17 พ.ค. 2564 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้กรมการค้าภายใน เร่งรัดเจรจากับผู้นำเข้าปุ๋ย 2-3 ครั้งแล้ว โดยขอให้ดำเนินการในการที่จะไม่ปรับขึ้นราคาไปจากราคาที่ได้แจ้งไว้กับกระทรวงพาณิชย์ และขณะเดียวกัน ได้ดำเนินการในการที่จะกำหนดมาตรการให้สหกรณ์ กลุ่มวิสาหกิจชุมชน และกลุ่มเกษตรกรต่างๆ ได้ดำเนินการที่จะซื้อปุ๋ยหรือแม่ปุ๋ยในราคาพิเศษ จากผู้นำเข้าหรือผู้จำหน่ายรายใหญ่ ซึ่งกรมการค้าภายในได้เริ่มดำเนินแล้ว

  “ได้มีการรวบรวมความต้องการของสมาชิกเหล่านี้ เพื่อลดต้นทุนปุ๋ยที่จะใช้ในกลุ่มต่างๆ ให้ลดน้อยลง และได้จำกัดราคา ควบคุมราคาในตลาดไม่ให้สูงขึ้นไปมากกว่านี้ เพราะจะกระทบต่อต้นทุนการผลิตของภาคเกษตรกร รวมทั้งได้สั่งการให้ลงไปตรวจสอบติดตามเรื่องนี้โดยใกล้ชิด หากพบการค้ากำไรเกินควร ก็จะดำเนินการตามกฎหมายทันที”นายจุรินทร์กล่าว

สำหรับราคาปุ๋ยที่ปรับตัวสูงขึ้น มีสาเหตุมาจากในช่วงที่ผ่านมา อินเดียมีการประมูลการนำเข้าปุ๋ยจำนวนมาก  ประกอบกับจีน ซึ่งเป็นผู้ผลิตแม่ปุ๋ยรายใหญ่ ได้เก็บสต๊อกปุ๋ยไว้ใช้ในฤดูที่จะทำการเกษตรฤดูใหม่ จึงทำให้มีส่วนดึงให้ราคาปุ๋ยในตลาดราคาสูงขึ้น และกระทบต่อต้นทุนการนำเข้าปุ๋ยในไทย

 นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า สถานการณ์การจำหน่ายหน้ากากอนามัย เจลล้างมือ และแอลกอฮอล์ ยังคงมีปริมาณเพียงพอและจำหน่ายตามปกติ และกรมฯ ยังได้กำชับให้ผู้ประกอบการเพิ่มกำลังการผลิตอย่างเต็มที่ ทำให้มีสินค้าเข้าสู่ตลาดต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่สายตรวจลงพื้นที่ตรวจสอบทั้งในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ส่วนในต่างจังหวัด สำนักงานพาณิชย์จังหวัดได้มีการติดตามสถานการณ์และตรวจสอบอย่างใกล้ชิดเช่นเดียวกัน

ทั้งนี้ ได้เน้นย้ำกับผู้จำหน่ายว่าจะต้องปิดป้ายแสดงราคาให้ชัดเจน และหน้ากากอนามัยต้องจำหน่ายตามราคาที่กำหนดไม่เกินชิ้นละ 2.50 บาท หากพบมีการจำหน่ายเกินกว่าราคาที่กำหนด จะดำเนินการอย่างเด็ดขาด กรณีจำหน่ายหน้ากากอนามัยทางการแพทย์เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หรือกรณีที่ไม่ติดป้ายแสดงราคา มีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท ทั้งนี้ ประชาชนสามารถแจ้งได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ