"บังฟิต-บังกิบหลี" สองพี่น้องเริงสมุทรยังไม่มอบตัว ตำรวจไล่ล่าผู้ต้องหาที่ถูกหมายจับคดีฆ่าโหดฝังดิน "เสี่ยสุชาติ" ขณะนี้ยังไร้วี่แวว ด้านรองผู้การกระบี่ไม่สนใจข่าวลือ ติดต่อบุคคลสำคัญจะขอมอบตัว เจ้าหน้าที่ลงหาหลักฐานเพิ่ม เจอหัวกระสุนเจาะต้นยาง

    จากคดีสังหารโหด นายสุชาติ ขาวล้วน อายุ 53 ปี ชาว อ.ลำทับ จ.กระบี่ นำร่างไปฝังดินในสวนยางราดน้ำกรดทำลายศพ ส่วนรถเก๋งของผู้ตายนำไปเผาและฝังในสวนปาล์มห่างกันประมาณ 1.5 เมตร หลังผู้ตายไปทวงเงิน 3 แสนบาท กับเพื่อนชื่อนายสุริยา หรือ บังฟิต เริงสมุทร ในพื้นที่ ต.หนองทะเล อ.เมืองกระบี่ บังฟิตวางแผนฆ่าบอกว่า ให้มารับเงินที่บ้าน 5 หมื่นบาทไปก่อน แล้วหิ้วไปอุ้มฆ่า
    ต่อมาตำรวจออกหมายจับทีมสังหารโหด 3 คน ประกอบด้วย นายสุริยา หรือ บังฟิต เริงสมุทร อายุ 31 ปี นายสุรชัย หรือ บังกิบหลี เริงสมุทร อายุ 37 ปี พี่ชายบังฟิต และนายสุวิทย์ หรือ บังเลาะ เริงสมุทร อายุ 25 ปี ญาติผู้น้อง ต่อมานายสุวิทย์ หรือ บังเลาะ เดินทางเข้ามอบตัวกับตำรวจที่ สภ.อ่าวนาง โดยอ้างว่าเพราะต้องการแสดงความบริสุทธิ์
    ความคืบหน้าวันที่ 18 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ชุด EOD ลงพื้นที่สวนยางพารา พื้นที่บ้านหนองแบก หมู่ 1 ตำบลหนองทะเล อำเภอเมืองกระบี่ เพื่อหาหลักฐานรวมถึงหัวกระสุนปืน ที่ใช้ยิงนายสุชาติ ขาวล้วน อายุ 54 ปี เจ้าของร้านอาหารในอำเภอลำทับ ซึ่งถูกคนร้ายยิงและนำร่างไปฝังดินพร้อมรถยนต์ส่วนตัว โดยเจ้าหน้าที่พบรอยหัวกระสุนฝังในต้นยางพารา ห่างจากจุดที่ผู้ต้องหาลงมือยิงประมาณ 10 เมตร สภาพกระสุนฝังในลำต้นยางพารา 2 หัว และมีรอยแฉลบอีก 1 จุด จึงเก็บไว้เป็นหลักฐานเพื่อใช้สรุปสำนวนคดี
    ก่อนหน้านี้ ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดกระบี่ นำช่างกุญแจมาเปิดรถกระบะที่ยึดได้ 3 คัน โดยมี 1 คันไม่มีกุญแจ คือรถสี่ประตู สีส้ม ของนายสุรชัยที่จอดไว้หน้าบ้านหลังหนึ่ง โดยเจ้าหน้าที่เก็บดินที่ติดอยู่ตามรถ เพื่อนำไปเปรียบเทียบกับดินจุดเกิดเหตุ และตรวจหาเส้นผม ลายนิ้วมือแฝงเพิ่มเติม หากหลักฐานเชื่อมโยงถึงบุคคลใดก็ต้องดำเนินคดี โดยเฉพาะผู้ร่วมรู้เห็นกับซ่อนเร้นอำพรางศพ
    ด้าน พ.ต.อ.ตานิตย์ รามดิษฐ์ รอง ผบก.ภ.จว.กระบี่  กล่าวถึงประเด็นที่มีข้อมูลว่า บังฟิตและบังกิบหลี 2 พี่น้องเริงสมุทร พยายามติดต่อผ่านบุคคลสำคัญในพื้นที่ ต.หนองทะเล ให้เป็นคนกลางในการประสานเข้ามอบตัวว่า เรื่องดังกล่าวตนได้รับข้อมูลมา แต่ไม่ได้มีการประสานมาโดยตรง ตนเชื่อว่าผู้ต้องหาพยายามจะให้ข้อมูลมอบตัวมา โดยพยายามติดต่อผ่านทางผู้นำชุมชนในพื้นที่ เพื่อให้ตำรวจลดการกดดันในการติดตามตัว แต่ตนไม่ได้สนใจเรื่องนี้ เพราะเรายังต้องติดตามตัวมาให้ได้ โดยส่งทีมติดตามไปกดดัน และหาเบาะแสทุกทาง ส่วนยังหลบหนีในพื้นที่หรือไม่ ตอนนี้ยังไม่สามารถบอกได้ นอกจากนี้ยังให้ทีมสืบสวน หาพยานหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อเชื่อมโยงพฤติกรรมคนร้ายทั้งหมดว่า ลงมือก่อเหตุอย่างไร ใครเกี่ยวข้องบ้าง หากพยานหลักฐานไปถึงใครก็ต้องออกหมายจับเพิ่ม
    ส่วน นายสุวิทย์ เริงสมุทร อายุ 26 ปี หรือ “บังเลาะ” 1 ใน 3 ผู้ต้องหาที่เข้ามอบตัวไปก่อนหน้านี้ ได้ถูกนำตัวไปฝากขังต่อศาลจังหวัดกระบี่แล้วเมื่อวาน (17 พ.ค.) และศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว.