18พ.ค.2564-รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม ระบุว่า ภายหลังจากนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ได้ให้นโยบายในการเร่งฉีดวัคซีนแก่พนักงานที่ปฏิบัติงานด่านหน้าในระบบคมนาคมขนส่งทั้งหมด เนื่องจากเป็นบุคลากรกลุ่มเสี่ยง ที่มีโอกาส เป็นผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) และอาจจะระบาดไปสู่ผู้ใช้บริการอื่นได้ โดยนายศักดิ์สยาม ยังได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่ให้บริการการขนส่ง จัดส่งจำนวน และรายชื่อพนักงานด่านหน้า ที่จะต้องเร่งฉีดวัคซีน เพื่อนำเสนอให้กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) จัดสรรวัคซีนให้นั้น คาดว่า จะเริ่มดำเนิการตั้งแต่วันที่ 24-31 พ.ค. 2564 ที่สถานีกลางบางซื่อ อย่างไรก็ตาม จำนวนที่จะฉีดแต่ละวัน จะขึ้นอยู่กับจำนวนวัคซีนที่ได้รับการจัดสรรจาก สธ.ต่อไป

ทั้งนี้ จากข้อมูลเบื้องต้น พบว่า มีพนักงานของแต่ละหน่วยงาน ที่จะได้รับการฉีดวัคซีน ประมาณ 24,044 คน ประกอบด้วย องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จำนวน 12,000 คน ซึ่งจะเป็นพนักงานขับรถ พนักงานเก็บค่าโดยสาร และพนักงานประจำท่าปล่อยรถ ขณะที่พนักงานของบริษัทขนส่ง จำกัด (บขส.) จำนวน 1,249 คน ซึ่งสวนใหญ่จะเป็นพนักงานขับรถ และพนักงานประจำรถ ขณะที่การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) มีพนักงานด่านหน้า จำนวนประมาณ 1,100 คน ส่วนใหญ่จะเป็นพนักงานเก็บค่าผ่านทาง และส่วนอื่นๆ ด้วย

ในส่วนระบบรถไฟฟ้าของรัฐภายใต้การกำกับดูแลของ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) จำนวนประมาณ 1,000 คน โดยในจำนวนดังกล่าว จะรวมพนักงานของบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ที่ปฎิบัติงานในสถานีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน และสายสีม่วงด้วย ขณะที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จำนวน 5,683 คน ประกอบไปด้วยพนักงานประจำขบวนรถ พนักงานประจำสถานี คนขับรถไฟ และตำรวจรถไฟ ด้านบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด หรือผู้ให้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิ้งก์ จำนวน 700 คน  
             
นอกจากนี้ ส่วนของการขนส่งทางน้ำนั้น กรมเจ้าท่า (จท.) ที่ดูแลกำกับเรือโดยสาร ได้รายงานว่า มีจำนวนรวมประมาณ 2,312 คน แบ่งเป็น ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ของกรมเจ้าท่าส่วนกลาง จำนวน 1,200 คน ขณะที่ พนักงานเรือคลองแสนแสบ จำนวน 203 คน, พนักงานเรือด่วนเจ้าพระยา จำนวน 184 คน, พนักงานท่าเรือข้ามฟาก จำนวน 143 คน และนักเรียนศูนย์ฝึกพาณิชย์นาวี จำนวน 582 คน