20 พ.ค.64 - ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก(วานนี้) ร.ต.อ.เจษฎา เหมโก พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) ได้ฝากขังผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ นายกิตติศักดิ์ เย็นนานนทน์ รองประธานกรรมการบริหารบริษัทในเครือเอ็มกรุ๊ป ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ในคดีร่วมกับนายประสิทธิ์ เจียวก๊ก ประธานโครงการคืนคุณแผ่นดิน ผู้ต้องหาคดีฉ้อโกงประชาชน โดยฝากขังครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 19-30 พ.ค. 2564 เนื่องจากจะต้องรอสอบปากคำพยานบุคคลอีก 30 ปาก รอผลตรวจลายพิมพ์นิ้วมือ และประวัติการต้องโทษ
คำร้องฝากขังระบุพฤติการณ์สรุปได้ว่า ก่อนเกิดเหตุบริษัท เหนือโลก จำกัด ซึ่งมีนายกิตติศักดิ์ ผู้ต้องหา กับ นายประสิทธิ์ เป็นผู้มีอำนาจ ได้รับโอนเงิน จากบริษัท วีเลิฟยัวแบ็ก (ไทยแลนด์) จำกัด ที่มีนายประสิทธิ์ เป็นผู้มีอำนาจ บริษัทฯ ได้ร่วมกันประกาศโฆษณาเชิญชวนให้ประชาชนมาร่วมลงทุนในธุรกิจซื้อขายและเช่ากระเป๋าแบรนด์เนมผ่านบริษัทวีเลิฟยัวแบ็กฯ อ้างว่าจะได้รับผลตอบแทนสูง เพียงแต่รอรับเงินปันผลภายในระยะเวลาที่กำหนดเท่านั้น โดยการทำธุรกิจปล่อยเช่ากระเป๋าแบรนด์เนมแก่ลูกค้าทั่วไป อ้างว่า มีฐานลูกค้ากว่า 1 แสนราย ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อตัดสินใจเข้าร่วมลงทุน
รายละเอียดในการลงทุนกับธุรกิจกระเป๋าแบรนด์เนม มีขั้นตอนดังนี้ คือ ให้เข้าไปเลือกสินค้าจากเว็บไซด์ CRABYBRANDNAME.COM ซึ่งจะมีภาพกระเป๋าแบรนด์เนม หลายยี่ห้อ พร้อมราคาสินค้า จากนั้นสามารถเลือกสินค้าได้หลายชิ้นตามที่ต้องการลงทุน แล้วสามารถชำระเงินได้หลายช่องทาง เช่น จ่ายเป็นเงินสด ผ่านบัตรเคดิต หรือ โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารต่างๆ หลายแห่ง หรือชำระเป็นทองคำ เมื่อชำระเงินเรียบร้อยแล้ว จะมีสัญญาที่ลงลายมือชื่อ ซึ่งสามารถดาวน์โหลดไฟล์ PDF ได้จากเว็บไซต์ของร้าน และจะได้รับใบเสร็จรับเงิน ซึ่งหลังจากผ่านขั้นตอนการลงทุนเรียบร้อยแล้ว ก็จะได้รับผลตอบแทน ทุกวันที่ 30 ของเดือน แต่ปรากฏว่ามิได้มีการจ่ายเงินตอบแทนตามที่สัญญาตกลงกันไว้แก่ผู้เสียหาย จึงได้มีการทวงถามทั้งทางโทรศัพท์และทางไลน์ แต่เริ่มติดต่อได้ยากขึ้น จึงเชื่อว่าถูกหลอกลวง
จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบว่า บริษัทดังกล่าวไม่พบว่ามีการลงทะเบียนทางศุลกากรจริง และผู้เสียหายไม่ได้รับเงินตอบแทนแต่อย่างใด ทำให้เกิดความเสียหายทั้งสิ้น 21,583,846 บาท จึงแจ้งความร้องทุกข์ดังกล่าว ต่อมาศาลอาญาได้ออกหมายจับนายประสิทธิ์ผู้ต้องหา กระทั่งเมื่อวันที่ 18 พ.ค.ที่ผ่านมาเวลา 12.50 น. นายกิตติศักดิ์ ผู้ต้องหา ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 750/2564 ลงวันที่ 12 พ.ค.2564 ได้เดินทางเข้ามอบตัวกับตำรวจ ปอศ. ตามที่ถูกออกหมายจับ จึงแจ้งข้อหาว่า ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันกู้ยืมเงินเป็นการฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341, 343 วรรคแรก, พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 และ พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2534 มาตรา 3 เหตุเกิดที่แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน และเขตห้วยขวาง กทม. ต่อเนื่องกัน ซึ่งผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ
ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนขอคัดค้านการปล่อยชั่วคราว เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง หากให้ประกันตัวผู้ต้องหาน่าจะหลบหนี หรือไปยุ่งเหยิงพยานหลักฐานได้ อีกทั้งมีประชาชนตกเป็นผู้เสียหายจำนวนมาก และทางการสอบสวนพบว่า ผู้ต้องหารายนี้เป็นผู้บงการ รวมทั้งมีตำแหน่งเป็นผู้บริหารและมีอำนาจจัดการในบริษัทต่างๆ ซึ่งเป็นนิติบุคคลที่ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีนี้ การปล่อยชั่วคราวอาจทำให้เสียหายต่อรูปคดีได้
ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ฝากขังได้
ต่อมาญาติยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ขอปล่อยชั่วคราวนายกิตติศักดิ์ โดยศาลพิจารณาแล้วไม่อนุญาตให้ประกันตัว ให้ยกคำร้อง ตำรวจจึงควบคุมตัวนายกิตติศักดิ์ไปคุมขังยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ในชั้นฝากขังนี้ต่อไป
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |