ติดเชื้อรายใหม่ 3,394 ราย ดับ 27 ราย ติดจากเรือนจำ 1,498 ราย ลุยตรวจเชิงรุกในคุกอีก 2-3 วัน คาดสัปดาห์หน้าลดลง คุมเข้มแคมป์คนงาน กทม. หากไม่ทำตามมาตรการสำนักงานเขตสั่งปิดได้ เปิดรับจิตอาสาแพทย์ช่วย รพ.สนาม เตือนถ้าไม่ช่วยลดตัวเลขสร้าง รพ.เท่าไหร่ก็ไม่พอ เตรียมพร้อม รพ.สนามรองรับคลัสเตอร์แรงงาน-ราชทัณฑ์เร่งตรวจหาเชื้อโควิดให้ผู้ต้องขัง 100% อธิบดีราชทัณฑ์ยอมรับโควิดระบาดเกิดจากการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามระเบียบ สปสช.-สบส.ย้ำ รพ.เอกชนงดแจ้งค่าใช้จ่าย-ห้ามเก็บเงินผู้ป่วยโควิด
ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 19พฤษภาคม พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์ประจำวันว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3,394 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 1,879 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 1,625 ราย มาจากการค้นหาเชิงรุก 254 ราย เป็นผู้ติดเชื้อในเรือนจำ 1,498 ราย เป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 17 ราย ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 116,949 ราย หายป่วยสะสม 74,368 ราย เฉพาะวันนี้หายป่วย 4,450 ราย อยู่ระหว่างรักษา 41,903 ราย อาการหนัก 1,210 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 402 ราย มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม 29 ราย เป็นชาย 19 ราย หญิง 10 ราย อยู่ใน กทม. 14 ราย, สมุทรปราการ 5 ราย, ปทุมธานี 2 ราย, ฉะเชิงเทรา ลำพูน ชลบุรี สระบุรี นครปฐม กำแพงเพชร หนองคาย นนทบุรี จังหวัดละ 1 ราย โดยมีถึง 4 รายที่ทราบผลว่าติดเชื้อวันเดียวกับที่เสียชีวิต และมีถึง 13 รายที่เสียชีวิตในช่วงสัปดาห์แรกหลังทราบผลว่าติดเชื้อ ทำให้มียอดผู้เสียชีวิตสะสม 678 ราย ขณะที่สถานการณ์โลก มีผู้ติดเชื้อสะสม 164,886,821 ราย เสียชีวิตสะสม 3,418,430 ราย
พญ.อภิสมัยกล่าวว่า สำหรับผู้ติดเชื้อที่เดินทางต่างประเทศ 17 ราย ในจำนวนนี้มีสัญชาติอินเดีย 1 ราย เดินทางเข้าประเทศมาตั้งแต่วันที่ 19 เม.ย.และทราบผลว่าติดเชื้อเมื่อวันที่ 27 เม.ย. ยืนยันว่าตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.ไม่มีคนสัญชาติอินเดียเข้าประเทศ นอกจากนี้ ยังพบว่ามี 5 รายที่เดินทางจากกัมพูชาเข้าเมืองผิดกฎหมายผ่านช่องทางธรรมชาติ เป็นสัญชาติไทย 4 ราย กัมพูชา 1 ราย และจากรายงานผู้ลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายในรอบ 24 ชั่วโมง มีทั้งสิ้น 113 ราย มีทั้งจากเมียนมา ลาว กัมพูชา มาเลเซีย โดยที่ประชุม ศบค.ชุดเล็กเน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานเข้มงวดสูงสุด เนื่องจากมีความเป็นห่วงทั้งการนำเชื้อเข้าประเทศและเป็นห่วงว่าเชื้อที่นำเข้ามานั้นจะเป็นเชื้อกลายพันธุ์หรือไม่
ผู้ช่วยโฆษก ศบค.กล่าวว่า จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อ 5 จังหวัดแรกในวันที่ 19 พ.ค. ได้แก่ กทม. 876 ราย, สมุทรปราการ 153 ราย, นนทบุรี 130 ราย, ปทุมธานี 119 ราย และเพชรบุรี 76 ราย โดยการติดเชื้อที่เกิดขึ้นนั้น มีการร้องเรียนกันมาว่าแม้จะปิดสถานบันเทิงแล้ว แต่ยังมีการรวมตัวกันตามบ้าน เช่น เล่นการพนัน ตั้งวงสูบบารากู่ ขณะที่วันเดียวกัน พบว่ามี 14 จังหวัดที่ไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ ในส่วนของผู้ติดเชื้อในเรือนจำตั้งแต่วันที่ 13-19 พ.ค. มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 12,926 ราย หลังจากนี้จะมีการตรวจเชื้อเชิงรุกในเรือนจำอีก 2-3 วัน อาจทำให้เห็นตัวเลขในช่วงสัปดาห์นี้ หลังจากนั้น 1 สัปดาห์ตัวเลขน่าจะลดลงและหมดไป
ผู้ช่วยโฆษก ศบค.กล่าวอีกว่า ในส่วนของ กทม.จะยังมีการตรวจเชิงรุกต่อเนื่อง โดยข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.ถึงปัจจุบัน มีการตรวจไปแล้ว 187,500 ราย ติดเชื้ออยู่ที่ 3.5% จะน้อยก็ถือว่าไม่น้อย เป็นสิ่งที่ประชาชนต้องร่วมมือกันกดตัวเลขเหล่านี้ให้ได้ เพราะเปิดโรงพยาบาลอีกเท่าไหร่ก็ไม่พอ ถ้าไม่สามารถกดตัวเลขลงได้ อย่างไรก็ตาม คลัสเตอร์สำคัญที่ ศบค.เฝ้าติดตามใน กทม. ขณะนี้มีทั้งสิ้น 34 คลัสเตอร์ โดย 5 คลัสเตอร์ที่เพิ่มมาใหม่คือ แคมป์ก่อสร้างเขตบางคอแหลม โรงงานน้ำแข็ง เขตจตุจักร แคมป์ก่อสร้าง เขตดอนเมือง โกดังสินค้าให้เช่า เขตบางซื้อ ตลาดบางกะปิ เขตบางกะปิ และถ้าดูจาก 50 เขตใน กทม. พบว่ามีแคมป์คนงานทั้งหมดทุกเขต และมีบางเขตมีมากกว่า 20 แคมป์ เช่น บางกะปิ บางเขน ลาดพร้าว ห้วยขวาง บางแคมป์มีคนงานเกิน 1,000 คนอย่างในเขตบางคอแหลมที่แม้มีแคมป์คนงานเพียง 2 แคมป์ แต่ที่มีคนงานมากที่สุดมีเกิน 1,000 คน
สำนักงานเขตสั่งปิดแคมป์ได้
“ดังนั้น สำหรับแคมป์คนงานที่ยังไม่พบผู้ติดเชื้อ อยู่ระหว่างการตรวจสอบ หน่วยงานภาครัฐจะเข้าไปเฝ้าระวังไม่ให้เกิดการติดเชื้อ ผอ.เขตจะเข้าไปขอความร่วมมือ มาตรการที่กระทรวงสาธารณสุขแนะนำ อาทิ การดื่มน้ำที่บางแคมป์ให้ดื่มน้ำจากกระติกเดียวกัน ใช้แก้วร่วมกัน จะต้องสื่อสารว่าทำเช่นนี้ไม่ได้ ขอลดการเคลื่อนย้ายคนงาน ส่วนแคมป์ที่มีผู้ติดเชื้อแล้ว หากไปปิดแคมป์ทั้งหมดเป็นห่วงว่าจะกระทบต่อเศรษฐกิจ แคมป์ที่มีที่พักติดกับพื้นที่ก่อสร้าง ขอให้งดออกจากพื้นที่ ส่วนแคมป์ที่มีที่พักอยู่ห่างกับพื้นที่ก่อสร้าง ขอให้ใช้มาตรการบับเบิลแอนด์ซีล หากจะมีการเคลื่อนย้ายคนงานต้องขออนุญาตจากสำนักงานเขต ถ้าแคมป์คนงานต่างๆ ทำตามไม่ได้ สำนักงานเขตมีอำนาจสั่งปิดแคมป์ได้”
พญ.อภิสมัยกล่าวด้วยว่า ขอฝากเรื่องการระดมกำลังในแง่ของการตรวจคัดกรองเชิงรุก การเปิดโรงพยาบาลสนาม ความต้องการบุคลากรทางการแพทย์ ทางการสาธารณสุข มาช่วยดูแลประชาชนเหล่านี้ เนื่องจากเราเริ่มมีภาวะตึงตัว ดังนั้น ขอรับอาสาสมัคร จิตอาสา บุคลากรทางการแพทย์ โดยที่สามารถติดต่อมาที่สายด่วน 1669 ของกรมการแพทย์ได้ทันที จะได้ช่วยติดตามให้ทุกคนสามารถเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยประชาชนที่ติดเชื้อเจ็บป่วยด้วย
นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้มีการเตรียมพร้อมโรงพยาบาลและโรงพยาบาลสนาม เพื่อรองรับผู้ติดเชื้อโควิดจากคลัสเตอร์กลุ่มแคมป์คนงานก่อสร้าง โดยเฉพาะในพื้นที่เขตหลักสี่และวัฒนา ซึ่งพบว่าผู้ติดเชื้อโควิดส่วนใหญ่เป็นแรงงานต่างด้าว หากผู้ติดเชื้อมีอาการระดับสีเขียว จะนำส่งรักษาที่โรงพยาบาลสนาม จ.สมุทรสาคร กลุ่มสีเหลือง มีศูนย์แรกรับ-ส่งต่อนิมิบุตร และสถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนีได้รองรับบางส่วนแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างหารือให้ส่งต่อไปยังโรงพยาบาลบุษราคัม เพื่อช่วยรับบางส่วนด้วย อีกทั้งได้มีการสั่งการให้เรือนจำทั่วประเทศจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม หากเรือนจำและทัณฑสถานใดที่มีการแพร่ระบาดของโรค จะต้องดำเนินการตรวจหาเชื้อผู้ต้องขังทั้งเรือนจำและทัณฑสถานให้ครบ 100% รวมทั้งเอกซเรย์ปอดผู้ติดเชื้อจนครบทุกราย เพื่อแยกกลุ่มตามลักษณะอาการและเร่งการรักษาอย่างทันท่วงที
นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้รับมอบหมายจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้ตอบคำถามสื่อมวลชนที่ส่งถึงนายกฯ กรณีการใช้งบประมาณของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในโรงพยาบาลบุษราคัมว่า โรงพยาบาลบุษราคัมเป็นโรงพยาบาลอย่างเต็มรูปแบบ ไม่ใช่โรงพยาบาลสนาม หรือจะไปเปรียบเทียบกับหอพักไม่ได้ โดยมีเครื่องมือต่างๆ ทางการแพทย์ครบถ้วน เช่น เครื่องออกซิเจน เครื่องเอกซเรย์ การติดตั้งเครื่องช่วยหายใจ ที่มีระบบการติดตั้งเหมือนกับที่โรงพยาบาล โดยดูแลผู้ป่วยที่มีอาการหรือผู้ป่วยสีเหลือง และผู้ป่วยสีเขียวบางส่วน ขณะเดียวกันยังรองรับผู้ป่วยสีแดงที่ออกจากห้องไอซียูแล้วมารักษาต่อที่โรงพยาบาลบุษราคัมแห่งนี้ อีกทั้งมีบุคลากรที่มาจากจังหวัดต่างๆ ซึ่งมีแพทย์มากกว่า 20 คน พยาบาลมากกว่า 130 คน และเภสัชกรประจำอีกมากมาย จึงเป็นโรงพยาบาลที่สมบูรณ์แบบ และขอให้ประชาชนในพื้นที่บริเวณดังกล่าวไม่ต้องกังวล
ด้านนายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ แถลงข่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ว่าข้อมูล ณ วันที่ 18 พ.ค.2564 เวลา 11.00 น. มีผู้ต้องขังติดเชื้ออยู่ระหว่างการรักษา 12,767 ราย จากเรือนจำและทัณฑสถานทั่วประเทศ จำนวน 11 แห่ง โดยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ในวันนี้ จำนวน 1,117 ราย อีก 2 แห่ง ไม่พบผู้ติดเชื้อแล้วคือเรือนจำจังหวัดนราธิวาสและเรือนจำอำเภอแม่สอด ทั้งนี้ ได้สั่งการให้เรือนจำตั้งศูนย์แก้การระบาดโควิดประจำเรือนจำ มอบนโยบายให้ทุกแห่งจัดโรงพยาบาลสนาม ให้ตรวจหาเชื้อโดยเร็ว จำกัดวงการแพร่กระจาย
ยธ.ตั้งวอร์รูมคุมโควิดคุก
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า ได้ยกระดับการป้องกันจัดตั้งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ภายในสถานที่ควบคุมของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม โดยมีศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นผู้อำนวยการศูนย์ นอกจากนี้กรณีมีผู้ต้องขังล้นเรือนจำ บางเรือนจำมีผู้ต้องขังเกินจากความเป็นอยู่ ตามมาตรฐาน 1.2 ตารางเมตรต่อคน หากเรือนจำไหนเกลี่ยคนไม่ให้แออัดไม่ได้ แล้วมีเชื้อโควิดเข้าไป ผบ.เรือนจำต้องรับผิดชอบ
นายสุวัฒน์ เทพอารักษ์ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ทำหน้าที่แทนประธาน กสม. เปิดเผยว่า ในการประชุม กสม.ด้านการบริหารมีความห่วงใยเป็นอย่างยิ่งต่อสิทธิในสุขภาพและชีวิตของผู้ต้องขัง จึงมีข้อเสนอแนะให้รัฐบาลหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งจัดหาและดำเนินการฉีดวัคซีนให้แก่ผู้ต้องขังในเรือนจำอย่างทั่วถึง ขอให้กรมราชทัณฑ์ทำความเข้าใจกับญาติของผู้ต้องขังถึงข้อจำกัดเรื่องสิทธิในการเข้าเยี่ยมการเปิดเผยข้อมูลความเจ็บป่วยของผู้ต้องขังที่ติดเชื้อ และเปิดช่องทางการติดต่อสื่อสารหรือเข้าเยี่ยมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์
พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) ตรวจความพร้อมโรงพยาบาลราชพิพัฒน์ 2 ซึ่งเป็นโรงพยาบาลสนาม กทม.แห่งที่ 6 เพื่อรองรับผู้ป่วยโควิด ณ วัดศรีสุดารามวรวิหาร เขตบางกอกน้อย โดยได้รับความเมตตาจากพระเทพประสิทธิมนต์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร เจ้าอาวาสวัดศรีสุดารามวรวิหาร ให้ใช้พื้นที่ของโรงเรียนพระปริยัติธรรมของวัด เปิดให้เป็นหอผู้ป่วยโควิดที่ไม่มีอาการ หรือมีอาการไม่รุนแรง (โควิดเขียว) สามารถรองรับผู้ป่วยได้ 200 เตียง เริ่มเปิดรับผู้ป่วยตั้งแต่เวลา 12.00 น. วันที่ 19 พ.ค.เป็นต้นไป
ที่สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี (สบยช.) จ.ปทุมธานี นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์, นพ.กิตตินันท์ อนรรฆมณี ผอ.สถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล (สรพ.), ดร.ริชาร์ด บราวน์ ผู้แทนองค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานหอผู้ป่วยโควิด-19 ส่วนขยายฯ (Extended Cohort Ward) ของ สบยช. กรมการแพทย์ โดยนายสาธิต กล่าวว่า ได้เชิญผู้แทนองค์การอนามัยโลกและ สรพ.มาเยี่ยมชมการดำเนินงานหอผู้ป่วยโควิดส่วนขยายฯ สบยช. ซึ่งเป็น รพ.ดูแลผู้ป่วยยาเสพติด ได้พัฒนาศักยภาพให้สามารถดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด-19 กลุ่มสีเขียว (ไม่มีอาการ) และสีเหลือง (มีอาการปานกลาง)
นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เป็นประธานประชุมผ่านระบบผ่านระบบออนไลน์โปรแกรม Zoom Meeting ร่วมกับตัวแทนโรงพยาบาล (รพ.) เอกชนทั่วประเทศกว่า 300 แห่ง เพื่อชี้แจงแนวทางการขอรับค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขสำหรับกรณีโรคติดเชื้อโควิด-19 และกรณีการเบิกจ่ายยูเซ็ป (UCEP) โควิด-19 ตามนโยบายเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤติมีสิทธิทุกที่ ในช่วงที่ผ่านมา ที่มี รพ.เอกชนเรียกเก็บเงินจากประชาชน พบว่ามี 3-4 สาเหตุ ที่มี รพ.เอกชนเรียกเก็บเงินจากผู้ป่วย แต่ตอนนี้แก้ปัญหาหมดแล้ว เชื่อว่าสถานการณ์น่าจะดีขึ้น
ด้าน นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดี กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กล่าวว่า หลักการของทั้ง สบส.และ สปสช. คือใช้กลไกการไกล่เกลี่ยและดูข้อเท็จจริงว่าประชาชนมีสิทธิได้รับการรักษาฟรีตามสิทธิหรือไม่ เมื่อไกล่เกลี่ยกันได้ก็คืนเงินให้ผู้ป่วย แต่ในกรณีที่ตกลงกันไม่ได้ ก็ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ มีบางกรณีที่ทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิดว่ากำลังถูกเรียกเก็บเงินขณะที่กำลังรักษาโควิด เนื่องจากตามระบบของ รพ.เอกชนบางแห่ง จะมีการแจ้งอัตราค่ารักษาพยาบาลให้ทราบเป็นระยะๆ ซึ่งตรงนี้ สบส.ได้ทำหนังสือขอความร่วมมือให้งดแจ้งค่าใช้จ่ายสำหรับผู้ป่วยที่มีสิทธิได้รับการรักษาฟรีไปก่อน
“สบส.ประกาศให้โควิด-19 เป็นโรคฉุกเฉินตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล ทำให้ รพ.เอกชน ทุกแห่งต้องดูแลผู้ป่วยเหมือนเป็นผู้ป่วยฉุกเฉิน โดยประชาชนไม่เสียค่าใช้จ่าย และโรงพยาบาลเบิกค่ารักษากับ สปสช. ส่วนค่าใช้จ่ายที่ไม่อยู่ในรายการที่กำหนด สามารถแจ้งมาที่ สบส. เพื่อพิจารณาขยายเพิ่มเติมแล้วจะคืนเงินให้เมื่อผ่านการพิจารณาจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้ว โดยขณะนี้สมาคม รพ.เอกชนได้เสนอเพิ่มเติมรายการเข้ามา 6-7 รายการ” นพ.ธเรศ กล่าว.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |