัก พบแกนนำเสื้อแดงหลายจังหวัดโผล่ร่วมชุมนุม
    เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมีการประชุมเพื่อพิจารณาคำร้องของประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่ส่งความเห็นของสมาชิก สนช. 27 คน ที่ขอให้วินิจฉัยว่าร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) มาตรา 35 (4) และ (5) มีข้อความขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 95 วรรคสาม และมาตรา 92 วรรคหนึ่งของกฎหมายดังกล่าวมีข้อความขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 85 หรือไม่
    โดยศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ว่า ร่าง พ.ร.ป. ส.ส.มาตรา 35 (4) และ ( 5) ที่บัญญัติว่า ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งผู้ใดไม่ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง และไม่ได้เเจ้งเหตุที่ไม่อาจไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง หรือเเจ้งเหตุที่อาจไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งแล้ว แต่เหตุนั้นมิใช่เหตุอันสมควร ผู้นั้นจะถูกจำกัดสิทธิ์ (4) การดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมืองตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการการเมืองและข้าราชการรัฐสภาฝ่ายการเมืองตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการรัฐสภา (5) สิทธิในการได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองผู้บริหารท้องถิ่น เลขานุการผู้บริหารท้องถิ่น ผู้ช่วยเลขานุการผู้บริหารท้องถิ่น ประธานที่ปรึกษาผู้บริหารท้องถิ่น ที่ปรึกษาผู้บริหารท้องถิ่น หรือคณะที่ปรึกษาผู้บริหารท้องถิ่น ตามกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ไม่มีข้อความขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ เนื่องจากการดำรงตำแหน่งตามมาตราดังกล่าวเป็นสิทธิชนิดหนึ่งที่รัฐธรรมนูญบัญญัติให้ออกกฎหมายจำกัดสิทธิดังกล่าวได้ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 95 วรรค 3
    ส่วนมาตรา 92 วรรค 1 ของร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ที่ระบุว่า เพื่ออำนวยความสะดวกแก่คนพิการหรือทุพพลภาพ หรือผู้สูงอายุในการออกเสียงลงคะแนนให้คณะกรรมการหรือผู้ได้รับมอบหมายให้มีการอำนวยความสะดวกสำหรับการออกเสียงลงคะแนนของบุคคลดังกล่าวไว้เป็นพิเศษ หรือจัดให้มีการช่วยเหลือในการออกเสียงลงคะแนนภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง ในการให้ความช่วยเหลือดังกล่าวต้องให้บุคคลนั้นได้ออกเสียงลงคะแนนด้วยตนเอง ตามเจตนาของบุคคลนั้น เว้นแต่ลักษณะทางกายภาพทำให้คนพิการ หรือทุพพลภาพ หรือผู้สูงอายุไม่สามารถทำเครื่องหมายลงในบัตรเลือกตั้งได้ ให้บุคคลอื่นหรือกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งเป็นผู้กระทำการเแทนโดยความยินยอม และเป็นไปตามเจตนาของคนพิการ หรือทุพพลภาพหรือผู้สูงอายุนั้น ทั้งนี้ ให้ถือเป็นการออกเสียงลงคะแนนโดยตรงและลับ 
    ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ว่า ไม่มีข้อความขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ เนื่องจากอำนวยความสะดวกหรือจัดให้มีความช่วยเหลือในการออกเสียงลงคะแนนของคนพิการหรือทุพพลภาพ หรือผู้สูงอายุตามมาตราดังกล่าว ยังอยู่ในขอบเขตของวิธีออกเสียงลงคะแนนโดยตรงและลับ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 85 วรรคหนึ่ง
    สำหรับคำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดิน ที่ขอให้วินิจฉัยคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 53/2560 เรื่องการดำเนินการตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองมีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญมาตรา 25 ถึง 27 และมาตรา 45 หรือไม่ ตามที่ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ รักษาการหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ร้องเรียนต่อผู้ตรวจการแผ่นดินนั้น ศาลรัฐธรรมนูญได้นัดแถลงด้วยวาจาเพื่อการนำไปสู่การลงมติในวันอังคารที่ 5 มิ.ย. นี้
    นายอุดม รัฐอมฤต โฆษกคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวว่า หลังจากนี้ ศาลรัฐธรรมนูญจะต้องส่งคำวินิจฉัยกลับมายัง สนช. เพื่อส่งร่างกฎหมายต่อไปถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย ก่อนบังคับใช้เป็นกฎหมายต่อไป โดยจะมีระยะเวลาตามขั้นตอนไม่เกิน 90 วัน และเมื่อร่างกฎหมายได้รับการโปรดเกล้าฯ ก็จะทำให้กฎหมายลูกทั้ง 4 ฉบับที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งมีผลบังคับใช้ แต่จะยังไม่สามารถนับ 1 กระบวนการจัดการเลือกตั้งได้ เพราะต้องนับไปอีก 90 วัน ร่าง พ.ร.ป.ส.ส.ถึงจะมีผลบังคับใช้ 
ไม่มีเหตุเลื่อนเลือกตั้งอีก
    "กรณีดังกล่าว เป็นผลดีเพื่อให้พรรคการเมืองเตรียมพร้อมสู่การเลือกตั้ง และทันทีที่ครบ 90 วัน รัฐบาลกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะหารือกันเพื่อกำหนดวันเลือกตั้งให้จัดขึ้นภายใน 150 วัน ดังนั้น เมื่อคำนวณระยะเวลาแบบเต็มเพดานการเลือกตั้ง จะมีขึ้นภายใน 11 เดือนนับจากเดือนมิถุนายนนี้ ซึ่งจะไปตรงกับเดือนเมษายน 2562 พอดี แต่หากรัฐบาลต้องการให้จัดการเลือกตั้งในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ประกาศไว้ ก็จะต้องไปหารือกับ กกต.ให้ประกาศวันเลือกตั้งภายใน 90 วัน โดยไม่ต้องใช้เวลาถึง 150 วันตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด ก็จะสามารถจัดได้ตามกรอบเวลาเดิมได้" นายอุดมกล่าว
    นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เมื่อศาลวินิจฉัยเช่นนี้ จากนี้ต้องนำกฎหมายขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายเพื่อประกาศใช้เมื่อกฎหมายที่จำเป็นกับการเลือกตั้งออกมาครบทั้ง 4 ฉบับประกาศใช้แล้ว รัฐธรรมนูญกำหนดให้มีการเลือกตั้งภายใน 150 วัน แต่ พ.ร.บ.ส.ส.ระบุให้กฎหมายมีผลบังคับใช้หลังประกาศในราชกิจจานุเบกษา 90 วัน ประกอบกับคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 53/2560 ระบุให้ปลดล็อกทางการเมืองหลังกฎหมายลูกทั้งหมดประกาศใช้ ต้องดูว่ารัฐบาลจะตีความอย่างไร ถ้าปลดล็อกตั้งแต่กฎหมายประกาศในราชกิจจานุเบกษา การเลือกตั้งก็จะเกิดเร็วขึ้นกว่าปลดล็อกเมื่อกฎหมายมีผลบังคับใช้  เพราะเวลา 90 วันนั้น พรรคการเมืองสามารถทำกิจกรรมเพื่อเตรียมการเลือกตั้งได้ก่อน แต่เข้าใจว่ารัฐบาลจะปลดล็อกเมื่อกฎหมายมีผลบังคับใช้
    นายนพดล ปัทมะ แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ทุกภาคส่วนอยากให้มีการดำเนินการตามกรอบเวลาของโรดแมป คือให้ประชาชนได้เลือกตั้งไม่ช้าไปกว่าก.พ.62 ตอนนี้ยังไม่มีปัจจัยใดๆ บ่งชี้ว่าโรดแมปจะเลื่อน และเป็นหน้าที่ของแม่น้ำ 5 สาย คสช.และรัฐบาลที่จะสร้างความมั่นใจให้คนไทยและประชาคมระหว่างประเทศมั่นใจโรดแมปจะไม่ขยับ
    นายวิรัตน์ กัลยาศิริ หัวหน้าคณะกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เมื่อกฎหมายดังกล่าวไม่ขัดต่อเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญแล้ว ก็จะไม่นำเหตุดังกล่าวมาอ้างให้การเลือกตั้งเลื่อนออกไปได้อีก สาเหตุการเลื่อนตั้งที่จะเกิดขึ้นจากกฎหมายจากนี้คงหมดแล้ว แต่สาเหตุอื่นที่จะทำให้การเลือกตั้งเลื่อนออกไป อาจจะมีหรือไม่ก็ได้ ซึ่งตนไม่ทราบอนาคต แต่จากนี้ต่อไปเมื่อกฎหมายไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ทุกอย่างก็ต้องเดินหน้าไปตามโรดแมป โดยรัฐบาลต้องเดินหน้าจัดการเลือกตั้งในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 อย่างที่เคยประกาศไว้
    นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณี พล.อ.ประยุทธ์ระบุการหารือกับพรรคการเมืองจะต้องรอความชัดเจนหลังกฎหมายลูกมีผลบังคับใช้ ทำให้การหารืออาจจะไม่ใช่ในเดือน มิ.ย.ว่า ก็ไม่ควรจะใช่ เพราะยังไม่รู้ว่าจะพบกันด้วยเรื่องอะไร กฎหมายเพิ่งทูลเกล้าฯ ถวาย บางพรรคการเมืองตั้งเงื่อนไขขอให้มีการถ่ายทอดสด ขอให้มีการมาครบทุกพรรค เรื่องเช่นนี้ทั้งผู้ให้และผู้รับต้องสมถวิลทั้งสองฝ่าย เมื่อไม่มีฝ่ายใดต้องการก็ไม่จำเป็น ความตั้งใจของนายกฯ ตอนแรกไม่ได้จะพูดเรื่องปลดล็อก แต่จะพูดหลายเรื่อง แต่บางพรรคตั้งข้อแม้หากไม่คุยเรื่องปลดล็อกเขาไม่คุยด้วย และจะมานั่งมองตากันกี่คน หากไม่มีใครก็ไม่ต้องมา จะหารือเมื่อไหร่ก็ให้รอหลังกฎหมายลูกประกาศใช้ และอย่าลืมว่ากฎหมายลูก ส.ส.ต้องทิ้งระยะไว้ 90 วันก่อนเข้าสู่โหมดเลือกตั้ง 150 วัน ตอนแรกคิดว่ากฎหมายจะประกาศในเดือน มิ.ย. แต่เมื่อมีตัวแปรหลายอย่างเกิดขึ้นจึงเลื่อนไป การพูดคุยนี้ไม่ใช่เงื่อนไขที่ต้องทำเป็นกำหนดขึ้นมา
     เมื่อถามถึงเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญสามารถนำมาเป็นนโยบายหาเสียงได้หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า   ทุกอย่างนำมาหาเสียงได้หมด แต่ต้องบอกว่าเป็นการแก้ไข แต่ถ้าบอกว่าฉีกรัฐธรรมนูญไม่ถือเป็นนโยบาย คำพูดไม่ได้ผิดอะไรในวันนี้ แต่จะมีคนบันทึกไว้ พอ 3 เดือน 9 เดือนข้างหน้าการกระทำมันออกมา เขาจะบอกว่าคิดกันมาก่อน แล้วเดี๋ยวจะกลายเป็นพลาดไปเปล่าๆ อย่าไปทำอะไรที่พลาดเอาไว้ หลายคนที่พลาดในวันนี้เพราะพูดอะไรไว้ก่อนหน้านี้ ตอนโน้นไม่ผิด แต่เมื่อคำพูดผสมเข้ากับการกระทำ เขาจะย้อนไปดูว่ามีเจตนามาตั้งแต่ต้น 
ผลึกอนาคตใหม่ฉีก รธน.
    พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม กล่าวถึงรณีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ว่าที่หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ประกาศจุดยืนพรรคจะฉีกรัฐธรรมนูญฉบับ 2560 ว่า การพูดดังกล่าวเป็นการหาเสียง เป็นนโยบายพรรคเขา เพื่อโปรโมตให้ประชาชนสนใจ เพราะเขาอยากทำงานการเมือง แต่ยืนยันว่าการฉีกรัฐธรรมนูญไม่สามารถทำได้ จะไปฉีกได้อย่างไร เรื่องนี้ทางกกต.ดำเนินการอยู่ ส่วนแนวคิดนิรโทษกรรมคดีการเมืองนั้น เขาก็พูดไป ต้องให้ กกต.ดูว่าผิดหรือถูกอย่างไร 
    “คสช.ทำอะไรผิด คสช.ไม่ได้ทำอะไรผิดสักเรื่อง ที่ผ่านมา ไม่ว่าจะทำอะไร ท่านนายกฯ สั่งให้ตรวจสอบทุกเรื่อง ทั้งการอนุมัติงบประมาณ หรือการทำงานต่างๆ ทุกเรื่อง ทุกอย่างจะคิดเองทำเองไม่ได้ ยืนยันว่า คสช.ทำทุกอย่างตามกฎหมาย" พล.อ.ประวิตรกล่าวถึงการประกาศนโยบายแบบนี้เป็นไปได้หรือไม่ว่าจะเช็กบิลคสช.หลังลงจากอำนาจ 
    นายนพดล ปัทมะ กล่าวถึงกรณีพรรคอนาคตใหม่ประกาศจะแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 60 ว่า พรรคเพื่อไทยได้มีการพูดคุยอย่างไม่เป็นทางการระหว่างสมาชิก ก็มีความสนใจในประเด็นนี้มาตั้งนานแล้ว ส่วนจะเสนอแก้ไขในเรื่องใด ก็ขอเวลาได้ปรึกษาหารือกันให้ตกผลึกก่อน แล้วจะนำเสนออย่างเป็นระบบ และคิดว่าเป็นหนึ่งในประเด็นที่พรรคเพื่อไทยจะใช้รณรงค์หาเสียงเลือกตั้งครั้งต่อไป
    ร.ท.หญิงสุณิสา ทิวากรดำรง อดีตรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การที่รัฐบาลมีทีท่าว่าจะล้มเลิกการนัดพบหารือกับพรรคการเมืองในเดือน มิ.ย.นี้ คือ ลางบอกเหตุว่าเตรียมจะเบี้ยวเลือกตั้งอีกแล้ว ทั้งที่ไม่กี่วันก่อน พล.อ.ประยุทธ์และบุคคลอื่นๆ ในรัฐบาลต่างดาหน้ากันออกมายืนยันว่าจะมีการเลือกตั้งแน่นอนในเดือน ก.พ.2562 โดยไล่ให้กลุ่มคนอยากเลือกตั้งยุติการชุมนุม อ้างว่าอีกไม่กี่เดือนก็จะเลือกตั้ง แล้วจะมาเดินขบวนทำไม แต่ยังไม่ทันไรก็หางโผล่ซะแล้ว แม้ว่าหลายฝ่ายจะไม่ได้ให้ราคากับการเรียกประชุมพรรคการเมืองในครั้งนี้นัก แต่ก็คงไม่มีใครนึกว่ารัฐบาลจะทำตัวน่าเกลียดขนาดนี้ พูดจากลับไปกลับมา ทำตัวไม่สมกับเป็นผู้ใหญ่
    มีรายงานว่า เมื่อวันที่ 28 พ.ค.ที่ผ่านมา คสช. โดยพ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ นายทหารปฏิบัติการประจำกองบัญชาการกองทัพบก ปฏิบัติหน้าที่คณะทำงานด้านกฎหมายส่วนงานการรักษาความสงบแห่งชาติ เข้าพบพนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม ร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีกับกลุ่มบุคคล ประกอบด้วย นายรังสิมันต์ โรม, นายอานนท์ นำภา, นางสาวชลธิชา แจ้งเร็ว, นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือจ่านิว, นางสาวณัฏฐา มหัทธนา,นายปิยรัฐ จงเทพ, นายเอกชัย หงส์กังวาน, นายโชคชัย ไพบูลย์รัชตะ, นายนิกร วิทยาพันธ์, นายภัทรพล จันทร์โคตร, นายประสงค์ วางวัน, นายวิเศษณ์ สังขวิศิษฏ์,นายวิโรจน์ โตงามรักษ์, นางสาวศรีไพ นนทรีย์, นายวันเฉลิม กุนเสน, นายประสิทธิ์ ครุธาโรจน์, นายธนวัฒน์ พรมจักร, นายประจิณ ฐานังกรณ์, นายบุญสิน หยกทิพย์, นายคีรี ขันทอง, นายพุทไธสิงห์ พิมพ์จันทร์ รวม 21 คน
    ในความผิดตามคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 3/2558 และประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 (2) (3) หรือความผิดอาญาอื่นที่รัฐเป็นผู้เสียหาย ตามกฎหมาย จนกว่าคดีจะถึงที่สุด โดยบุคคลดังกล่าวมีพฤติการณ์เป็นแกนนำผู้ชุมนุม ซึ่งได้แบ่งงานกันทำ เริ่มตั้งแต่มีการโพสต์ข้อความชักชวนกลุ่มบุคคลมาร่วมชุมนุม เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนเพื่อให้ล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน และในการชุมนุมในวันที่เกิดเหตุนายรังสิมันต์กับพวกได้ขึ้นพูดปราศรัยโจมตีการทำงานของรัฐบาลและ คสช.อย่างรุนแรง
    นอกจากนี้ ยังได้ร้องทุกข์กล่าวโทษผู้มาร่วมชุมนุมกับกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง โดยกระทำความผิดตามคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 3/2558 รวม 41 คน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 5-22 พ.ค.61 
    ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่มีพยานหลักฐานชัดเจน ทั้งภาพถ่ายและภาพเคลื่อนไหวจากสื่อมวลชนที่นำเสนอข่าวออกไป และจากหน่วยข่าวที่เข้าไปในพื้นที่ พบว่ามีบุคคลที่เข้าร่วมชุมนุมหลายคนเป็นแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงในจังหวัดต่างๆ อาทิ จ.นนทบุรี, จ.ปทุมธานี, จ.สมุทรปราการ, จ.ระยอง, จ.ชลบุรี และ จ.สระแก้ว เป็นต้น.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"