ตำรวจตามล่าทนายหนุ่มรวมหัวทนายสาวขนยาไอซ์ 860 กก. ปรากฏขนทรัพย์สินเผ่นไปก่อนหน้า แต่ก็ยังยึดที่เหลือมูลค่าไม่ต่ำกว่า 15 ล้าน คาดยังหลบหนีอยู่ในประเทศ พบสนิทสนมกับเครือข่ายยาเสพติด เคยว่าความให้หลายครั้งก่อนผันตัวมาทำเสียเอง
เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคมนี้ พล.ต.ต.ภาณุเดช บุญเรือง รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5, พล.ต.ต.จารึก ลิ้มสุวรรณ ผบก.สส.ภ.5 พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ป.ป.ส.ภาค 5 ได้นำหมายศาลเข้าจับกุมนายเอกราช พิทักษ์ไพร อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 26/3 หมู่ 12 ต.แม่วิน อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ อาชีพเป็นทนายความ ในหมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่ง เขต ต.สันทรายน้อย อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ซึ่งเปิดเป็นสำนักงานทนายความด้วย แต่ปรากฏว่านายเอกราชและครอบครัวได้ไหวตัว ขนย้ายทรัพย์สินออกไปก่อนแล้ว ทางเจ้าหน้าที่จึงอายัดเอกสารสำคัญ เป็นโฉนดที่ดิน, บัญชีเงินฝากธนาคารที่มีเงินไม่ต่ำกว่า 3 ล้านบาท รถยนต์จำนวน 1 คัน อาวุธปืน 3 กระบอก กระสุน-อาวุธปืนสงคราม และกระสุนปืนชนิดต่างๆ อีกกว่า 900 นัด ทองรูปพรรณ เงินแท่ง รวมทั้งบ้านพักในพื้นที่ อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ อีก 1 หลัง รวมมูลค่าทรัพย์สินไม่ต่ำกว่า 15 ล้านบาท
การออกหมายจับนายเอกราช สืบเนื่องจากเมื่อกลางดึก วันที่ 29 พ.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภาค 5 ได้จับกุมตัว น.ส.ชญาดา ชัยแว่นแคว้น อายุ 29 ปี อาชีพทนายความ พร้อมด้วยของกลาง ยาไอซ์ จำนวน 32 กระสอบ หนักรวมประมาณ 860 กิโลกรัม รถยนต์กระบะติดตั้งห้องเย็น สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จำนวน 1 คัน รถยนต์กระบะโตโยต้า วีโก้ สีดำ หมายเลขทะเบียน 5 กข 1759 กรุงเทพมหานคร โทรศัพท์มือถือ จำนวน 5 เครื่อง โดยจับกุมได้บนนถนนสายเทิง-เชียงราย เชิงสะพานข้ามแม่น้ำลาว ต.ท่าสาย อ.เมือง จ.เชียงราย สอบสวน น.ส.ชญาดารับสารภาพว่า ร่วมกับนายเอกราชที่หลบหนีได้ ขนยาไอซ์จากเชียงรายจะไปส่งให้นายทุนในจังหวัดเชียงใหม่ ก่อนส่งต่อเข้าพื้นที่ภาคกลาง
นอกจากการติดตามจับกุมนายเอกราชแล้ว เจ้าหน้าที่ยังได้ไปตรวจค้นบ้านเลขที่ 116/95 หมู่ 5 ต.สันผีเสื้อ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นบ้านของ น.ส.ชญาดา สามารถตรวจยึดเงินสด 3 แสนบาท แหวนและสร้อยคอทองคำมูลค่ากว่า 2 แสนบาท รถยนต์เก๋งฮอนด้า ซีวิค สีดำ หมายเลขทะเบียน งค 6166 เชียงใหม่ สมุดบัญชีธนาคาร 5 เล่มยอดเงินรวม 5 แสนบาท จึงอายัดทรัพย์สินไว้ทั้งหมด จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ไปตรวจค้นบ้านเลขที่ 299/28 หมู่ 2 ต.สันทรายน้อย อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ซึ่งมีป้ายหน้าบ้านเป็นสำนักงานเอกพิทักษ์ยุติธรรมทนายความ เป็นบ้านของนายเอกราชอีกแห่งหนึ่ง ทำการอายัดบ้านไว้ ราคาประมาณ 4 ล้านบาท
พล.ต.ต.ภาณุเดชเปิดเผยว่า จากการสอบสวน น.ส.ชญาดา ทราบว่าผู้ต้องหามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับนายเอกราช ทนายความหนุ่มที่เปิดสำนักงานทนายความ 2 แห่ง โดยนายเอกราชจากการตรวจสอบประวัติเคยว่าความให้กลุ่มผู้ค้ายาเสพติดหลายครั้ง มีความสนิทชิดเชื้อ จนผันตัวมาเป็นคนขนส่งยาเสพติด ซึ่งคาดว่าน่าจะทำมานานอย่างน้อย 4 ปีแล้ว โดยดูได้จากบัญชีเงินฝากที่มีเงินเข้ามาแต่ละครั้งหลายล้านบาท นอกจากนี้ จากการตรวจค้นบ้านนายเอกราช ยังพบแผนที่ด่านตรวจยาเสพติดของเจ้าหน้าที่ ตลอดเส้นทางจากภาคเหนือถึงภาคใต้ เพื่อใช้ลำเลียงยาเสพติดหลบเลี่ยงด่านตรวจด้วย ซึ่งอยู่ระหว่างขยายผลจับกุมเครือข่ายเท่าที่หลักฐานจะไปถึง ทั้งนี้ คาดว่านายเอกราชยังหลบหนีอยู่ภายในประเทศ.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |