19 พ.ค.2564 - ผู้ว่าข่าวรายงานสถานการณ์โควิด 19 จังหวัดอำนาจเจริญว่า จังหวัดอำนาจเจริญรักษาไข่แดงไว้ไม่ให้โควิดเจาะเข้าได้ 4 วัน( 15 – 18 พ.ค.) แต่ปรากฏว่าวันที่ 19 พ.ค.ถูกเจาะไข่แดงแตกเสียแล้ว เนื่องจาก พบผู้ป่วยยืนยัน 1 ราย เป็นหนุ่มทำงานโรงงานแห่งหนึ่งในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี โดยนั่งรถโดยสาร(รถทัวร์) จากสถานีขนส่งผู้โดยสารหมอชิต กทม.กลับบ้านเกิดจังหวัดอำนาจเจริญ โดยมีอาการบ่งชี้ว่าติดโควิด 19 แน่นอน และผลตรวจพบเชื้อโควิด 19 เข้ารักษาที่ห้องแยกโรคโรงพยาบาลอำนาจเจริญ ส่วนพ่อเมืองอำนาจเจริญ ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจประชาชน หลังจากผ่อนคลายเปิดหมู่บ้านโสกกระแต้ พร้อมประกาศ ผู้เดินทางมาจาก จังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุด 21 จังหวัด เข้าจังหวัดอำนาจเจริญ จะต้องกักตัว 14 วัน ฝ่าฝันปรับไม่เกิน 20,000 บาท 

นพ.ประภาส วีระพล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอำนาจเจริญ(สสจ.)กล่าวว่า วันนี้จังหวัดอำนาจเจริญ มีผู้ป่วยโควิด 19 ระลอก 3  เพิ่มขึ้นอีก 1 ราย ชายไทย อายุ 26 ปี เดินทางกลับมาจากพื้นที่เสี่ยงจังหวัดเพชรบุรี รวมมีผู้ป่วยสะสมระลอก 3 จำนวน 48 ราย หายป่วยระลอก 3 จำนวน 39 และกำลังอยู่ระหว่างการรักษาที่โรงพยาบาล 9 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต 

สำหรับผู้ป่วยยืนยัน โควิด 19 ระลอก 3 รายที่ 48 จังหวัดอำนาจเจริญ ผู้เดินทางกลับมาจากพื้นที่เสี่ยงจังหวัดเพชรบุรี ผู้ป่วยเพศชาย อายุ 26 ปี ภูมิลำเนา บ้านหนองปลิง ต.ดอนเมย อ.เมืองอำนาจเจริญ จ.อำนาจเจริญ อาชีพ พนักงานโรงงาน(โรงงานตั้งอยู่ที่ อ.เข้าย้อย จ.เพชรบุรี) โดยมีไทม์ไลน์ดังนี้ 

วันที่ 1 – 12 พฤษภาคม 2564 อยู่ที่พักละแวกโรงงาน และเดินทางไปทำงาน 

วันที่ 13 – 14 พฤษภาคม 2564 หยุดงานและอยู่ที่พัก 

วันที่ 15 พฤษภาคม 2564 หยุดงาน และไปพักที่หอพักเพื่อนละแวกโรงงาน(เพื่อน 9 คน) เริ่มมีอาการไข้ ไอเล็กน้อย 

วันที่ 16 พฤษภาคม 2564 เดินทางไปที่กรุงเทพมหานคร ด้วยรถจักรยานยนต์( 2 คน แจ้งให้คนไข้โทร.แจ้งเพื่อนแล้ว)พักที่ห้องพักเพื่อนรุ่นน้อง ย่านปิ่นเกล้า กรุงเทพมหานคร ( 2 คน แจ้งให้คนไข้ โทร.แจ้งเพื่อนแล้ว) 

วันที่ 17 พฤษภาคม 2564 พักที่ห้องพักเพื่อนรุ่นน้อง เดินทางไปขึ้นรถที่หมอชิต กรุงเทพมหานคร ด้ายรถจักรยานยนต์(เพื่อนรุ่นน้องไปส่ง) มีอาการเจ็บคอ มีน้ำมูก จมูกไม่ได้กลิ่น เวลา 12.00 น.เดินทางกลับจังหวัดอำนาจเจริญ ด้วยรถโดยสารปรับอากาศ ออกจากสถานีขนส่งหมอชิต (เส้นทางเดินรถ กรุงเทพมหานคร นครราชสีมา มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อุบลราชธานี ผู้ป่วยนั่งชั้น 2 แถวที่ 3 ฝั่งคนขับรถ ขณะนั่งรถผู้ป่วยสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา) เวลา 24.00 น. ลงรถโดยสารที่สถานีขนส่งยโสธร จ.ยโสธร มารดาเดินทางไปรับที่สถานีขนส่งจังหวัดยโสธร ด้วยรถกระบะ โดยผู้ป่วยนั่งที่กระบะท้าย 

วันที่ 18 พฤษภาคม 2564 เวลา 02.00 น. เดินทางถึงจังหวัดอำนาจเจริญ และเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลอำนาจเจริญ ซึ่ง รพ.อำนาจเจริญ รับเป็นผู้ป่วยใน รักษาที่ห้องแยกโรค รพ.อำนาจเจริญ เก็บตัวอย่างส่งตรวจห้องปฏิบัติการหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการยืนยันพบเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 

นอกจากนี้ นายทวีป บุตรโพธิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ เดินทางลงพื้นที่ศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้าการป้องกันและแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID 19) บ้านโสกกระแต้ ต.โคกก่ง อ.ชานุมาน จ.อำนาจเจริญ เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด่านหน้าในการเฝ้าระวังป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID 19) โดยมีนายสมศักดิ์ หอมชื่น สาธารณสุขอำเภอชานุมาน , พ.อ.อ. จักรพงศ์ ศิริโท เจ้าพนักงานปกครองชำนาญการพิเศษ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อสม.และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ 

ในการนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ ได้รับมอบเครื่องอุปโภค บริโภค และสิ่งของที่จำเป็น เพื่อนำไปให้การช่วยเหลือประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(COVID 19) ในชุมชนบ้านดงคำเดือยและบ้านโสกกระแต้ ต.โคกก่ง อ.ชานุมาน จ.อำนาจเจริญ ที่ต้องกักกันตนเอง(ปิดหมู่บ้าน) เนื่องจากการระบาดขอโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(COVID 19) ในครั้งนี้ 

สำหรับ ศูนย์ข้อมูลประชาสัมพันธ์ร่วมจังหวัดอำนาจเจริญ กรณี โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(COVID 19) ได้มีประกาศด่วนที่สุด ว่า ผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่คบคุมสูงสุดและเข้มงวดและพื้นที่ควบคุมสูงสุด ดังต่อไปนี้ พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้างวด 4 จังหวัด ได้แก่ 1. กรุงเทพมหานคร 2.นนทบุรี 2. ปทุมธานี 4. สมุทรปราการ และพื้นที่ควบคุมสูงสุด 17 จังหวัด ได้แก่ 1. กาญจนบุรี 2.ชลบุรี 3.ฉะเชิงเทรา 4.ตาก 5.นครปฐม 6.นครศรีธรรมราช 7.นราธิวาส 8.ประจวบคีระขันธ์ 9.พระนครศรีอยุธยา 10.เพชรบุรี 11.ยาลา 12.ระนอง 13.ระยอง 14.ราชบุรี 15.สมุทรสาคร 16.สงขลา 17.สุราษฎร์ธานี เมื่อเดินทางมาถึงพื้นที่จังหวัดอำนาจเจริญ พักค้างคืน ต้องรายงานตัวต่อ เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ได้แก่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่สาธารณสุข อสม.ในพื้นที่ทันที และต้องกักกันตัวที่บ้าน(Home Quarantine แยกบ้าน แยกยู่ แยกกิน) เป็นระยะเวลา 14 วัน หากไม่รายงานตัวหรือไม่ปฏิบัติตาม ปรับไม่เกิน 20,000 บาท.